จขกท กับเพื่อนสนิทมีแฟนที่อยู่กลุ่มเดียวกันค่ะ ก็คือแฟนของ จขกท เป็นเพื่อนกับแฟนของเพื่อนสนิท จขกท อ่าค่ะ งงไหมนะ
ขอเรียกเพื่อนว่า A และแฟนของเพื่อนว่า B
เรื่องคือแฟน จขกท ไปงานเลี้ยงสละโสดชายล้วนของเพื่อนมาค่ะ ทีนี้ว่าที่เจ้าบ่าวก็ถามเรื่องแต่งงานกับเพื่อนๆ แล้ว B ก็ตอบท่ามกลาง
เพื่อนว่า "ยังไม่รู้เลยจะเอาไง แม่เกลียด A อะเลยยังไม่แต่ง" ทีนี้ทุกคนก็เลยเงียบแล้วเปลี่ยนประเด็นไปเลย
พอแฟนมาเล่าให้เราฟัง เราโมโห B นะที่พูดงี้กลางวงเพื่อนๆ เพราะมันรู้จักกันหมดอะ แล้วมันก็หลายทีละด้วยว่าที่ยังไม่อย่างงู้นอย่างงี้เป็นเพราะ A แต่จริงๆ มันเพราะครอบครัว B กับ B ที่ไม่เคย step up อะไรเลย เคยสวยไปละด้วยตอนอยู่ในเหตุหารณ์ แต่อันนี้เราฟังมาอีกทีเลยยังไม่ได้บอกอะไร A
เราไม่ชอบ B มากๆ มาแต่ไหนแต่ไรละ อารมณ์ว่าเป็น ผช เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่มีความกระตือรือร้น อยู่กับครอบครัว ไม่มีเงินเก็บของตัวเอง แต่ "บ้านรวยมาก"
เราไม่เคยเชียร์นะ แต่เพื่อนเลือกอะไรเราเคารพและยอมรับหมด ไม่ยุให้เลิกด้วย
A กับ B คบกับมาปีนี้เข้าปีที่ 10 แล้วค่ะ ไม่มีลูก อยู่บ้านกับครอบครัว B โดย A ก็ทำงานในบริษัทครอบครัว B
B มีน้องชาย และน้องชายมีภรรยาที่ไม่จดทะเบียน มีลูก อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน
ปัญหามันเริ่มใหญ่ขึ้นตั้งแต่ปีที่ 5 คือ แม่ของ B คะยั้นคะยอให้ A มีลูกให้ได้ อยากเลี้ยงหลาน
แต่ A รู้สึกไม่พร้อมมี เพราะ
- ยังไม่ได้จดทะเบียนกัน ตอนแรกเหมือนจะไปจดแล้วแต่ทะเลาะกันเรื่องซื้อรถผ่อนรถสักอย่างนึง แม่ B กลัวเรื่องสินสมรสเลยไม่ให้จดกัน
- A ได้เงินเดือนน้อยมาก ~13k ด้วยเหตุผลว่า อยากกินอะไรอยากไปไหนอยากได้อะไรแม่ก็ดูแลให้หมด บ้านก็อยู่ด้วยกันไม่ต้องจ่ายอะไร B เลยไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตมั่งคงพอที่จะมีลูก > ข้อนี้แม่ B ก็เถียงสุดใจว่าแม่เลี้ยงให้ มันเกี่ยวอะไรกับเงินเดือน ดูอย่างแฟนน้องชายสิ ยังมีลูกให้ตั้ง 3 คนได้เลย
- A ต้องทำงาน จ-ส ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก และจะไม่ยอมให้แม่ B เลี้ยงเพราะหลานๆ ลูกน้องชายที่แม่ B เลี้ยงให้ตอนนี้นิสัยเสียมากๆ แบบเรียกว่าเป็นเด็กเปรตได้เลย เราเจอทีไรเราเลี่ยงตลอดขนาดเป็นคนรักเด็ก แต่อันนี้ไม่ไหวจริง
ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นมหากาพย์การกดดันให้มีลูก การแซะว่า A เห็นแก่ตัวไม่ยอมมีลูกมาตลอด 5 ปี แล้วที่สำคัญคือ
B ก็ไม่เคยเข้ามาปกป้องหรือมีส่วนช่วยพูดคุยใดๆ กับเรื่องนี้เลย อันนี้เป็นจุดเริ่มที่เราไม่ค่อยชอบ B ละ เหมือน B จะยืนตรงกลางซึ่งเราเข้าใจนะว่ามันลำบากใจระหว่างแม่กับเมีย แต่การอยู่เงียบๆ ไม่ปกป้องอะไรเลยมันก็ไม่ได้อะ ช่วยคุยกับแม่ก็ยังดี เท่าที่รู้คือตอนปีที่ 5-6 เพื่อนเราขอเลิก B ถี่มากเพราะทนไม่ไหวแล้วแต่ B ก็ไม่ยอมเลิก ใดๆ คือเหมือนมีกันจนชินมากกว่า เพื่อนเราก็ไม่ยอมไปด้วยเหตุผลว่า
- มันก็พอจะทำหูทวนลมได้
- ตั้งแต่เริ่มมีปัญหาเรื่องมีหลาย A ก็หันไปใช้เงินแม่ B ทดแทนความโกรธพวกนี้แล้วหาเรื่องคุยใหม่ๆ กับแม่ เช่น พาแม่ไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยว ไปกินข้าว จากที่ไม่ใช้เลยก็กลายเป็นใช้แหลก อยากได้อะไรได้หมด โทรศัพท์ รถ(ชื้อชื่อ B นะไม่ได้ซื้อให้ A เลย) กินดีอยู่ดีมันก็แทนๆ กันได้ ไม่มีเงินของตัวเองแต่ก็ได้ของพวกนี้มาแทน
- ไม่อยากคิดไกล เพราะเคยคิดแล้วเป็นซึมเศร้า ตอนนี้ก็เลยเรื่อยๆ สบายๆ เอาแค่ได้ของที่อยากได้พอละ คิดแล้วเดี๋ยวดาวน์
ตอนปีที่แล้วเริ่มมี Topic หางานใหม่ ย้ายออก และจะเลิกกับ B ถี่ทั้งปี เพราะมีเรื่องทะเลาะเพิ่มเรื่องงานบ้าน/เรื่องบริษัท
- เพื่อนเราไม่ทำงานบ้านเลย ทำแต่ของตัวเองคนเดียวเนื่องจากว่าทำงาน จ-ส ก็เหนื่อยมากแล้ว
- เพื่อนเราทำธุระส่วนตัวให้ทุกคนในบ้านที่ต้องขับรถออกไปติดต่อนู่นนี่หรือแม้กระทั่งการไปรับหลาน การพาคนนู้นคนนี้ไปโรงพยาบาล เพราะน้องสะใภ้ขับรถไม่เป็น และเพื่อนเราเป็นคนคล่องมาก ก็ทำทุกอย่างรับจบ ตัวน้องชายก็เป็นพวกเดี๋ยวทำๆ แล้วก็ไม่ทำ สุดท้ายธุระเกือบทั้งหมดจะเป็นเพื่อนเราทำและรับจบทุกอย่าง น้องสะใภัไม่ทำอะไรพวกนี้เลย การที่น้องทำงานบ้านส่วนกลางก็แฟร์ดีแล้ว
- แม่เริ่มเปรียบเทียบว่าน้องสะใภัทำงานบ้านแต่ A ไม่ทำอะไรเลย เห็นแก่ตัว หลานก็ไม่ยอมมีให้ แล้ว B ก็เอาไปพูดอีกว่าเรื่องนี้เข้าข้างแม่นะ มาอยู่บ้านเขาก็ต้องช่วยบ้างอะไรบ้าง เพื่อนเราก็อธิบายไปแต่ก็จบที่ทะเลาะกันแล้วไม่พูดเรื่องนี้อีก B เคยมาพูดกับเพื่อนทีนึงแล้วเราอยู่ด้วยเราเลยสวนไปว่าเพื่อนเราต้องทำอะไรบ้างจนวันอาทิตย์ก็แทบจะไม่ว่างแล้ว B ก็เงียบไม่พูดอะไรต่อ จริงๆ B ก็อาจจะไม่ชอบเราเหมือนกันอยู่ลึกๆ ก็ได้แต่สถานะมันทำให้ต้องเจอกันเรื่อยๆ

- B ใช้รถบริษัทจนพังเพราะไม่เคยเข้าศูนย์โดนค่าซ่อมไป 6 หลัก แต่เพื่อนเราเป็นคนโดนพ่อ B เรียกไปด่าว่าทำไมไม่รักษารถ B ขับแต่ก็ถือว่าใช้ด้วยกัน แต่ B ไม่โดนอะไรเลยและไม่พูดอะไรด้วย A ไม่อยากเถียงแต่ก็โดนเรื่อยๆ ไม่จบสักทีว่าทำบริษัทเสียเงินเพราะไม่รักษาของ
เราไม่รู้จะช่วยยังไงนะเพราะชีวิตเพื่อนเลือกเองตัดสินใจเลือกคบมานานขนาดนี้เอง แต่เราส่งงานให้เพื่อนสมัครเยอะมากๆ เลยช่วงนี้ กะให้หางานเองแล้วย้ายออกมาซะ ไหนๆ ก็ไม่มีภาระอยู่แล้ว พอเห็นคบกันนานไม่อยากยุมากกลับเป็นหมาอ่า 55555 แต่เราไม่ชอบ B เลยจริงๆ เจอกี่ทีๆ ก็ไม่รู้สึกถึงการูแลหรือปกป้องอะไรเพื่อนเราเลย ขนาดไป Road trip ต่างประเทศด้วยกัน เรากับเพื่อนกับแฟนเราผลัดกับขับรถ B ยังไม่พูดว่าให้ช่วยไหมเลย ไม่ขับนี่เข้าใจได้นะเพราะ B ขับอ่อนสุดมันอันตราย แต่คือ นอนทั้งทาง ไม่ช่วยดูทาง ไม่อะไรเลย เพื่อนเราขอให้หยิบน้ำให้ตอนขับรถอยู่ยังไม่เปิดฝาให้เลย คือสมมติเป็นเรานะ เราทั้งเปิดฝาเสียบหลอดให้เลย ให้แค่หยิบไปดูดๆ เลยอะ แฟนเราก็ทำแบบนั้นให้เรา แต่ B คือไม่ไหวจริง ไม่ถูกชะตา เราฝากแฟนไปด่าบ่อยๆ ด้วยไม่รู้ข้อความถึงเจ้าตัวไหม จับคู่ใหม่ให้เพื่อนเลยดีไหมคะ
[กระทู้ระบาย] แฟนของเพื่อนสนิทพูดกลางวงสนทนาว่าที่ยังไม่แต่งงานเพราะแม่เขาเกลียดเพื่อนเรา อยากจะสวนกลับ
ขอเรียกเพื่อนว่า A และแฟนของเพื่อนว่า B
เรื่องคือแฟน จขกท ไปงานเลี้ยงสละโสดชายล้วนของเพื่อนมาค่ะ ทีนี้ว่าที่เจ้าบ่าวก็ถามเรื่องแต่งงานกับเพื่อนๆ แล้ว B ก็ตอบท่ามกลาง
เพื่อนว่า "ยังไม่รู้เลยจะเอาไง แม่เกลียด A อะเลยยังไม่แต่ง" ทีนี้ทุกคนก็เลยเงียบแล้วเปลี่ยนประเด็นไปเลย
พอแฟนมาเล่าให้เราฟัง เราโมโห B นะที่พูดงี้กลางวงเพื่อนๆ เพราะมันรู้จักกันหมดอะ แล้วมันก็หลายทีละด้วยว่าที่ยังไม่อย่างงู้นอย่างงี้เป็นเพราะ A แต่จริงๆ มันเพราะครอบครัว B กับ B ที่ไม่เคย step up อะไรเลย เคยสวยไปละด้วยตอนอยู่ในเหตุหารณ์ แต่อันนี้เราฟังมาอีกทีเลยยังไม่ได้บอกอะไร A
เราไม่ชอบ B มากๆ มาแต่ไหนแต่ไรละ อารมณ์ว่าเป็น ผช เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่มีความกระตือรือร้น อยู่กับครอบครัว ไม่มีเงินเก็บของตัวเอง แต่ "บ้านรวยมาก"
เราไม่เคยเชียร์นะ แต่เพื่อนเลือกอะไรเราเคารพและยอมรับหมด ไม่ยุให้เลิกด้วย
A กับ B คบกับมาปีนี้เข้าปีที่ 10 แล้วค่ะ ไม่มีลูก อยู่บ้านกับครอบครัว B โดย A ก็ทำงานในบริษัทครอบครัว B
B มีน้องชาย และน้องชายมีภรรยาที่ไม่จดทะเบียน มีลูก อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน
ปัญหามันเริ่มใหญ่ขึ้นตั้งแต่ปีที่ 5 คือ แม่ของ B คะยั้นคะยอให้ A มีลูกให้ได้ อยากเลี้ยงหลาน
แต่ A รู้สึกไม่พร้อมมี เพราะ
- ยังไม่ได้จดทะเบียนกัน ตอนแรกเหมือนจะไปจดแล้วแต่ทะเลาะกันเรื่องซื้อรถผ่อนรถสักอย่างนึง แม่ B กลัวเรื่องสินสมรสเลยไม่ให้จดกัน
- A ได้เงินเดือนน้อยมาก ~13k ด้วยเหตุผลว่า อยากกินอะไรอยากไปไหนอยากได้อะไรแม่ก็ดูแลให้หมด บ้านก็อยู่ด้วยกันไม่ต้องจ่ายอะไร B เลยไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตมั่งคงพอที่จะมีลูก > ข้อนี้แม่ B ก็เถียงสุดใจว่าแม่เลี้ยงให้ มันเกี่ยวอะไรกับเงินเดือน ดูอย่างแฟนน้องชายสิ ยังมีลูกให้ตั้ง 3 คนได้เลย
- A ต้องทำงาน จ-ส ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก และจะไม่ยอมให้แม่ B เลี้ยงเพราะหลานๆ ลูกน้องชายที่แม่ B เลี้ยงให้ตอนนี้นิสัยเสียมากๆ แบบเรียกว่าเป็นเด็กเปรตได้เลย เราเจอทีไรเราเลี่ยงตลอดขนาดเป็นคนรักเด็ก แต่อันนี้ไม่ไหวจริง
ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นมหากาพย์การกดดันให้มีลูก การแซะว่า A เห็นแก่ตัวไม่ยอมมีลูกมาตลอด 5 ปี แล้วที่สำคัญคือ B ก็ไม่เคยเข้ามาปกป้องหรือมีส่วนช่วยพูดคุยใดๆ กับเรื่องนี้เลย อันนี้เป็นจุดเริ่มที่เราไม่ค่อยชอบ B ละ เหมือน B จะยืนตรงกลางซึ่งเราเข้าใจนะว่ามันลำบากใจระหว่างแม่กับเมีย แต่การอยู่เงียบๆ ไม่ปกป้องอะไรเลยมันก็ไม่ได้อะ ช่วยคุยกับแม่ก็ยังดี เท่าที่รู้คือตอนปีที่ 5-6 เพื่อนเราขอเลิก B ถี่มากเพราะทนไม่ไหวแล้วแต่ B ก็ไม่ยอมเลิก ใดๆ คือเหมือนมีกันจนชินมากกว่า เพื่อนเราก็ไม่ยอมไปด้วยเหตุผลว่า
- มันก็พอจะทำหูทวนลมได้
- ตั้งแต่เริ่มมีปัญหาเรื่องมีหลาย A ก็หันไปใช้เงินแม่ B ทดแทนความโกรธพวกนี้แล้วหาเรื่องคุยใหม่ๆ กับแม่ เช่น พาแม่ไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยว ไปกินข้าว จากที่ไม่ใช้เลยก็กลายเป็นใช้แหลก อยากได้อะไรได้หมด โทรศัพท์ รถ(ชื้อชื่อ B นะไม่ได้ซื้อให้ A เลย) กินดีอยู่ดีมันก็แทนๆ กันได้ ไม่มีเงินของตัวเองแต่ก็ได้ของพวกนี้มาแทน
- ไม่อยากคิดไกล เพราะเคยคิดแล้วเป็นซึมเศร้า ตอนนี้ก็เลยเรื่อยๆ สบายๆ เอาแค่ได้ของที่อยากได้พอละ คิดแล้วเดี๋ยวดาวน์
ตอนปีที่แล้วเริ่มมี Topic หางานใหม่ ย้ายออก และจะเลิกกับ B ถี่ทั้งปี เพราะมีเรื่องทะเลาะเพิ่มเรื่องงานบ้าน/เรื่องบริษัท
- เพื่อนเราไม่ทำงานบ้านเลย ทำแต่ของตัวเองคนเดียวเนื่องจากว่าทำงาน จ-ส ก็เหนื่อยมากแล้ว
- เพื่อนเราทำธุระส่วนตัวให้ทุกคนในบ้านที่ต้องขับรถออกไปติดต่อนู่นนี่หรือแม้กระทั่งการไปรับหลาน การพาคนนู้นคนนี้ไปโรงพยาบาล เพราะน้องสะใภ้ขับรถไม่เป็น และเพื่อนเราเป็นคนคล่องมาก ก็ทำทุกอย่างรับจบ ตัวน้องชายก็เป็นพวกเดี๋ยวทำๆ แล้วก็ไม่ทำ สุดท้ายธุระเกือบทั้งหมดจะเป็นเพื่อนเราทำและรับจบทุกอย่าง น้องสะใภัไม่ทำอะไรพวกนี้เลย การที่น้องทำงานบ้านส่วนกลางก็แฟร์ดีแล้ว
- แม่เริ่มเปรียบเทียบว่าน้องสะใภัทำงานบ้านแต่ A ไม่ทำอะไรเลย เห็นแก่ตัว หลานก็ไม่ยอมมีให้ แล้ว B ก็เอาไปพูดอีกว่าเรื่องนี้เข้าข้างแม่นะ มาอยู่บ้านเขาก็ต้องช่วยบ้างอะไรบ้าง เพื่อนเราก็อธิบายไปแต่ก็จบที่ทะเลาะกันแล้วไม่พูดเรื่องนี้อีก B เคยมาพูดกับเพื่อนทีนึงแล้วเราอยู่ด้วยเราเลยสวนไปว่าเพื่อนเราต้องทำอะไรบ้างจนวันอาทิตย์ก็แทบจะไม่ว่างแล้ว B ก็เงียบไม่พูดอะไรต่อ จริงๆ B ก็อาจจะไม่ชอบเราเหมือนกันอยู่ลึกๆ ก็ได้แต่สถานะมันทำให้ต้องเจอกันเรื่อยๆ
- B ใช้รถบริษัทจนพังเพราะไม่เคยเข้าศูนย์โดนค่าซ่อมไป 6 หลัก แต่เพื่อนเราเป็นคนโดนพ่อ B เรียกไปด่าว่าทำไมไม่รักษารถ B ขับแต่ก็ถือว่าใช้ด้วยกัน แต่ B ไม่โดนอะไรเลยและไม่พูดอะไรด้วย A ไม่อยากเถียงแต่ก็โดนเรื่อยๆ ไม่จบสักทีว่าทำบริษัทเสียเงินเพราะไม่รักษาของ
เราไม่รู้จะช่วยยังไงนะเพราะชีวิตเพื่อนเลือกเองตัดสินใจเลือกคบมานานขนาดนี้เอง แต่เราส่งงานให้เพื่อนสมัครเยอะมากๆ เลยช่วงนี้ กะให้หางานเองแล้วย้ายออกมาซะ ไหนๆ ก็ไม่มีภาระอยู่แล้ว พอเห็นคบกันนานไม่อยากยุมากกลับเป็นหมาอ่า 55555 แต่เราไม่ชอบ B เลยจริงๆ เจอกี่ทีๆ ก็ไม่รู้สึกถึงการูแลหรือปกป้องอะไรเพื่อนเราเลย ขนาดไป Road trip ต่างประเทศด้วยกัน เรากับเพื่อนกับแฟนเราผลัดกับขับรถ B ยังไม่พูดว่าให้ช่วยไหมเลย ไม่ขับนี่เข้าใจได้นะเพราะ B ขับอ่อนสุดมันอันตราย แต่คือ นอนทั้งทาง ไม่ช่วยดูทาง ไม่อะไรเลย เพื่อนเราขอให้หยิบน้ำให้ตอนขับรถอยู่ยังไม่เปิดฝาให้เลย คือสมมติเป็นเรานะ เราทั้งเปิดฝาเสียบหลอดให้เลย ให้แค่หยิบไปดูดๆ เลยอะ แฟนเราก็ทำแบบนั้นให้เรา แต่ B คือไม่ไหวจริง ไม่ถูกชะตา เราฝากแฟนไปด่าบ่อยๆ ด้วยไม่รู้ข้อความถึงเจ้าตัวไหม จับคู่ใหม่ให้เพื่อนเลยดีไหมคะ