แรงงานไทยในโปรตุเกส

จับพลัดจับผลู ได้ไปทำงานโปรตุเกส ไม่มีคนรู้จักไม่มีญาติพี่น้อง ได้ยินเขาคุยกันมาว่ามีงานเก็บผลไม้
ถูกกฏหมายในยุโรป เลยตามหาข้อมูลในเว็บไซต์ต่างๆ
   
         ได้ข้อมูลมาว่ามีจริง คือประเทศโปรตุเกส ไม่ต้องเรียนภาษา สมัคร ตรวจสุขภาพ วางเงิน 30,000 บาท
รองาน ถ้าได้งานแล้ว จะนัดทำวีซ่า แหละรอวันบิน ก่อนบินจ่ายส่วนที่เหลือ

          กลัวโดนหลอก เลยโทรไปถามบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่งใน อุดรธานี เขาบอกว่ามีอยู่จริงและถูกกฎหมาย เลยขอที่อยู่ และไปสมัครงานที่บริษัทเลย

         ค่าหัว คนล่ะ 2××,××× บาท สามารถต่อสัญญาได้เรื่อยๆ จนกว่าเราจะทำงานไม่ไหว บางคนอยู่จนอายุ 50-60 ปี ก็มี

         ค่าแรงขั้นต่ำ 26,000 บาท (ยังไม่หัก ค่าที่พัก น้ำ ไฟ ประกันสังคม )

         ค่าแรงน้อยมากถ้าเทียบกับค่าหัวที่จ่ายไป แต่ที่คนตัดสินใจไปเพราะ รับอายุเยอะ ผู้หญิง 18-45 ปี ผู้ชาย 18-50 ปี และสามารถอยู่ได้ยาวๆหลายสิบปี

          ณ ตอนนั้นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับโปรตุเกสเลย รู้แต่ว่าอยู่ ยุโรป คำว่ายุโรปในความคิดคือ เมืองใหญ่ ความเจริญ สวยงามแหละทันสมัย

         ที่ตัดสินใจยอมจ่ายแพง เพราะคำว่า "ยุโรป" เลย อยากเที่ยว อยากเปิดหู เปิดตา อยากท่องโลกกว้าง

        สมัครงานไว้ประมาณ 3 เดือน
ได้งาน นัดทำวีซ่า ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6 เดือน ได้เดินทาง

        เรากับน้องสาวเดินเรื่องไปทำงานด้วยกัน เดินทางพร้อมกันมีทั้งหมด 22 คน  

        อบรมที่กรมแรงงาน อุดร 1 วันก่อนออกเดินทาง

        รวมตัวกันที่บริษัท นั่งรถทัวร์ ไปขึ้นเครื่องที่ สนามบินสุวรรณภูมิ  ไปเปลี่ยนเครื่องที่ ตุรกี ใช้เวลานั่งเครื่อง 15 ชม.

        ลงเครื่องที่ ลิสบอน มีรถทัวร์มารอรับ ไปส่งที่บ้านพัก

        จากบ้านพักไปที่ทำงาน ต้องนั่งรถทัวร์ ไปประมาณ 20 นาที

        พัก 3 วัน เซ็นสัญญาใหม่ เดินเอกสารต่างๆ แหละเริ่มงาน

        สวนของเราเป็น สวนราชเบอร์รี่ มีประมาณ 3-4 สายพันธุ์

        หน้าที่ของผู้หญิงคือ เก็บผล
ราชเบอร์รี่ ใส่กล่อง ตามออเดอร์  ผู้ชายจะปลูก รื้อ ถอน และตัดแต่ง ดูแล

        สวนที่เราอยู่เป็นสวนใหญ่ มีคนงานไทย ประมาณ 500 คน แหละคนเนปาล บัลแกเรีย และยูเครน รวมๆประมาณ พันกว่าคน

        สวนมีหลายสาขา นายจ้างเป็นคน ฮอนแลนด์ ไม่มีคนงานโปรตุเกสเลย

       เข้างาน 08.00-17.00 น. ถ้ามีผลไม้เยอะ ก็เลิกงาน 18.00-19.00น. เป็น OT ค่าแรงวันหยุด หรือOT เท่ากับ ชม.ทำงานปกติ ไม่มีการเพิ่มเงิน

       บางที่ถ้างานหมด ไม่มีผลไม้เก็บ ก็จะคัดคนออก ก็คือตกงาน ถ้าใครไม่มีญาติ หรือคนรู้จักก็จะลำบากหน่อย

      ผลไม้จะเยอะช่วงฤดูร้อน ฤดูหนาวผลไม้จะไม่สุก ช่วงนี้คนจะตกงานเยอะสุด

      บางคนก็ดิ้นรนหางานใหม่ หลายๆคนก็ยอมแพ้กลับบ้าน

      สวัสดิการ หน่วยงานช่วยเหลือ ไม่มี ทุกอย่างต้องใช้เงิน คนที่ดูแลหลักๆคือ นายจ้างที่ทำงาน ถ้าตกงาน ก็มีเอเย่นต์ ที่พาเราเข้ามาทำงานคอยช่วยเหลือ

      ถ้าเจอเอเย่นต์ไม่ดี ก็เหมือนถูกปล่อยลอยแพ ต้องดิ้นรนหางานเอง ถ้ามีคนแนะนำงานให้ ก็ต้องจ่ายค่าหางานให้เขา

      สถานทูตก็ดูแลได้ไม่ทั่วถึง โชคดีหน่อยที่สวนเรา ไม่มี นโยบาย คัดคนออก แต่ถ้าไม่มีงานก็ให้หยุด

      ไม่ไล่ออกแต่ก็ไม่ได้เงิน

โปรตุเกส , ยุโรป สิ่งที่คิดไว้กับความเป็นจริงต่างกันมาก เราอยู่ห่างจาก เมืองหลวง นั่งรถประมาณ 3-4 ชม.

       ดังนั้น 2 ข้างทางมีแต่ป่า เซเว่นไม่มี ร้านกาแฟ ขายแต่กาแฟร้อน ไม่มีเมนูเย็น อาหารทุกอย่าง ทั้งสำเร็จรูป และทำใหม่ ทุกอย่างเค็ม เค็มแบบไม่มีรสชาติอื่นปน

       ขนมหวาน ก็หวานเลย หวานสุด หวานขึ้นตาอ่ะ

       ร้านขายเสื้อผ้า ขายของเบ็ดเตล็ด มีเจ้าของเป็นคนจีน หรือไม่ก็คนเนปาล อินเดีย

       ต่างชาติเยอะมาก ทั้งแรงงานและเจ้าของกิจการ ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ
คนโปรตุเกสแท้ๆเลยคือน้อยมาก

      สถานที่บ้านเรือนต่างๆ ค่อนข้างเก่า เหมือนเป็นประเทศที่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่

      การทำงานจะแบ่งกลุ่ม คนไทยก็อยู่เฉพาะกับคนไทย คนชาติอื่นก็อยู่กับชาติตัวเอง และมีหัวหน้าคอยรับงาน และประสานงาน

      จะมีไปช่วยงานกันบ้างถ้าทำไม่ทัน  ดังนั้นโอกาสที่จะได้ใช้ภาษาโปรตุเกสเลยน้อยมาก บางคนอยู่เป็น 10 ปี ยังพูดไม่ได้เลย

      เวลาจะไปติดต่อราชการ หรือทำธุระต่างๆ ค่อนข้างลำบาก ถึงแม้คุณจะพูดภาษาอังกฤษได้ ถ้าคุณอยู่ต่างจังหวัด คือเจ้าหน้าที่จะส่ายหน้าเลย

      คือไม่คุย ไม่ฟัง ต้องพูดภาษาโปรตุเกสเท่านั้น เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีอายุ เลยไม่ได้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเป็นวัยรุ่น คือพูดอังกฤษเก่งเลยล่ะ

      ถึงจะผิดคาดไปเยอะ แต่ก็ไม่ทิ้งความตั้งใจที่อยากจะไปเที่ยว

      เราเลยไปสอบถามคนเก่าๆ ว่าจะนั่งรถโดยสารเข้าลิสบอนที่เป็นเมืองหลวงยังไงอยากไปเที่ยว

     สรุปคือไม่เคยมีใครเคยนั่งรถโดยสารเลย คนไทยที่นี่เวลาจะไปไหนก็คือเหมารถไป ซึ่งค่ารถแพงมาก

     คนที่มีบัตรเรสซิเดนซ์ มีใบขับขี่สากล และทำงานครบ 5 ปี จะสามารถทำใบขับขี่โปรตุเกสได้

     คนที่มีใบขับขี่บางคนจะซื้อรถมือ2 มาไว้ขับรับจ้างเป็นอาชีพเสริม  

     หลายคนอยู่มาหลายปี ก็ไปสอบภาษา แหละยื่นขอ พาสปอต โปรตุเกส แหละเปิดกิจการค้าขาย และพาครอบครัวเข้ามาอยู่ได้

     ภาษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับการอยู่ที่โปรตุเกส และการฝึกภาษาโปรตุเกส ก็เป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน

    ××  โปรดติดตามต่อ ตอนที่2

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่