ด่วน ศาลสั่งจำคุก 4เดือน ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ-พิธา’ คดีแฟลชม็อบ รอลงอาญา 2ปี
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8082642
ศาลเเขวงปทุมวันสั่งคุก 4 เดือน ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ-พิธา’ กับพวกอีก 4 คน คดีแฟลชม็อบ ปี 62 ปรับ 11,200 บาท รอลงอาญา 2 ปี
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2567 ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถนนนครไชยศรี ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 767/2563ที่ พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.
ณัฏฐา มหัทธนา นาย
พริษฐ์ ชีวารักษ์ นาย
ธนวัฒน์ วงค์ไชย นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.
พรรณิการ์ วานิช นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนาย
ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร เป็นจำเลย 1-8
ในความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง,ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ,
ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุม หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงจะคาดหมายได้ฯ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
จากกรณีกลุ่มจำเลย ร่วมในการชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562
โดยในวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ
ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 8 คน กระทำผิดตามฟ้องโจทก์สั่งจำคุกคนละ 4 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ส่วนความผิดตามข้อหาอาญาเเละความผิดพินัยไม่เเจ้งการชุมนุม เเละไม่ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตรวมปรับ 11,200 บาท
‘ก้าวไกล’ ย้ำ กม.นิรโทษ ควรรวมคดี ม.112 แจงพูดนอกสภาคืออธิบาย ไม่ใช่ล้มล้าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4410107
‘ก้าวไกล’ ชี้นิรโทษกรรมควรรวมความผิด ม.112 เหน็บ กม.ถูกเขียนขึ้นโดยคน คนก็ต้องแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็น กม.ที่ลอยมาจากฟ้า ยันพูดนอกสภาแค่อธิบายไม่ใช่ล้มล้าง
เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
กรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่หลายฝ่ายออกมาไม่เห็นด้วยเนื่องจากมีการรวมคดีเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คดีทุจริตและคดีอาญาต่างๆ ว่า เราต้องมีการถกเถียงหาข้อยุติในข้อสงสัยของแต่ละพรรค ซึ่งความเห็นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากไม่เปลี่ยนเราก็ยังยืนยันในหลักการว่าการนิรโทษกรรมควรรวมความผิดมาตรา 112 ไปด้วย แต่ไม่รวมผู้ก่อการทั้งหลายที่เป็นแกนนำ เพราะเห็นว่ามีหลายกรณีที่ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 สุดท้ายในบั้นปลายศาลก็ยกฟ้องให้กับผู้ถูกกล่าวหา
นาย
กรุณพลกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในกรณีที่หลายคนไม่ได้รับการประกันตัวและถูกขังคุกในช่วงที่สืบพยานนั้น ตนมองว่าไม่มีความเป็นธรรม เพราะหลักการทางเสรีภาพของประชาชน ทางกฎหมายก็บอกอยู่แล้วว่าหากศาลยังไม่มีคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุดให้ถือว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เมื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ก็สามารถประกันตัวมาต่อสู้ทางกฎหมายได้ ดังนั้น มาตรา 112 จึงไม่ได้แตกต่างจากกฎหมายแบบอื่น ที่จะมีโอกาสในการต่อสู้คดี
นาย
กรุณพลกล่าวด้วยว่า หากเราจะนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทั้งหมด เราจะเห็นว่าคดี 112 ในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็เป็นการเรียกร้องที่มีการลงถนน หรือบางคนมีการพูดบางคำที่ทำให้ผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้มีความไม่สบายใจ เราจำเป็นที่จะต้องยืนยันในหลักการนี้
เมื่อถามว่า มองว่าการตั้ง กมธ.ขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้เป็นการถ่วงเวลาให้กับพรรคหรือไม่ นาย
กรุณพลกล่าวว่า ไม่ได้เป็นการถ่วงเวลา แต่ย้ำว่าคดีทางการเมืองควรต้องรวมมาตรา 112 ด้วย หากสุดท้ายต้องลงมติและเราไม่สามารถโน้มน้าวให้มีความเห็นแบบเดียวกับเราได้ ก็ถือว่าเรายังยืนอยู่ในจุดยืนที่ต้องการชี้ให้สังคมเห็นว่า ทำไมต้องการให้มาตรา 112 รวมอยู่ในกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อเป็นความเข้าใจในอนาคต กฎหมายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่างน้อยเราก็ได้ปลูกฝังความเชื่อ ความคิด เหตุผล ให้คนได้ฟังว่ากฎหมายมาตรา 112 คือการกลั่นแกล้งทางการเมือง
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าขอให้ยุติการกระทำที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 นาย
การุณพลกล่าวว่า จริงๆ ไม่ต้องระมัดระวัง เพราะศาลเองก็ได้บอกว่ามาตรา 112 สามารถแก้ให้เพิ่มหรือลดโทษได้ในสภา ซึ่งพรรค ก.ก.เป็นพรรคการเมือง เรามีหน้าที่ ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถแก้ไขกฎหมายล้าหลังให้ทันสมัย ที่ไม่เป็นธรรมเกิดความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันได้
“
มาตรา 112 ก็เป็นกฎหมายที่มีคนเขียนขึ้น ไม่ได้ลอยลงมาจากฟ้า ในเมื่อคนเขียนขึ้น คนก็ต้องแก้ไขได้” นาย
กรุณพลกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า พรรคได้มีการหารือในการเดินหน้ามาตรา 112 ว่าควรจะมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นหรือไม่ นาย
กรุณพลกล่าวว่า จริงๆ ก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น และต้องรอคำวินิจฉัยตัวเต็มของศาลรัฐธรรมนูญว่าเหตุใดจึงออกคำวินิจฉัยเช่นนี้ มีข้อกำหนดใดๆ หรือไม่ที่ต้องห้ามทำ ตอนนี้เราก็ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่มีออกมาเบื้องต้นก่อน แต่ยืนยันว่าการพูดนอกสภาคือการอธิบายให้เห็นถึงการแก้ไขกฎหมายทุกมาตราของประเทศนี้ ไม่ใช่เป็นการล้มล้าง
ก้าวไกลจี้เปิดวงจรปิดหาสาเหตุไฟไหม้ก.เกษตร หวังไม่กระทบเอกสารสำคัญที่ต้องชี้แจงกมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4410132
ก้าวไกลจี้เปิดวงจรปิดหาสาเหตุไฟไหม้ก.เกษตร หวังไม่กระทบเอกสารสำคัญที่ต้องชี้แจงกมธ.
เมื่อเวลา 11.25 วันที่ 5กุมภาพันธ์ รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ เหตุเพลิงไหม้เพลิงไหม้อาคารของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าเอกสารที่ไหม้นั้น มีความสำคัญหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงเอกสารที่เสียหายมีผลกับกรมฝนหลวงและกรมการบินเกษตร ที่กำลังจะเข้าชี้แจ้งต่อ กมธ. ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณในวันที่ 15 ก.พ. นี้
แต่เราอยากฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ว่าเราอยากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ว่ามีใครเข้าไปในบริเวณนั้นหรือไม่ โดยพื้นที่ที่ใช้เก็บเอกสารสำคัญต้องมีการตรวจสอบก่อน ถึงจะเข้าได้ รวมถึงขอดูสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เพราะหน่วยงานราชการ ต้องระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รวมถึงระบบเตือนสัญญาณควัน ว่ามีการบำรุงรักษา และใช้งบประมาณไปมากแค่ไหน ความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมาะสมกับงบประมาณหรือไม่
ส่วนจะไหม้เอกสารเกี่ยวข้องกับที่ทาง กมธ. เชิญมาชี้หรือไม่นั้น นายกรุณพล กล่าวว่า หวังว่าคงไม่โชคดี ขนาดที่ว่าไฟไหม้เอกสารสำคัญที่ต้องมาชี้แจง หากเกิดไหม้จริงคงต้องไปไล่บี้กันว่าเหตุใดจึงเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เกิดจากช่างซ่อมแอร์ ซึ่งตนอยากพบช่างคนดังกล่าว รวมถึงเอกสารต่างๆที่ติดต่อช่าง ว่าอันที่จริงแล้วเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ต้องมีคำตอบให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่จากที่มีการติดตามทั้ง 2 กรม จะมีการไปเชื่อมโยงกับการตรวจสอบ ทางกมธ. นาย
กรุณพล กล่าวว่า เราเองก็มีเอกสารอยู่ในมือ แต่หากไม่มีเอกสารใดๆอธิบดีถ้าไม่มีปัญหาด้านความจำ ก็จะต้องตอบปัญหาได้อย่างชัดเจน เพราะเวลาไม่ถึง 1 ปี และเป็นงบประมาณก้อนใหญ่หลายร้อยล้าน ลายเซ็นก็เป็นของท่าน
เมื่อถามว่า หลังจากกมธ. ออกมาเปิดเผยและตรวจสอบการล็อคสเปคการจัดซื้อเครื่องบิน บริษัทต่างประเทศ ซึ่ง นาย
ไชยา พรหมมา รมช.เกษตรฯ
ชี้แจงว่า กรณีการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีคณะกรรมการตรวจสอบถึง 5 ชุด ผ่านกระบวนการประมูล e-bidding ชัดเจน นาย
กรุณพล กล่าวว่า ก็ฟังได้ แต่การที่กรรมาธิการตั้งข้อสงสัย ไม่ได้หมายความว่ามีการทุจริต แต่มีข้อสงสัยว่าทำไมต้องเป็นบริษัทนี้ เป็นเครื่องบินสเปคนี้ ราคาเท่านี้ ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือการซ่อมบำรุงมากน้อยแค่ไหน จึงมีการตั้งคำถาม เพื่อให้ใช้ภาษีของประชาชนอย่างมีประโยชน์ เชื่อว่าไม่ว่าถามแบบใด ถ้ามีคำตอบที่โปร่งใสชัดเจน ประชาชนเข้าถึงการตรวจสอบได้ ก็ไม่มีปัญหา อย่าเพิ่งกังวลว่าเมื่อกรรมาธิการฯ ตั้งคำถามแล้วจะกลายเป็นผู้ผิดหรือผู้ทุจริต ซึ่งก็จะนำเรื่องนี้เข้าพูดคุยในที่ประชุมด้วย
นาย
กรุณพล ยังย้ำว่า ในวันที่ 15 ก.พ. อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยืนยันจะเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.ด้วยตนเอง แต่อธิบดีกรมการข้าวขอดูคำถามก่อน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าขณะที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยต่ออธิบดีกรมการข้าว ทั้งเรื่อง นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องเรียน หรือเรื่องที่ได้ยินมาจากหน่วยงานต่างๆ จึงอยากให้อธิบดีกรมการข้าวชี้แจงให้สิ้นข้อสงสัย
JJNY : ศาลสั่งจำคุกคดีแฟลชม็อบ รอลงอาญา 2ปี│‘ก้าวไกล’ย้ำ นิรโทษควรรวมคดี ม.112│จี้เปิดวงจรปิด│รถแห่ ‘Le Truck‘ เจอขวาง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8082642
ศาลเเขวงปทุมวันสั่งคุก 4 เดือน ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ-พิธา’ กับพวกอีก 4 คน คดีแฟลชม็อบ ปี 62 ปรับ 11,200 บาท รอลงอาญา 2 ปี
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2567 ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถนนนครไชยศรี ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 767/2563ที่ พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร เป็นจำเลย 1-8
ในความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง,ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ,
ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ, ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุม หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงจะคาดหมายได้ฯ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
จากกรณีกลุ่มจำเลย ร่วมในการชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562
โดยในวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ
ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 8 คน กระทำผิดตามฟ้องโจทก์สั่งจำคุกคนละ 4 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ส่วนความผิดตามข้อหาอาญาเเละความผิดพินัยไม่เเจ้งการชุมนุม เเละไม่ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตรวมปรับ 11,200 บาท
‘ก้าวไกล’ ย้ำ กม.นิรโทษ ควรรวมคดี ม.112 แจงพูดนอกสภาคืออธิบาย ไม่ใช่ล้มล้าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4410107
‘ก้าวไกล’ ชี้นิรโทษกรรมควรรวมความผิด ม.112 เหน็บ กม.ถูกเขียนขึ้นโดยคน คนก็ต้องแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็น กม.ที่ลอยมาจากฟ้า ยันพูดนอกสภาแค่อธิบายไม่ใช่ล้มล้าง
เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่หลายฝ่ายออกมาไม่เห็นด้วยเนื่องจากมีการรวมคดีเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คดีทุจริตและคดีอาญาต่างๆ ว่า เราต้องมีการถกเถียงหาข้อยุติในข้อสงสัยของแต่ละพรรค ซึ่งความเห็นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากไม่เปลี่ยนเราก็ยังยืนยันในหลักการว่าการนิรโทษกรรมควรรวมความผิดมาตรา 112 ไปด้วย แต่ไม่รวมผู้ก่อการทั้งหลายที่เป็นแกนนำ เพราะเห็นว่ามีหลายกรณีที่ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 สุดท้ายในบั้นปลายศาลก็ยกฟ้องให้กับผู้ถูกกล่าวหา
นายกรุณพลกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในกรณีที่หลายคนไม่ได้รับการประกันตัวและถูกขังคุกในช่วงที่สืบพยานนั้น ตนมองว่าไม่มีความเป็นธรรม เพราะหลักการทางเสรีภาพของประชาชน ทางกฎหมายก็บอกอยู่แล้วว่าหากศาลยังไม่มีคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุดให้ถือว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เมื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ก็สามารถประกันตัวมาต่อสู้ทางกฎหมายได้ ดังนั้น มาตรา 112 จึงไม่ได้แตกต่างจากกฎหมายแบบอื่น ที่จะมีโอกาสในการต่อสู้คดี
นายกรุณพลกล่าวด้วยว่า หากเราจะนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทั้งหมด เราจะเห็นว่าคดี 112 ในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็เป็นการเรียกร้องที่มีการลงถนน หรือบางคนมีการพูดบางคำที่ทำให้ผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้มีความไม่สบายใจ เราจำเป็นที่จะต้องยืนยันในหลักการนี้
เมื่อถามว่า มองว่าการตั้ง กมธ.ขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้เป็นการถ่วงเวลาให้กับพรรคหรือไม่ นายกรุณพลกล่าวว่า ไม่ได้เป็นการถ่วงเวลา แต่ย้ำว่าคดีทางการเมืองควรต้องรวมมาตรา 112 ด้วย หากสุดท้ายต้องลงมติและเราไม่สามารถโน้มน้าวให้มีความเห็นแบบเดียวกับเราได้ ก็ถือว่าเรายังยืนอยู่ในจุดยืนที่ต้องการชี้ให้สังคมเห็นว่า ทำไมต้องการให้มาตรา 112 รวมอยู่ในกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อเป็นความเข้าใจในอนาคต กฎหมายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่างน้อยเราก็ได้ปลูกฝังความเชื่อ ความคิด เหตุผล ให้คนได้ฟังว่ากฎหมายมาตรา 112 คือการกลั่นแกล้งทางการเมือง
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าขอให้ยุติการกระทำที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 นายการุณพลกล่าวว่า จริงๆ ไม่ต้องระมัดระวัง เพราะศาลเองก็ได้บอกว่ามาตรา 112 สามารถแก้ให้เพิ่มหรือลดโทษได้ในสภา ซึ่งพรรค ก.ก.เป็นพรรคการเมือง เรามีหน้าที่ ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถแก้ไขกฎหมายล้าหลังให้ทันสมัย ที่ไม่เป็นธรรมเกิดความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันได้
“มาตรา 112 ก็เป็นกฎหมายที่มีคนเขียนขึ้น ไม่ได้ลอยลงมาจากฟ้า ในเมื่อคนเขียนขึ้น คนก็ต้องแก้ไขได้” นายกรุณพลกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า พรรคได้มีการหารือในการเดินหน้ามาตรา 112 ว่าควรจะมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายกรุณพลกล่าวว่า จริงๆ ก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น และต้องรอคำวินิจฉัยตัวเต็มของศาลรัฐธรรมนูญว่าเหตุใดจึงออกคำวินิจฉัยเช่นนี้ มีข้อกำหนดใดๆ หรือไม่ที่ต้องห้ามทำ ตอนนี้เราก็ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่มีออกมาเบื้องต้นก่อน แต่ยืนยันว่าการพูดนอกสภาคือการอธิบายให้เห็นถึงการแก้ไขกฎหมายทุกมาตราของประเทศนี้ ไม่ใช่เป็นการล้มล้าง
ก้าวไกลจี้เปิดวงจรปิดหาสาเหตุไฟไหม้ก.เกษตร หวังไม่กระทบเอกสารสำคัญที่ต้องชี้แจงกมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4410132
ก้าวไกลจี้เปิดวงจรปิดหาสาเหตุไฟไหม้ก.เกษตร หวังไม่กระทบเอกสารสำคัญที่ต้องชี้แจงกมธ.
เมื่อเวลา 11.25 วันที่ 5กุมภาพันธ์ รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ เหตุเพลิงไหม้เพลิงไหม้อาคารของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าเอกสารที่ไหม้นั้น มีความสำคัญหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงเอกสารที่เสียหายมีผลกับกรมฝนหลวงและกรมการบินเกษตร ที่กำลังจะเข้าชี้แจ้งต่อ กมธ. ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณในวันที่ 15 ก.พ. นี้
แต่เราอยากฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ว่าเราอยากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ว่ามีใครเข้าไปในบริเวณนั้นหรือไม่ โดยพื้นที่ที่ใช้เก็บเอกสารสำคัญต้องมีการตรวจสอบก่อน ถึงจะเข้าได้ รวมถึงขอดูสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เพราะหน่วยงานราชการ ต้องระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รวมถึงระบบเตือนสัญญาณควัน ว่ามีการบำรุงรักษา และใช้งบประมาณไปมากแค่ไหน ความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมาะสมกับงบประมาณหรือไม่
ส่วนจะไหม้เอกสารเกี่ยวข้องกับที่ทาง กมธ. เชิญมาชี้หรือไม่นั้น นายกรุณพล กล่าวว่า หวังว่าคงไม่โชคดี ขนาดที่ว่าไฟไหม้เอกสารสำคัญที่ต้องมาชี้แจง หากเกิดไหม้จริงคงต้องไปไล่บี้กันว่าเหตุใดจึงเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เกิดจากช่างซ่อมแอร์ ซึ่งตนอยากพบช่างคนดังกล่าว รวมถึงเอกสารต่างๆที่ติดต่อช่าง ว่าอันที่จริงแล้วเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ต้องมีคำตอบให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่จากที่มีการติดตามทั้ง 2 กรม จะมีการไปเชื่อมโยงกับการตรวจสอบ ทางกมธ. นายกรุณพล กล่าวว่า เราเองก็มีเอกสารอยู่ในมือ แต่หากไม่มีเอกสารใดๆอธิบดีถ้าไม่มีปัญหาด้านความจำ ก็จะต้องตอบปัญหาได้อย่างชัดเจน เพราะเวลาไม่ถึง 1 ปี และเป็นงบประมาณก้อนใหญ่หลายร้อยล้าน ลายเซ็นก็เป็นของท่าน
เมื่อถามว่า หลังจากกมธ. ออกมาเปิดเผยและตรวจสอบการล็อคสเปคการจัดซื้อเครื่องบิน บริษัทต่างประเทศ ซึ่ง นายไชยา พรหมมา รมช.เกษตรฯ
ชี้แจงว่า กรณีการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีคณะกรรมการตรวจสอบถึง 5 ชุด ผ่านกระบวนการประมูล e-bidding ชัดเจน นายกรุณพล กล่าวว่า ก็ฟังได้ แต่การที่กรรมาธิการตั้งข้อสงสัย ไม่ได้หมายความว่ามีการทุจริต แต่มีข้อสงสัยว่าทำไมต้องเป็นบริษัทนี้ เป็นเครื่องบินสเปคนี้ ราคาเท่านี้ ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือการซ่อมบำรุงมากน้อยแค่ไหน จึงมีการตั้งคำถาม เพื่อให้ใช้ภาษีของประชาชนอย่างมีประโยชน์ เชื่อว่าไม่ว่าถามแบบใด ถ้ามีคำตอบที่โปร่งใสชัดเจน ประชาชนเข้าถึงการตรวจสอบได้ ก็ไม่มีปัญหา อย่าเพิ่งกังวลว่าเมื่อกรรมาธิการฯ ตั้งคำถามแล้วจะกลายเป็นผู้ผิดหรือผู้ทุจริต ซึ่งก็จะนำเรื่องนี้เข้าพูดคุยในที่ประชุมด้วย
นายกรุณพล ยังย้ำว่า ในวันที่ 15 ก.พ. อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยืนยันจะเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.ด้วยตนเอง แต่อธิบดีกรมการข้าวขอดูคำถามก่อน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าขณะที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยต่ออธิบดีกรมการข้าว ทั้งเรื่อง นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องเรียน หรือเรื่องที่ได้ยินมาจากหน่วยงานต่างๆ จึงอยากให้อธิบดีกรมการข้าวชี้แจงให้สิ้นข้อสงสัย