หลีกหนีจากบทบาทชีวิตอันแสนวุ่นวายสู่ค่ำคืนสุดโรแมนติกนั่งกินดื่มชมวิวรอบๆเมืองบนตึกชั้นดาดฟ้าใจกลางกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา ณ บาร์ลึกลับแห่งใหม่ฝั่งธนบุรีชื่อว่า "S'amuser-ซามูเซ่" จุดเด่นของภัตตาคารนี้ซึ่งดึงดูดให้อยากมาสักครั้งเพราะอยู่ตึกเดียวกันกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ "Canvas and Co." จึงสามารถรับประทานอาหารพร้อมเดินเล่นเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆโดยสลับเปลี่ยนการจัดแสดงผลงานและซื้อขายจิตรกรรมทุก 2 เดือนที่สำคัญคือเหล่าเมนูเครื่องดื่ม Mocktail เห็นวิดีโอคุณบาร์เทนเดอร์บรรจงชงตกแต่งอย่างสวยงามอลังการแลดูน่าลิ้มลอง วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวเพียงกดค้นหาปักหมุดขับตามระบบของแผนที่บนมือถือเมื่อถึงแล้วจอดตรงถนนบริเวณไหนก็ได้ภายในซอยสุทธิศึกษาหรือเจริญรัถ 6 ยาวตลอดทั้งแนว สำหรับบริการขนส่งสาธารณะแนะนำว่าขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีวงเวียนใหญ่บันไดออก 1 ค่อยโบกเรียกรถแท็กซี่,นั่งซ้อนวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเลี้ยวเข้ากรุงธนบุรี 1 ทะลุเจริญรัถ 4 อีกประมาณ 500 เมตร จะพบเจอตึกแถวขนาดใหญ่โตความสูงรวมสี่ชั้นด้านหน้าแขวนกระจกทรงแปดเหลี่ยมเสือคาบกระบี่สีเทาเข้มดุดันโดดเด่นไม่เหมือนใครก้าวอ้อมวนข้างขวามือมีประตูลับส้มสดใสเลื่อนเปิดเพื่อนำพาเราไปยัง Rooftop กลางวันทำ Art Gallery ส่วนช่วงเย็นกลายร่างเป็นผับนั่นเองครับ

อาคารพาณิชย์บริเวณห้องกระจกใสชั้นล่างเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในการจัดงานนิทรรศการของทาง "Canvas and Co." ซึ่งสลับเปลี่ยนคนเช่าอยู่เรื่อยๆเช่น "The Art of You" สตูดิโอจัดแสงถ่ายรูปด้วยกล้อง Digital Medium Format และ Large Format Film พิมพ์อัดกระดาษใส่กรอบพร้อมแขวนโชว์ประทับลายเซ็นพี่ช่างภาพโดยได้รับความนิยมดีมาก / "The Art of Sound Healing" หนึ่งศาสตร์การใช้คลื่นสั่นสะเทือนด้วยเสียงหลายรูปแบบเพื่อผ่อนคลายร่างกายส่งพลังถึงจิตใจทั้งเคาะขันวัสดุคริสตัลสลับหินเกลือหิมาลายันตีฆ้องบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะ / ล่าสุด "2024 Destiny Canvas Unfold Your Future With Tarot And Oracle" เปิดไพ่ยิปซีเพื่อทำนายอนาคตสำรวจดวงชะตากับไอเทมสายมูน่ารักวางจำหน่ายให้ซื้อกลับบ้าน สำหรับตึกเก่าต้องมีชั้นลอยแบรนด์สร้างแผ่นโปสเตอร์โฆษณาแปะติดประดับตามกำแพงจำลองพระจันทร์เดือนเพ็ญสว่างไสวแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเก็บภาพอวดเพื่อนลงโซเชียล เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆจนถึงด้านบนสุดก็จะพบ Rooftop กั้นระเบียงเอาไว้ชมวิวรอบเมืองกรุงเทพมหานครย่านธนบุรีครบถ้วน 360 องศาจริง ช่วงแรกเรียงโต๊ะ-เก้าอี้คอยเสิร์ฟอาหารบริการลูกค้าตามปกติแต่เมื่อเทศกาลปีใหม่จำนวนคนแออัดจึงเคลียร์ทุกอย่างเหลือแค่ลานกว้างว่างเปล่าเลือกมุมกันเองตามอิสระครับผม

สำหรับบริเวณชั้น 2 เป็นพื้นที่งาน Art Gallery ในนามแห่งแบรนด์ชื่อ "Canvas and Co." ปัจจุบันกำลังจัดแสดงนิทรรศการ "Lilly Timmy My Love And My Sunshine" แปลเป็นภาษาไทยว่า "ลิลลี่-ทิมมี่ความรักและความสดใส" เกี่ยวกับแนวคิดอารมณ์ด้านบวกของมนุษย์ไม่ว่าจะสุข/ยินดีหรือปลื้มปีติล้วนทำให้มีสีสันแต่งแต้มชีวิตซึ่งเกิดเยอะมากสุดก็คือรักเพราะทำให้เชื่อมโยงผูกพันกับผู้อื่นเช่นครอบครัว/โรแมนติกเข้าสู่การเดินทางใช้เวลาแล้วค่อยๆพัฒนาเปรียบเหมือนปลายพู่กันที่ถูกเติมจนเต็มผ่านมุมมองจิตรกรชื่อดัง "คุณภัทร ธำรงค์สกุลศิริ" เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 29 มีนาคม 2567 หากรู้สึกถูกใจอยากได้ภาพสวยงามกลับบ้านเขาแปะราคาไว้เห็นชัดเจนทุกๆตำแหน่ง โดยร้าน "S'amuser-ซามูเซ่" ยังแอบซ่อนมุมพิเศษรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่แบบส่วนตัวขนาดกว้างขวางอยู่ด้านหลังประตูแลดูผ่านๆเหมือนกรอบรูปเตรียมอุปกรณ์ต่างๆครบถ้วนทั้งเครื่องเสียงยี่ห้อดังคุณภาพสูง,โทรทัศน์รุ่นใหม่ไซส์ยักษ์,โซฟาเบาะนุ่มเสริมหมอนอิงหลากหลายสไตล์,ห้องน้ำสะอาดพร้อมมินิบาร์แช่เย็นเครื่องดื่มติดครัวหลักออกมาสั่งอาหารข้างนอกเพียงไม่กี่ก้าว เงื่อนไขต้องจ่านเงินค่ามัดจำ 2,000 บาท โทรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันรับรอบละ 4-6 ท่านมากกว่า 6 ขึ้นไปคิดเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 8 คนนั่งฟินยาว 18:00-24:00 น.ครับผม

เดินวนข้างล่างแวะชมผลงานศิลปะสวยงามเสริมพลังจิตใจจนเต็มเปี่ยมแล้วก็ได้เวลาอิ่มท้องกันบริเวณชั้น 4 ที่ร้าน "S'amuser-ซามูเซ่" จุดเด่นซึ่งทางแบรนด์พยายามโฆษณาให้เราเห็นบ่อยๆนั่นคือเคาน์เตอร์เครื่องดื่มซึ่งความพิเศษอยู่ตรงบาร์เทนเดอร์หน้าตาสุดหล่อชื่อว่า "คุณถั่ว" เรียนจบทักษะพิเศษด้าน The Art of Distillery เรียนรู้เรื่องการสกัดและผสมรวมกลิ่นต่างๆให้ออกมารูปแบบใหม่หอมอร่อยกลมกล่อมลงตัวแตกต่างจากคนอื่นแค่ชงตามสูตรพื้นฐานธรรมดาทั่วไปเท่านั้น สำหรับผู้ชื่นชอบนั่งชิลรับประทานอาหารพร้อมฟังดนตรีสดเขาจัดการแสดงเฉพาะวันศุกร์กับเสาร์เริ่มเล่นตั้งแต่เวลา 18:00-24:00 น.สามารถฝากพนักงานขอเพลงตามสะดวก โดยจัดแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ 1. ห้องกระจกเปิดแอร์วางโต๊ะทรงกลมสลับเก้าอี้ขนาดเล็กหลากหลายสีสันเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสบายตลอดคืน 2. หน้าเคาน์เตอร์บาร์จิบแอลกอฮอล์ย้อมใจตกแต่งแนวย้อนยุครองรับเหล่าหนุ่มสาวโสดพูดคุยพบปะทักทายรับชมวิธีเทรินเหล้าฉบับ Signature ไม่เหมือนใคร 3. ลานกว้างติดระเบียงชายคาข้างนอกรองรับสมาชิกกลุ่มใหญ่ๆตอบโจทย์เรื่องวางจานปริมาณเยอะใช้เสียงพูดคุยดัง 4. โซฟานุ่มเสริมหมอนอิงแหงนมองขึ้นบนท้องฟ้าชมวิวเมืองกรุงเทพมหานครย่านธนบุรี 180 องศาท่ามกลางแสงโคมไฟสลัวโรแมนติกมากครับผม

เลือกมุมที่อยากนั่งให้เรียบร้อยน้องพนักงานก็วางเล่มรายการอาหารบนโต๊ะโดยทางร้าน "S'amuser-ซามูเซ่" แบ่งเมนูเป็นจานคาว-หวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกจากแยกกันชัดเจนสามารถกดเพื่อชมฉบับออนไลน์ได้เลยตรงลิงก์นี้ > https://citly.me/w6fAF < ใช้เวลารอเพียงสักพักชามแรกถูกยกมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วนั่นคือ "สลัดปลาทูน่า" ราคา 295 บาท ผักสดตามฤดูกาลสลับไปในแต่ละวันเช่นเรดคอรัล,กรีนคอรัล,มะเขือเทศราชินี,ข้าวโพดหวานคลุกเคล้าน้ำส้มสายชูบัลซามิกผสมเปลือกส้มยูซุรสชาติเปรี้ยวกลิ่นหอมเฉพาะตัวช่วยเพิ่มความสดชื่นท็อปปิ้งสเต๊กทูน่าเนื้อสีแดงล้วนแล่ชิ้นหนาไร้ไขมันแทรกหรืออากามิขนาดใหญ่ย่างแนบกระทะเหล็กพอผิวด้านนอกสุกสไตล์บลูแรร์เคลือบเม็ดงาก่อนตัดแบ่งพอดีคำตอบโจทย์สำหรับผู้รักสุขภาพตัวจริง / "ยำไข่ดาวกรอบ" ราคา 215 บาท ไข่ไก่ไซส์จัมโบ้ทอดน้ำมันเยอะพร้อมกันรวมสามฟองจนขอบกรอบฟูสีเหลืองสุกครบ 100% หั่นเรียงใส่ภาชนะตักน้ำยำสไตล์โบราณอัดเครื่องแน่นจัดเต็มทั้งหมูสับรวน,กุ้งแชบ๊วยตัวยักษ์,พริกขี้หนู,หอมหัวแดง,หอมเจียว,ต้นหอมซอยกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ราดประดับยอดผักชีถึงมะนาวคั้นใหม่น้ำปลาแท้กลมกล่อมเผ็ดแค่ระดับกลางไม่ค่อยจัดจ้านนักชวนนั่งรับประทานได้อีกเรื่อยๆเหมาะแก่การออเดอร์ตั้งไว้กลางวงสนทนาเคียงคู่ค็อกเทลฐานะของแกล้มครับผม

อย่างที่เราเคยกล่าวเอาไว้เบื้องต้นว่าจุดเด่นของทางร้าน "S'amuser-ซามูเซ่" นั่นก็คือเครื่องดื่มค็อกเทลซึ่งถูกรังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์คนเก่งผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผสมผสานกลิ่นจึงก่อเกิดเป็น Signature เฉพาะตัวที่สามารถหาลองชิมได้แค่เจ้าเดียวเท่านั้น เริ่มต้นกันด้วยแก้วขายดีอันดับ 1 ชื่อว่า "S'amuser-ส้มซ่า" ราคา 350 บาท ส่วนประกอบหลักได้แก่เหล้ารัมสีขาวใสระดับแอลกอฮอล์รุนแรง,อะเพโรลสีส้มผสานสมุนไพรที่ใช้ทำยาควินินถูกผลิตในเมืองปาดัวประเทศอิตาลี,ไซรัปไวท์ช็อกโกแลตชนิดเข้มข้น,เหล้าขมเปลือกส้มเซบียากระวานเมล็ดยี่หร่าผักชีโป๊ยกั๊กเคี่ยวน้ำตาลไหม้,ท็อปปิ้งโฟมผลยูซุญี่ปุ่นปิดท้ายโรยผงสีชมพูตกแต่งสัญลักษณ์รูปป้ายไฟแบรนด์แลดูสวยงามต้องจิบทันทีเพราะฟองสลายหายเร็วมากให้อารมณ์เหมือนโซจูเกาหลีรสนมเปรี้ยวใส่ส้มหวานฉ่ำไหลลื่นลงคอ / "นะหน้าทอง" ราคา 350 บาท วิสกี้ผ่านขั้นตอน Fat Wash ไส้กรอกเผ็ดโชริโซ่,น้ำเชื่อมฝักวานิลลา,ใบมินต์หรือสะระแหน่ตำละเอียดกรองเทใส่ภาชนะทองแดงทรงสูงประดับชิ้นส้มสไลซ์บางตากแห้ง,แผ่นแป้งทอดน้ำมันใส่สีหน้าตาเหมือนปะการังใต้ทะเลเรียก Coral Tuile ปิดท้ายสเปรย์ผงทองคำบริสุทธ์เกรดอาหารปลอดภัยต่อผู้บริโภค ทุกๆรายการอร่อยซดง่ายไร้ความขม,เหม็นฉุนขึ้นจมูกข้อควรระวังเล็กน้อยหากเพลินเกินอาจวูบลงไปนอนกลิ้งบนพื้นเลยครับผม