JJNY : พีมูฟ ปักหลัก ‘แอมนาสตี้’ บี้ รบ.│เพจดังเปิดราคากางเกงช้าง│บาทพลิกกลับมาอ่อนค่า│'เขียงหมูตรุษจีน' 2567 ไม่คึกคัก

พีมูฟ ปักหลัก หน้าทำเนียบฯ ทวง 3 ข้อเรียกร้อง ‘แอมนาสตี้’ บี้ รบ. ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4409657
 
 
มาตามนัด! “พีมูฟ” ปักหลักหน้าทำเนียบฯทวง 3 ข้อเรียกร้อง จาก”ภูมิธรรม-บิ๊กป๊อด” ด้าน “แอมนาสตี้” บี้ รัฐบาล ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวการเมือง
 
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ ) นำโดยนายจำนงค์ หนูพันธ์ แกนนำฯ ได้ทยอยเดินทางมารวมตัว ตามนัดหมาย บริเวณประตู4 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก เพื่อทวงถาม 3 ข้อเรียกร้องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยจะปักหลักรวมตัวที่ทำเนียบจนกว่าจะได้รับคำตอบ
 
ขณะที่ช่วงสายวันเดียวกัน ตัวแทนกลุ่มแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย นำโดย นายเฝาซี ล่าเต๊ะ ผู้ประสานงานฯ จะยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อปฎิบัติการด่วนข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้คืนความยุติธรรมต่อนักโทษทางความคิดและนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำแผงเหล็ก มาวางขวางกลางสะพานชมัยมรุเชษฐ ปิดเส้นทางการจราจรถนนพิษณุโลก ยาวไปจนถึงแยกสวนมิสกวัน และถนนราชดำเนิน บริเวณประตู5 ทางเข้าทำเนียบฯ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ และตำรวจอารักขาและควบคุมสูงชน มาเตรียมพร้อมดูแลความเรียบร้อย โดยรอบพื้นที่ทำเนียบฯ
 


จะเอาอะไรไปสู้! เพจดังเปิดราคา กางเกงช้าง จีนผลิตขายสุดถูก แนะ เอาคุณภาพเข้าสู้
https://www.matichon.co.th/social/news_4409637

จะเอาอะไรไปสู้! เพจดังเปิดราคา กางเกงช้าง จีนผลิตขายสุดถูก แนะ เอาคุณภาพเข้าสู้
จากการณี สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และเจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าในย่านประตูน้ำ เผยสถานการณ์การค้าเสื้อผ้าในประเทศไทย และความกังวลอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอของไทยไม่ได้รับอานิสงส์ เมื่อมีกระแสความนิยมสินค้าไทย กางเกงช้าง ที่มีการนำเข้าจากจีนหรือประเทศเพื่อนบ้าน มากกว่าผลิตในไทยนั้น

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “ลุยจีน” โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า

กางเกงช้างจีนขายในเว็ปจีนเริ่ม 30 บาท คนไทยจะเอาอะไรไปสู้เค้า?
 
อันนี้แคปมาจาก 1688 กางเกงช้าง 大象裤 ในเว็ปขายส่ง 1688 ของจีนเค้าขายส่งตัวละ 6 หยวน(30 บาท) ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ดูเอาละกันบางร้านออเดอร์ 30 วันที่ท่านมาเป็นหมื่นเป็นแสนหยวน(คุณ 5 เป็นบาท)
 
ส่วนพ่อค้าแม่ค้าไทยรับมาขายท๊อปอัพราคาไปอีก ขาสั้นเริ่ม 65 บาท ขายาวเริ่ม 75 บาท บางที่ขายแบบทีละ 2 ตัว 3 ตัว 150 บ้าง 199 บ้าง ถามว่าที่จีนเค้าผลิตออกมาด้วยราคาถูกขนาดนี้ โรงงานไทยจะเอาอะไรไปสู้เค้า???
 
สู้ต้นทุนยังไงก็ไม่ชนะ
 
ต้องสู้ที่คุณภาพสินค้าอย่างเดียว แต่ก็ต้องคุมราคาให้มันไม่โดดจนเกินไป ให้แข่งขันได้ แบบเป็นสินค้าที่ใส่สบาย ใส่ได้นาน คุ้มราคา อันนี้สำหรับพวกกางเกงช้างที่เน้นขายแมสนะ ส่วนอันที่เป็นของแบรนด์มาทำก็ทำดีแล้ว สู้ต่อไป ต้องใช้เวลาสักระยะในการทำการตลาดกับสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ
ของจีนเป้ามันขาดบ่อยขาดง่ายขาเต่อไซส์ไม่มาตรฐาน โปรโมทไปเลยของเราใช้ผ้าดีใส่แล้วเป้าไม่ขาด ใช้ทน (แต่ต้องให้ได้อย่างที่คุยจริงๆนะ) ลายสวย ลายออริจอนัล ลาย+เนื้อผ้ามีสตอรี่บลาๆๆ ยังไงลูกค้าถ้าได้เปรียบเทียบได้ลองใช้ มันจะปากต่อปากเอง แล้วไปนานๆจะแยกกลุ่มลูกค้าเองว่ากลุ่มไหนชอบ “ของถูก” กลุ่มไหนชอบ “ของดี”
 
ต้องมอง painpoint ของกางเกงช้างให้แตก
 
พยายามทำให้มันเป็นเสื้อผ้าที่ไม่ใช่แค่ใส่ที่ไทย แต่ต้องเอากลับไปใส่โชว์ที่บ้านเค้าด้วย แล้วกางเกงช้างแบบ “กางเกงวอร์ม” ส่วนตัวคือเชียร์อยากให้ทำมาก เอาไว้ไปออกกำลังกายใส่วิ่งใส่ในบ้าน หรือชาวต่างชาติซื้อไปใส่หน้าหนาวบ้านเค้าได้ อันนี้ก็จะดีมากๆ
 
อันนี้ฝากไว้ให้คิดครับ ในฐานะผู้บริโภคชาวไทยที่อยากเห็นกางเกงช้างไม่ใช่แค่แมส แต่เป็นของคุณภาพดีจากเมืองไทยที่ใส่ได้ทุกประเทศทุกโอกาส
ปล. กระทรวงพาณิชย์อาจเข้ามาดูเรื่องเครื่องหมาย Thai Select ด้วยก็ดีนะ แบบผู้ผลิตเจ้าไหนทำแล้วโอเคก็จะได้มีเครื่องหมายนี้บนแท๊กสินค้า เพื่อรับรองคุณภาพ ส่วนถ้ามรโรงงานไหนปลอมตรานี้ก็ลงโทษให้หนัก
 
กำแพงภาษีก็ส่วนนึง แต่อาจไม่ช่วยเพราะกางเกงช้างจีนพวกนี้ส่งมาทางรถแบบหนีภาษี

https://www.facebook.com/luijeen/posts/908326334082504?ref=embed_post
 

 
เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าเร็วและแรง หลังตลาดคาดเฟดชะลอลดดอกเบี้ย หนุนดอลลาร์แข็ง
https://www.matichon.co.th/economy/news_4409686

เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าเร็วและแรง หลังตลาดคาดเฟดชะลอลดดอกเบี้ย หนุนดอลลาร์แข็ง
 
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.59 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.30-35.90 บาท/ดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.50-35.75 บาท/ดอลลาร์
 
นายพูน กล่าวว่า โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนสูงและโดยรวมอ่อนค่าลงหนัก (แกว่งตัวในกรอบ 35.18-35.62 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ก่อนที่เงินบาทจะผันผวนอ่อนค่าลงเร็วและแรง จากรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดไปมาก ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างลดโอกาสที่เฟดจะรีบลดดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กดดันทั้งเงินบาทและราคาทองคำ
 
นายพูน กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่งและท่าทีไม่รีบลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่ของปี ในสัปดาห์นี้ ควรจับตา ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พร้อมติดตาม รายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯ, การปรับปรุงอัตราเงินเฟ้อ CPI และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
 
นายพูน กล่าวว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่ากลับมาอีกครั้ง หลังเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าเร็วและแรงจากรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม กนง. ที่อาจกดดันเงินบาทได้ หากมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ หรือ มีการส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้ เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม หากบรรดานักลงทุนต่างชาติเดินหน้าขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะในส่วนของบอนด์ระยะสั้น หากเงินบาทอ่อนค่าหนัก
 
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นต่อ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ (น้อยกว่า 5-6 ครั้ง นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อาจได้แรงหนุนเพิ่มเติม หากผู้เล่นในตลาดเชื่อว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าเฟด ส่งผลให้เงินยูโร (EUR) ผันผวนอ่อนค่าลง
 
ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward” นายพูน กล่าวว่า
 
นายพูน กล่าวว่า มุมมองเศรศฐกิจไทย ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเรามองว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ทว่า เราจะจับตาอย่างใกล้ชิด ว่า กนง. จะมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับเริ่มส่งสัญญาณเตรียมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น หากจำเป็น หรือไม่ โดยหาก กนง. มีการปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2024 และ 2025 รวมถึงอัตราการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชน อย่างชัดเจน
 
เช่น อัตราการเติบโตเศรษฐกิจทั้งสองปี “ต่ำกว่า” ระดับศักยภาพของเศรษฐกิจที่ +3%y/y พอสมควร ก็จะเพิ่มโอกาสที่ กนง. อาจทยอยลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้ง ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้ ทั้งนี้ ก่อนที่ตลาดจะรับรู้ผลการประชุม กนง. ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนมกราคม โดยเราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI อาจ “ติดลบ” ราว -0.9% จากปัจจัยระดับฐานราคาสินค้าและบริการที่สูงมากในปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานในช่วงเดือนมกราคม อาจพอช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อได้บ้าง ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ซึ่งไม่รวมผลของราคาพลังงานและอาหารสดอาจยังทรงตัวที่ระดับ 0.60% สอดคล้องกับภาพการทยอยฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและภาพเศรษฐกิจโดยรวม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่