ขอเกรินก่อนนะคะ คือ... บ้านหลังที่เราอยู่เป็นบ้านปู่ (ปู่ไม่แท้) เค้ายกให้ย่าเรา
แต่ย่าเราดันเสียไปก่อน ก่อนที่จะโอนมรดก ซึ่ง บ้านจึงตกเป็นของลูกๆ 4 คน👱🏻👱🏻♀️👩🏻🦳🧔🏼♂️
ซึ่งจริงๆ👨🏻🦳 ปู่เราก็สามารถเอาคืนได้ แต่เค้ายกให้ เรื่องจึงเกิด....
บ้านตกมาถึงลูก 4 คน มี 1 คนอยู่ ตปท. และอีก 3 คนยังอยู่ที่ไทย
ลุงเรา ซึ่งเป็นญาติคนสุดท้อง จะชอบมีปัญหาภายในบ้านตลอด
บอกจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟไม่คุ้มกะที่เค้าอยู่ เค้าอยู่คนเดียวทำไมต้องออกค่าใช้จ่ายในบ้านเท่ากัน
ข้าวสารอาหารแห้ง ภายในบ้านแต่ก่อนเคยใช้ด้วยกัน เค้าจึงแยกไว้ในห้องเค้าคนเดียว
ซื้อตู้เย็นไว้ในห้อง เครื่องปรุงต่างๆ แต่ยังคงใช้พวกเครื่องซักผ้า เตาแก๊สรวมกะคนในบ้าน
ซึ่งคนในบ้านไม่ได้หวงอยู่แล้ว ....จากนั้นจึงเกิดทะเลาะกันขึ้น และลุงจึงบอกว่า ขอเงินส่วนที่เป็นของเขาและเขาจะออกไปเอง
👩🏻🦳ป้าเราจึงนึกถึงครอบครัวเรา และเขา ที่เกื้อหนุนกันมาตลอด ยามที่ป้าเราไม่มี ครอบครัวเราให้เงินและช่วยเหลือ ลูกป้าแม่เราเลี้ยง
เปรียบเหมือนลูกอีกคน พาไปไหนมาไหน แบบไม่เคยเอาตังค์ป้าเลย จะปิ้น จะทำรายงานก็ใช้คอมเรา เครื่องปิ้นเราประมาณนี้
ไม่นับรวมตอนกินข้าว บลาๆๆ เครื่องใช้ในบ้านครอบครัวเราตอนนั่นมีกำลังซื้อก็ซื้อของเข้าบ้านตลอด พอเวลาแม่เราไม่มี
ป้าเราก็เกื้อหนุน ป้าจึงตัดสินใจ เพื่อตัดปัญหา ให้ลูกหลานได้อยู่สบาย ไม่ต้องปวดหัวในอนาคต
💋เรา ซึ่งเป็นครอบครัว มีสมาชิก 4 คน ป้ามีสมาชิก 3 คน จึงกู้เงินมาให้ครอบครัวลุงและให้ลุงเซ็นรับเงิน และออกจากที่นี่
เรา กะครอบครัวป้า จึงเป็นหนี้ธนาคาร เพื่อให้เงินตามที่ลุงขอ และเราก็ผ่อนกับครอบครัวป้า 2 ครอบครัว
จากนั้นป้าเราเสีย ลูกสาวรับมรดกต่อ ตอนนี้ก็เป็นรุ่นของเรา ที่มีกัน 3 คนพี่น้อง เรามีน้อง 1 คน เป็นพี่น้องกันแท้ๆ
ป้ามีลูก 1 ซึ่งนับเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ลูกป้าจึงผ่อนต่อไป แต่เดิมทีบ้านหลังนี้ เป็นบ้านปู่ (ไม่แท้) จึงต้องการให้พี่น้องมีสิทธิ์ที่เท่ากัน
คือได้บ้านหลังนี้เท่ากัน โดยจะ หาร 3 ไปเลย แต่ลูกป้าไม่ยอม บอกว่าส่วนของเขา เขาได้เต็มๆ แต่ส่วนของเราเราต้องแบ่งให้กับน้องสาวแท้ๆเอง
ซึ่งถ้าตามหลักกฏหมายก็คงใช่ แต่ถ้าตามหลักแฟร์คือ บ้านหลังนี้ถ้าปู่ไม่ให้ใคร ก็ไม่มีใครได้ด้วยซ้ำ เราจึงมองว่า เป็นบ้านส่วนกลางไปเลย
สิทธิเท่ากัน หารเท่ากัน
และอีก 1 ประเด็นคือ ช่วงก่อนป้าเราเสีย ครอบครัวเราช่วงนั้นไม่ค่อยมีตัง พูดง่ายๆ คือล้ม แต่มาเป็นในช่วงไม่กี่ปีหลังเองนะคะ
ป้าเราซึ่งพอมีรายได้ จึงซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้ามาแทน แต่พอป้าเสีย แม่เราก็ซื้อแบบพอมี พอกิน เราจึงเป็นคนซื้อของเข้าบ้านเป็นหลัก
ส่วนน้องสาวเราแท้ๆ ไม่ต้องพูดถึง ทำงาน มีเงินเดือน ช่วยจ่ายแค่ค่าไฟเท่านั้น ลูกป้าก่อนหน้าออกค่าบ้านแทนป้า และก็ออกค่าไฟแต่พอมาช่วงเดือน เมษา
ค่าไฟขึ้นเป็น หมื่น ลูกป้าเลยบ่นว่าจ่ายไม่ไหว เราเลยเอาอย่างนี้ งั้นจ่ายค่าบ้าน(เงินที่กู้มาให้ลุง) แทนเรา แล้วแม่เราจะจ่ายค่าไฟแทนกับน้องสาวเราแท้ๆ
.....ทุกคนคงสงสัย เราจ่ายอะไร พอดีมีหนี้อีก 1 ก้อน ที่แม่เราให้ไปกู้ เพื่อทำห้องให้น้องสาวเราแท้ๆ และต่อเติมบ้านที่ทรุดโทรม เราคุยกะแม่จึงรับส่วนนั้นคนเดียวเต็มๆ เพราะมันสูงกว่าค่าไฟที่เฉลี่ยแล้วหารออกมา และยังมีค่าเน็ตบ้าน ค่าข้าวของเครื่องใช้ในครัว ค่ารับผิดชอบหมาที่ป้า
เอาหมามาให้ลูกตัวเองเลี้ยง แต่ลูกตัวเองไม่เลี้ยง ภาระเลยตกมาที่เรา
ส่วนลูกป้าก็ออกแค่ค่าบ้าน ก้อนที่กู้ให้ลุงเราเท่านั้น
⛺️พอพักหลัง แม่และพ่อเรา ไม่ค่อยมีรายได้ เราเลยคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน และบ้านหลังนี้
1 ค่าใช้จ่ายในบ้านหาร 3 นะ (เรา น้องสาวแท้ และลูกป้า)
2 บ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ได้มาแบบฟลุ๊กๆ หาร 3 คนพี่น้องนะ (ลืมบอกป้าที่ ตปท. ยกให้หลานเลย เขาไม่กลับมา)
⛱️แต่ลูกป้ากลับบอกว่า ....ไม่ได้ หาร 4 พ่อแม่เราด้วย เพราะอยู่กันคนละห้อง หารตามห้อง <<ซึ่งก่อนหน้า พ่อของน้องสาว (ลูกป้า)
อยู่ห้องนึงคนเดียว แม่เราตอนมีเงิน ยังไม่ได้คิดตังค์เลย ให้อยู่ฟรี กินฟรีของในบ้านด้วยซ้ำ แม่เรานับเป็น 1 ครอบครัว ไม่ได้นับห้องใครห้องมัน
แล้วช่วงตอนที่ครอบครัวเรามีตังค์นะ ก็เลี้ยงครอบครัวลูกป้าตลอด ป้าเราไม่มีเงินหาหมอ พ่อเราก็ให้เงินไปรักษา ข้าวสารต้องสลับกันซื้อป้าร้องไห้ไม่มีตังค์
พ่อเราก็ซื้อบอกไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องคืนเงินเลย เค้าถือว่าพี่น้องไม่คิดอะไร ....แต่ลูกป้าเรากลับเคี้ยวมาก....
🏘️ บ้านหลังนี้ที่บอกว่าหาร 3 ลูกป้าบอกไม่ได้ ของเขาส่วนนึง ส่วนของเรา เราก็หารครึ่งกะน้องสาวแท้ๆไป ซึ่งตามกฏหมายใช่ แต่ถ้าปู่ไม่ได้ให้บ้านนี้มา
ก็ไม่มีใครได้บ้านนี้เหมือนกัน ซึ่งเราพยายามทำให้ได้เท่ากันหมด เพราะแต่ละคน มาจาก 0 แต่ลูกป้าก็ไม่ยอม ของภายในบ้าน พึ่งนึกได้พึ่งซื้อของเข้ามา
แต่ก็ไม่ได้ซื้อเข้ามาตลอดนะ ซึ่งเราก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะเราซื้อให้พ่อแม่ ให้น้องๆเราอยู่แล้ว
🏠ค่าบ้านก้อนแรก ที่ให้ลุงออกจากบ้าน ก้อนที่ 2 ห้อง และค่าทำบ้านน้องสาวแท้ๆ ถ้าเราจะคิดเงินจริงๆ ค่าบ้านก้อนที่ 2 ลูกป้าต้องรับผิดชอบหรือป่าวล่ะ
แต่เราก็ไม่ได้คิดลูกป้าไงเพราะ เราจ่ายเอง เราแค่มองว่า ทำไมลูกป้าถึง เห็นแกตนเองไม่สนใจพี่น้อง คิดเอาแต่ตนเองได้ และสบาย
📌คำถามคือ
1 ควรทำอย่างไรกับปัญหาแบบนี้
2 เราคิดผิด หรือคิดถูกที่บ้านหลังนี้ควรหาร 3 ให้เท่ากันเพราะเป็นบ้านกงสี จึงไม่ควรมีใครได้มากว่า ได้น้อยกว่า
3 ค่าใช้จ่ายในบ้าน หาร 3 หรือควรหาร 4 ที่มีพ่อ แม่เราด้วย (เรามองแค่ว่า พ่อแม่เราแก่แล้ว ไม่มีรายได้ มันถึงยุคเราแล้วที่ต้องช่วยกัน )
แบ่งมรดกเรื่องบ้าน และค่าใช้จ่ายบ้าน ไม่ลงตัว ทำไงดี
แต่ย่าเราดันเสียไปก่อน ก่อนที่จะโอนมรดก ซึ่ง บ้านจึงตกเป็นของลูกๆ 4 คน👱🏻👱🏻♀️👩🏻🦳🧔🏼♂️
ซึ่งจริงๆ👨🏻🦳 ปู่เราก็สามารถเอาคืนได้ แต่เค้ายกให้ เรื่องจึงเกิด....
บ้านตกมาถึงลูก 4 คน มี 1 คนอยู่ ตปท. และอีก 3 คนยังอยู่ที่ไทย
ลุงเรา ซึ่งเป็นญาติคนสุดท้อง จะชอบมีปัญหาภายในบ้านตลอด
บอกจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟไม่คุ้มกะที่เค้าอยู่ เค้าอยู่คนเดียวทำไมต้องออกค่าใช้จ่ายในบ้านเท่ากัน
ข้าวสารอาหารแห้ง ภายในบ้านแต่ก่อนเคยใช้ด้วยกัน เค้าจึงแยกไว้ในห้องเค้าคนเดียว
ซื้อตู้เย็นไว้ในห้อง เครื่องปรุงต่างๆ แต่ยังคงใช้พวกเครื่องซักผ้า เตาแก๊สรวมกะคนในบ้าน
ซึ่งคนในบ้านไม่ได้หวงอยู่แล้ว ....จากนั้นจึงเกิดทะเลาะกันขึ้น และลุงจึงบอกว่า ขอเงินส่วนที่เป็นของเขาและเขาจะออกไปเอง
👩🏻🦳ป้าเราจึงนึกถึงครอบครัวเรา และเขา ที่เกื้อหนุนกันมาตลอด ยามที่ป้าเราไม่มี ครอบครัวเราให้เงินและช่วยเหลือ ลูกป้าแม่เราเลี้ยง
เปรียบเหมือนลูกอีกคน พาไปไหนมาไหน แบบไม่เคยเอาตังค์ป้าเลย จะปิ้น จะทำรายงานก็ใช้คอมเรา เครื่องปิ้นเราประมาณนี้
ไม่นับรวมตอนกินข้าว บลาๆๆ เครื่องใช้ในบ้านครอบครัวเราตอนนั่นมีกำลังซื้อก็ซื้อของเข้าบ้านตลอด พอเวลาแม่เราไม่มี
ป้าเราก็เกื้อหนุน ป้าจึงตัดสินใจ เพื่อตัดปัญหา ให้ลูกหลานได้อยู่สบาย ไม่ต้องปวดหัวในอนาคต
💋เรา ซึ่งเป็นครอบครัว มีสมาชิก 4 คน ป้ามีสมาชิก 3 คน จึงกู้เงินมาให้ครอบครัวลุงและให้ลุงเซ็นรับเงิน และออกจากที่นี่
เรา กะครอบครัวป้า จึงเป็นหนี้ธนาคาร เพื่อให้เงินตามที่ลุงขอ และเราก็ผ่อนกับครอบครัวป้า 2 ครอบครัว
จากนั้นป้าเราเสีย ลูกสาวรับมรดกต่อ ตอนนี้ก็เป็นรุ่นของเรา ที่มีกัน 3 คนพี่น้อง เรามีน้อง 1 คน เป็นพี่น้องกันแท้ๆ
ป้ามีลูก 1 ซึ่งนับเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ลูกป้าจึงผ่อนต่อไป แต่เดิมทีบ้านหลังนี้ เป็นบ้านปู่ (ไม่แท้) จึงต้องการให้พี่น้องมีสิทธิ์ที่เท่ากัน
คือได้บ้านหลังนี้เท่ากัน โดยจะ หาร 3 ไปเลย แต่ลูกป้าไม่ยอม บอกว่าส่วนของเขา เขาได้เต็มๆ แต่ส่วนของเราเราต้องแบ่งให้กับน้องสาวแท้ๆเอง
ซึ่งถ้าตามหลักกฏหมายก็คงใช่ แต่ถ้าตามหลักแฟร์คือ บ้านหลังนี้ถ้าปู่ไม่ให้ใคร ก็ไม่มีใครได้ด้วยซ้ำ เราจึงมองว่า เป็นบ้านส่วนกลางไปเลย
สิทธิเท่ากัน หารเท่ากัน
และอีก 1 ประเด็นคือ ช่วงก่อนป้าเราเสีย ครอบครัวเราช่วงนั้นไม่ค่อยมีตัง พูดง่ายๆ คือล้ม แต่มาเป็นในช่วงไม่กี่ปีหลังเองนะคะ
ป้าเราซึ่งพอมีรายได้ จึงซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้ามาแทน แต่พอป้าเสีย แม่เราก็ซื้อแบบพอมี พอกิน เราจึงเป็นคนซื้อของเข้าบ้านเป็นหลัก
ส่วนน้องสาวเราแท้ๆ ไม่ต้องพูดถึง ทำงาน มีเงินเดือน ช่วยจ่ายแค่ค่าไฟเท่านั้น ลูกป้าก่อนหน้าออกค่าบ้านแทนป้า และก็ออกค่าไฟแต่พอมาช่วงเดือน เมษา
ค่าไฟขึ้นเป็น หมื่น ลูกป้าเลยบ่นว่าจ่ายไม่ไหว เราเลยเอาอย่างนี้ งั้นจ่ายค่าบ้าน(เงินที่กู้มาให้ลุง) แทนเรา แล้วแม่เราจะจ่ายค่าไฟแทนกับน้องสาวเราแท้ๆ
.....ทุกคนคงสงสัย เราจ่ายอะไร พอดีมีหนี้อีก 1 ก้อน ที่แม่เราให้ไปกู้ เพื่อทำห้องให้น้องสาวเราแท้ๆ และต่อเติมบ้านที่ทรุดโทรม เราคุยกะแม่จึงรับส่วนนั้นคนเดียวเต็มๆ เพราะมันสูงกว่าค่าไฟที่เฉลี่ยแล้วหารออกมา และยังมีค่าเน็ตบ้าน ค่าข้าวของเครื่องใช้ในครัว ค่ารับผิดชอบหมาที่ป้า
เอาหมามาให้ลูกตัวเองเลี้ยง แต่ลูกตัวเองไม่เลี้ยง ภาระเลยตกมาที่เรา
ส่วนลูกป้าก็ออกแค่ค่าบ้าน ก้อนที่กู้ให้ลุงเราเท่านั้น
⛺️พอพักหลัง แม่และพ่อเรา ไม่ค่อยมีรายได้ เราเลยคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน และบ้านหลังนี้
1 ค่าใช้จ่ายในบ้านหาร 3 นะ (เรา น้องสาวแท้ และลูกป้า)
2 บ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ได้มาแบบฟลุ๊กๆ หาร 3 คนพี่น้องนะ (ลืมบอกป้าที่ ตปท. ยกให้หลานเลย เขาไม่กลับมา)
⛱️แต่ลูกป้ากลับบอกว่า ....ไม่ได้ หาร 4 พ่อแม่เราด้วย เพราะอยู่กันคนละห้อง หารตามห้อง <<ซึ่งก่อนหน้า พ่อของน้องสาว (ลูกป้า)
อยู่ห้องนึงคนเดียว แม่เราตอนมีเงิน ยังไม่ได้คิดตังค์เลย ให้อยู่ฟรี กินฟรีของในบ้านด้วยซ้ำ แม่เรานับเป็น 1 ครอบครัว ไม่ได้นับห้องใครห้องมัน
แล้วช่วงตอนที่ครอบครัวเรามีตังค์นะ ก็เลี้ยงครอบครัวลูกป้าตลอด ป้าเราไม่มีเงินหาหมอ พ่อเราก็ให้เงินไปรักษา ข้าวสารต้องสลับกันซื้อป้าร้องไห้ไม่มีตังค์
พ่อเราก็ซื้อบอกไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องคืนเงินเลย เค้าถือว่าพี่น้องไม่คิดอะไร ....แต่ลูกป้าเรากลับเคี้ยวมาก....
🏘️ บ้านหลังนี้ที่บอกว่าหาร 3 ลูกป้าบอกไม่ได้ ของเขาส่วนนึง ส่วนของเรา เราก็หารครึ่งกะน้องสาวแท้ๆไป ซึ่งตามกฏหมายใช่ แต่ถ้าปู่ไม่ได้ให้บ้านนี้มา
ก็ไม่มีใครได้บ้านนี้เหมือนกัน ซึ่งเราพยายามทำให้ได้เท่ากันหมด เพราะแต่ละคน มาจาก 0 แต่ลูกป้าก็ไม่ยอม ของภายในบ้าน พึ่งนึกได้พึ่งซื้อของเข้ามา
แต่ก็ไม่ได้ซื้อเข้ามาตลอดนะ ซึ่งเราก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะเราซื้อให้พ่อแม่ ให้น้องๆเราอยู่แล้ว
🏠ค่าบ้านก้อนแรก ที่ให้ลุงออกจากบ้าน ก้อนที่ 2 ห้อง และค่าทำบ้านน้องสาวแท้ๆ ถ้าเราจะคิดเงินจริงๆ ค่าบ้านก้อนที่ 2 ลูกป้าต้องรับผิดชอบหรือป่าวล่ะ
แต่เราก็ไม่ได้คิดลูกป้าไงเพราะ เราจ่ายเอง เราแค่มองว่า ทำไมลูกป้าถึง เห็นแกตนเองไม่สนใจพี่น้อง คิดเอาแต่ตนเองได้ และสบาย
📌คำถามคือ
1 ควรทำอย่างไรกับปัญหาแบบนี้
2 เราคิดผิด หรือคิดถูกที่บ้านหลังนี้ควรหาร 3 ให้เท่ากันเพราะเป็นบ้านกงสี จึงไม่ควรมีใครได้มากว่า ได้น้อยกว่า
3 ค่าใช้จ่ายในบ้าน หาร 3 หรือควรหาร 4 ที่มีพ่อ แม่เราด้วย (เรามองแค่ว่า พ่อแม่เราแก่แล้ว ไม่มีรายได้ มันถึงยุคเราแล้วที่ต้องช่วยกัน )