ช่วงต้นปีแบบนี้เรากำลังมองหาแพลตฟอร์มที่จะลงทุนอยุ่พักใหม่ คือโบรกเกอร์เยอะมากจนเราตาลาย ไหนๆก็มีข้อมูลรวบรวมมาเทียบๆลพเลยมานั่งเขียนจริงจัง แชร์ลงพันทิปดีกว่าเพื่อใครกำลัง งงๆมองหาที่ลงทุนฟอเร็กซ์แล้วขี้เกียจมานั่งเทียบข้อมูลนะค่ะแต่ข้อมูลส่วนนี้มันจะมีการอัพเดทใหม่เรื่องๆเนอะ เดี๋ยวนี้มีแหละความรู้ฟอเร็กซ์เยอะยังไงก็ลองพิจารณาเทียบๆดูนะค่ะ
ก่อนจะลงทุนส่วนตัวเราจะดูจากสภาพแวดล้อมในการซื้อขายก่อนเพราะราคาจะดีสภาพแวดล้อมการซื้อขายก็ต้องดีด้วยป่ะ ไม่จะจับจุดราคาที่ดีที่สุดได้ยังไง ฮาโหลวววจะได้กำไรกี่โมงงงง..... ซึ่งสภาพแวดล้อมการซื้อขานที่ดีมันจะมีปัจจัยต่างๆเป็นตัวกำหนด เช่น ควาวเร็วการดำเนินคำสั่ง การเข้าถึงสภาพคล่อง และการปรับราคาเสนอให้เหมาะสมในระหว่างทำธุรกรรมของเรา และท้ายที่สุดจะกำหนดขนาดของต้นทุนการทำธุรกรรมของเรา
ดังนั้นก็อย่างที่บอกสภาพส่วนตัวเชื่อว่าแวดล้อมการที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย
วันนี้เรามาเทียบดูโบรกเกอร์ที่ทาง Wiki FX เว็บรีวิวโบรกเกอร์ชื่อดังเขาได้จัดอันดับโบรกเกอร์ที่ภาพรวมสภาพแวดล้อมค่อยข้างดี 5 อันดับแรก โดยใช้ 6 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความเร็วการดำเนินการธุรกรรม, ค่าสเปรด, ดอกเบี้ยข้ามคืน, Slippage และความเสถียรของระบบ, ความปลอดภัย
1. ความเร็วการดำเนินธุรกรรม
ข้อแรกการดำเนินการธุรกรรม สถิติหลักความเร็วการดำเนินการคำสั่งโดยเฉลี่ยของโบรกเกอร์ต่างๆจะอยู่ที่ประมาณ 447.12ms เคล็ดลับของความเร็วการดำเนินการ คือ ยิ่งดำเนินการซื้อขายเร็วเท่าใด ราคาที่ได้จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น
2. ค่าสเปรด
ค่าสเปรดมีหลายประเภทแต่เราจะเทียบคู่สกุลเงิน EURUSDและทองคำ XAUUSD เพราะสองหน่วยนี้ได้รับความนิยมมาก

3.ดอกเบี้ยข้ามคืน
นอกเหนือจากค่าสเปรดแล้ว ต้นทุนธุรกรรมอีกอย่างคือ ดอกเบี้ยข้ามคืน
การคิดดอกเบี้ยข้ามคืนจะแตกต่างกัน เนื่องจากทิศทางยาวและระยะสั้นต่างกัน ปกติจะใช้ค่าบวกและค่าลบ มาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนของ EURUSD และ XAUUSD
4. สภาพคล่องของSlippage
Slippage คือ ค่าของความคาดเคลื่อนระหว่างราคาที่ตั้งซื้อหรือขาย กับราคาที่ซื้อหรือขายได้จริง
หลังจากที่ดูค่าสเปรดและดอกเบี้ยข้ามคืนนั้นแล้ว การคลาดเคลื่อนเนื่องจากสภาพคล่องถือเป็นต้นทุนที่เราต้องพิจารณาเหมือนกัน ปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดว่าเราจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดรึป่าว
ปกติการเปรียบเทียบจะดูระดับสภาพคล่องผ่าน Slippage เป็นหลัก แต่เดี๋ยวนักลงทุนให้ความสำคัญกับสภาพคล่องผ่านความถี่ของการเสนอราคามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นที่รู้กันว่ายิ่งสภาพคล่องดีความถี่ในการเสนอราคาสูงเท่าใด โอกาสที่จะมีช่องว่างของราคาก็จะน้อยลงเท่านั้น

5. ความเสถียรของระบบ
ความเสถียรของระบบก็เป็นส่วนสำคัญของสภาพแวดล้อมการซื้อขายเช่นกัน หากระบบไม่เสถียร
6. การกำกับดูแล
สุดท้ายมาดูว่าแต่ละโบรกเกอร์เขามีใบอนุญาตตามกฎระเบียบอะไรไว้การันตีกว่าปลอดภัยให้นักลงทุนอย่างเราพออุ่นใจได้บ้าง ดังนี้
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าแต่ละเจ้าจะมาจุดแข็งเป็นของตัวเอง เพื่อนๆคิดว่าแพลตฟอร์มไหนพอจะเข้าตาก็สามารถทดลองได้แต่ต้องระมัดระวังเพราะการลงทุนในฟอเร็กซ์ความเสี่ยงค่อนข่างสูง หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะมีประโยชน์แก่เพื่อนๆนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
5 โบรกเกอร์มีสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่น่าสนใจในปี 2024
ก่อนจะลงทุนส่วนตัวเราจะดูจากสภาพแวดล้อมในการซื้อขายก่อนเพราะราคาจะดีสภาพแวดล้อมการซื้อขายก็ต้องดีด้วยป่ะ ไม่จะจับจุดราคาที่ดีที่สุดได้ยังไง ฮาโหลวววจะได้กำไรกี่โมงงงง..... ซึ่งสภาพแวดล้อมการซื้อขานที่ดีมันจะมีปัจจัยต่างๆเป็นตัวกำหนด เช่น ควาวเร็วการดำเนินคำสั่ง การเข้าถึงสภาพคล่อง และการปรับราคาเสนอให้เหมาะสมในระหว่างทำธุรกรรมของเรา และท้ายที่สุดจะกำหนดขนาดของต้นทุนการทำธุรกรรมของเรา
ดังนั้นก็อย่างที่บอกสภาพส่วนตัวเชื่อว่าแวดล้อมการที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย
1. ความเร็วการดำเนินธุรกรรม
ข้อแรกการดำเนินการธุรกรรม สถิติหลักความเร็วการดำเนินการคำสั่งโดยเฉลี่ยของโบรกเกอร์ต่างๆจะอยู่ที่ประมาณ 447.12ms เคล็ดลับของความเร็วการดำเนินการ คือ ยิ่งดำเนินการซื้อขายเร็วเท่าใด ราคาที่ได้จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น
2. ค่าสเปรด
ค่าสเปรดมีหลายประเภทแต่เราจะเทียบคู่สกุลเงิน EURUSDและทองคำ XAUUSD เพราะสองหน่วยนี้ได้รับความนิยมมาก
นอกเหนือจากค่าสเปรดแล้ว ต้นทุนธุรกรรมอีกอย่างคือ ดอกเบี้ยข้ามคืน
การคิดดอกเบี้ยข้ามคืนจะแตกต่างกัน เนื่องจากทิศทางยาวและระยะสั้นต่างกัน ปกติจะใช้ค่าบวกและค่าลบ มาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนของ EURUSD และ XAUUSD
4. สภาพคล่องของSlippage
Slippage คือ ค่าของความคาดเคลื่อนระหว่างราคาที่ตั้งซื้อหรือขาย กับราคาที่ซื้อหรือขายได้จริง
หลังจากที่ดูค่าสเปรดและดอกเบี้ยข้ามคืนนั้นแล้ว การคลาดเคลื่อนเนื่องจากสภาพคล่องถือเป็นต้นทุนที่เราต้องพิจารณาเหมือนกัน ปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดว่าเราจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดรึป่าว
ปกติการเปรียบเทียบจะดูระดับสภาพคล่องผ่าน Slippage เป็นหลัก แต่เดี๋ยวนักลงทุนให้ความสำคัญกับสภาพคล่องผ่านความถี่ของการเสนอราคามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นที่รู้กันว่ายิ่งสภาพคล่องดีความถี่ในการเสนอราคาสูงเท่าใด โอกาสที่จะมีช่องว่างของราคาก็จะน้อยลงเท่านั้น
ความเสถียรของระบบก็เป็นส่วนสำคัญของสภาพแวดล้อมการซื้อขายเช่นกัน หากระบบไม่เสถียร
6. การกำกับดูแล
สุดท้ายมาดูว่าแต่ละโบรกเกอร์เขามีใบอนุญาตตามกฎระเบียบอะไรไว้การันตีกว่าปลอดภัยให้นักลงทุนอย่างเราพออุ่นใจได้บ้าง ดังนี้
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าแต่ละเจ้าจะมาจุดแข็งเป็นของตัวเอง เพื่อนๆคิดว่าแพลตฟอร์มไหนพอจะเข้าตาก็สามารถทดลองได้แต่ต้องระมัดระวังเพราะการลงทุนในฟอเร็กซ์ความเสี่ยงค่อนข่างสูง หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะมีประโยชน์แก่เพื่อนๆนะค่ะ ขอบคุณค่ะ