ก้าวไกล จ่อไม่ไปศาลรธน. ฟังคำวินิจฉัยคดีล้มล้าง เกรงสภาฯถกพ.ร.บ.นิรโทษ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8073498
ชัยธวัช คาด ก้าวไกลไม่ไปศาลรัฐธรรมนูญ ฟังคำวินิจฉัย ปมล้มล้างการปกครอง เกรง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าถกในสภาฯ รอเคาะข้อสรุปพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2567 นาย
ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง ของนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล กรณีเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงว่า พรรคจะประชุมในวันที่ 30 ม.ค. เพื่อหารือว่าจะเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่ได้ไปรับฟังที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเกรงว่าวันดังกล่าวจะมีการพิจารณาญัตติร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสส.ของพรรคทั้งหมดอาจรอฟังคำตัดสินที่ห้องรับรองของพรรค
เครือข่ายแรงงานฯ จี้ เพื่อไทย-ก้าวไกล จับมือดันกม.นิรโทษ มั่นใจ ถ้า 2 พรรคนี้หนุนผ่านแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4399725
ไหม เครือข่ายแรงงานฯ ร่วมขบวนโหมโรง ‘นิรโทษกรรม’ จี้ พท.นำทีมดันกฎหมายผ่านสภา
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ (Freedom of Kasetsart Group), ทะลุฟ้า, ทะลุแก๊ซ และเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน จัดกิจกรรมรณรงค์ “
นิรโทษกรรมประชาชน” คือ เรื่องที่ต้องทำทันที โดยเริ่มเส้นทางการทำกิจกรรมตั้งแต่แยกราชประสงค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สยามพารากอน และขึ้นขบวนรถไฟฟ้า BTS ไปยังสถานีหมอชิต เป็นต้น
บรรยากาศเวลา 15.00 น. กลุ่มกิจกรรมนักเคลื่อนไหวได้เดินเท้าไปยังป้ายราชประสงค์ เพื่อยืนหยุดนิ่ง โดยสมาชิกถือป้าย “
นิรโทษกรรมประชาชน” โดยได้แจกกระดาษที่เขียนว่า นิรโทษกรรมประชาชนมีลักษณะสีน้ำเงิน และมีการแจกริบบิ้นโบว์สีขาวเพื่อแจกให้ประชาชนที่ได้ร่วมกันเดินขบวน ทั้งยังได้ชูป้ายขึ้นมาเพื่อแสดงความคิดเห็น
น.ส.
ธนพร วิจันทร์ หรือไหม เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เราจะเปิดการสื่อสารกับพี่น้องภาคประชาชนให้เราได้รับรู้ว่า พวกเราเครือข่ายนิรโทษกรรม เรากำลังจะเคลื่อนไหวเปิดแคมเปญในช่วงวันที่ 1-14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
“
วันนี้เราจะมาสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้ได้รับรู้ว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เรากำลังรณรงค์เรื่องนิรโทษกรรมประชาชน ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาทางการเมืองยังถูกดำเนินคดีออย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ารัฐบาลพูดถึงเรื่องประชาธิปไตย สิทธิ การแสดงความคิดเห็น จึงเป็นโอกาสดีที่เราอยากให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมรัฐบาลได้พูดถึงเรื่องนี้” น.ส.ธนพรเผย
น.ส.ธนพรกล่าวว่า คดีทางการเมืองมันไม่ได้หยุด มันถูกดำเนินการต่อ ซึ่งประชาชนมีค่าใช้จ่ายจากการถูกดำเนินคดีเหล่านี้ เราคิดว่าคดีที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง มันไม่ใช่คดีที่มันจะต้องดำเนินการต่อ หรือการแสดงความคิดเห็น มันไม่ได้ทำให้ประเทศนี้เสียหาย
“
เราคิดว่าคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในช่วงที่ผ่านมา เขาอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย และวันนี้เรามีรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลข้ามขั้วก็ตามแต่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียง ก็พูดชัดเจนถึงเรื่องประชาธิปไตย สิทธิ และเคารพการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง เราจึงคิดว่าแล้วพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร วันนี้เราจึงมาสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่า เราจะเริ่มแล้ว” น.ส.ธนพรเผย
น.ส.
ธนพรกล่าวว่า ภาคประชาชนจะเริ่ม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีความแตกต่างจากหลายพรรคการเมืองที่จะยื่นมา โดยมีเรื่องเกี่ยวกับคดี ม.112 เราคิดว่าเสียงของพวกเราจะส่งถึงพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่เป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา
“
ถ้า 2 พรรคนี้เอาด้วย เขามีความชัดเจนเรื่องความคิดเห็นทางการเมือง แน่นอนกฎหมายผ่านแน่นอน โดยที่เราไม่ต้องไปหวังพึ่งพรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ
วันนี้ถึงเวลาแล้วพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย แม้พรรคก้าวไกลจะอยู่ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มันต้องเห็นตรงกันว่านิรโทษกรรมมีความสำคัญต่อประชาชน คนรุ่นใหม่ที่โดนคดีเขาสูญเสียอะไรมากมาย บางคนเรียนจบมาแล้วก็ยังหางานทำไม่ได้” น.ส.ธนพรระบุ
น.ส.
ธนพรกล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกภาคส่วนต้องให้ความสนใจ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งควรใช้รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการพูดเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชนที่เขาไม่ควรถูกดำเนินคดีอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่าง และเราหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะพูดเรื่องนี้
พบ ‘นาย ศ.’ นักร้องคนดังสะสมที่50ไร่กำลังทำรีสอร์ท-บ้านพักริมน้ำปราจีนฯ
https://www.dailynews.co.th/news/3126700/
ไม่ธรรมดา! “นาย ศ.” นักร้องคนดังซื้อที่ดินสะสมไว้ 50 ไร่ แถมกำลังทำรีสอร์ท-บ้านพักรวม 4 หลัง พร้อมเขื่อนริมแม่น้ำปราจีนบุรี มูลค่าหลายล้านบาทในถิ่นฐานบ้านเมีย.
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ “นาย ศ.” นักร้องเรียนคนดัง ที่สังคมกำลังตั้งคำถามว่าเขามีอาชีพอะไรแน่? มีรายได้ มีทรัพย์สินมากแค่ไหน? นอกเหนือจากบ้านพักหลายหลังในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่า นาย ศ. มีภรรยาคนแรก แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ปัจจุบันอยู่กินกับภรรยาคนที่ 2 มีบุตรด้วยกันอายุราว 5-6 ขวบ โดยภรรยาคนที่ 2 ของนาย ศ. มีพื้นเพเป็นชาว ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และก่อนหน้านี้ได้นาย ศ.ได้ไปซื้อที่ดินของเครือญาติภรรยาเก็บสะสมไว้ 2 แปลง รวมกันประมาณ 50 ไร่ ตกไร่ละประมาณ 200,000 บาท ในพื้นที่ ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง ซึ่งปัจจุบันได้ให้คนละแวกนั้นเช่าพื้นที่ทำนา
นอกจากนี้ นาย ศ. กำลังทำโครงการทำรีสอร์ทพร้อมบ้านพักอาศัย รวม 4 หลัง ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี (บางปะกง) ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง อยู่ช่วงวัดบางเตย-วัดบางกระเบา ซึ่งเป็นคนละแปลงกับที่นา 50 ไร่ในข้างต้น รวมมูลค่าหลายล้านบาท ปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้ว 1 หลัง และมีการสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งริมแม่น้ำด้วย
โดย นาย ศ. ได้เอาทีมช่างมาจาก จ.นครสวรรค์ มาสร้างบ้านริมน้ำที่ปราจีนบุรี และบ้านพักใน อ.ลำลูกกา และมักจะแวะเวียนมาดูความคืบหน้าการก่อสร้างรีสอร์ตพร้อมบ้านพักอาศัยริมแม่น้ำปราจีนบุรีเกือบทุกสัปดาห์ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจาก อ.ลำลูกกา และบรรยากาศดี เงียบสงบ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้.
เอลนีโญ ฉุดผลผลิต 5 พืชศก. ลดฮวบ ข้าว ยางพารามากสุด ทำเกษตรกรรายได้ตก หนี้พุ่งทะลุ 11.7ล้านล.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4399720
เอลนีโญ ฉุดผลผลิต 5 พืชศก. ลดฮวบ ข้าว ยางพารามากสุด ทำเกษตรกรรายได้ตก หนี้พุ่งทะลุ 11.7 ล้านล.
เมื่อวันที่ 29 มกราคม นาย
อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาบริษัท อินเทลลิเจนท์ รีเสิร์ช คอนซัลแตนท์ (ไออาร์ซี) จำกัด เปิดเผยว่า ผลวิเคราะห์กรณีปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่มีผลกระทบต่อชาวนาและเกษตรกร พบว่า คาดการณ์ปี 2567 โลกร้อนขึ้น ผลต่อเนื่องจากปริมาณน้ำทำการเกษตรลดลง ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา อาจถึงปี 2575 ส่งต่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นจาก 0.8 องศาเซลเซียส เป็น 1.2 องศาเซลเซียส เฉพาะปี 2567 การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกเพิ่มมากกว่า 1 องศาเซลเซียส ส่งผลปริมาณน้ำของไทยปี 2567 ลดลง 4,025 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปี 2566 ตามข้อมูลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประเมินล่าสุดกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้น้ำใช้เพื่อการเกษตรลดลง ภาคเกษตรต้องการน้ำมากสุดคิดเป็น 80% ของการใช้น้ำทั้งหมดของประเทศ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาคเกษตรที่สูงอยู่แล้ว ยิ่งสูงขึ้นอีก กระทบต่อชาวนาและเกษตรกรอื่นจะอยู่ยากลำบากมากขึ้นจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและรายได้ลดลง จนเกิดหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มต่อเนื่อง
นาย
อัทธ์กล่าวต่อว่า บริษัท IRC คาดปี 2567 ปริมาณน้ำฝนลดลง 5-15% ตามความรุนแรง จากปี 2566 เอลนีโญ จะทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกไทยลดลงมากสุดในอาเซียน ปี 2567 บริษัทผลผลิตข้าวเปลือกไทยลดลงมากสุด 3.5 ล้านตัน และ 5.1 ล้านตัน ในปี 2568 ซึ่งลดลงมากกว่าผลผลิตข้าวเปลือกของอินโดนีเซีย เวียดนามและเมียนมา ทั้งนี้ เมื่อเทียบ 5 พืชเศรษฐกิจไทย คือ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน และมันสำปะหลัง ประเมินว่าข้าว ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน เป็น 3 กลุ่มเสี่ยงผลผลิตลดลงมากสุดในปี 2567 หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1% และปริมาณน้ำฝนลดลง 1% โดยคาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกลดลง 1.3 ล้านตัน ปาล์มน้ำมันลดลง 6 แสนตัน และทุเรียนลดลง 4.9 แสนตัน ซึ่งเอลนีโญส่งผลให้อัตราการผลผลิตข้าวเปลือกลดลง 3 ปีติดต่อแล้ว ตั้งแต่ปี 2564 จากบวก 10.9% เป็นลบ 9.2% ในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณส่งออกข้าวไทยลดลง ราคาข้าวไทยแพงสุด สต๊อกข้าวโลกลดลงต่อ 3-4 ปี
โดยปี 2567 เอลนีโญทำให้ปริมาณการผลิตข้าวเปลือกลดลง ส่งผลต่อส่งออกลดลงจาก 8.5 ล้านตัน ปี 2566 เหลือ 7.2 ล้านตัน ในปี 2567 แต่ยังเป็นประเทศส่งออกข้าวอันดับสองของโลก รองจากอินเดีย คาดส่งออกปีละ 22 ล้านตัน น่ากังวลคือทิศทางราคาข้าวไทยในตลาดโลกอาจแพงสุด เฉลี่ยอยู่ที่ 612 เหรียญต่อตัน เวียดนามเฉลี่ย 553 เหรียญต่อตัน อินเดียเฉลี่ย 528 เหรียญต่อตัน ซึ่งสต๊อกข้าวโลกลดลง 4 ปีติดต่อกัน คาดว่าสต๊อกข้าวลดลง 1% ดันราคาข้าวโลกเพิ่ม 4% และราคาข้าวโลกปี 2567 อยู่ช่วง 610-670 เหรียญ/ตัน
ขณะเดียวกันเอลนีโญ ส่งผลต่อรายได้ ทุเรียนและปาล์ม ลดลงมากสุด แต่รายได้ข้าว ยางพารา ติดลบมากสุด รายได้ต่อไร่ของชาวนา และชาวสวนยางพารา ติดลบมากสุด คือหายไป 971 บาท/ไร่ และหายไป 3,315 บาท/ไร่ ตามลำดับ แต่รายได้ของชาวสวนทุเรียนลดลงมากสุด 21,932 บาท/ไร่ และปาล์มน้ำมัน 3,505 บาท/ไร่ ซึ่งจะส่งผลต่อหนี้ครัวเรือน โดยข้าว ยาง ปาล์ม หนี้เพิ่มมากสุด ทำให้ครัวเรือนเกษตรกรเป็นหนี้เพิ่มขึ้น โดยครัวเรือนชาวนามีหนี้เพิ่มมากสุดอยู่ที่ 298,530 บาท/ครัวเรือน ตามด้วยยางพารา 271,700 บาท/ครัวเรือน และปาล์ม มันสำปะหลังและทุเรียน ตามลำดับ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งบริหารจัดการ และหาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรโดยด่วน เช่น ระบบ Smart Water โดยใช้เทคโนโลยีน้ำน้อย ทำให้ดินชุ่มชื่น และโครงการ 1 น้ำ 1 เกษตรกร เป็นต้น
“
ในภาพรวมจากต้นทุนและภาระที่เพิ่มขึ้นจากเอลนีโญ ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนเกษตรกรเพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ทำให้หนี้ครัวเรือนเกษตรกรถ้าไม่มีเอลนีโญ อยู่ที่ 11.6 ล้านล้านบาท เป็น 11.7 ล้านล้านบาทหากเจอมีเอลนิโญรุนแรง ” นายอัทธ์กล่าว
JJNY : 5in1 ก้าวไกลจ่อไม่ไปศาลรธน.│จี้เพื่อไทย-ก้าวไกลจับมือ│พบนักร้องสะสมที่│เอลนีโญฉุดผลผลิต│มือบึ้มหนีคดีเสียชีวิต
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8073498
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2567 นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล กรณีเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงว่า พรรคจะประชุมในวันที่ 30 ม.ค. เพื่อหารือว่าจะเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่ได้ไปรับฟังที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเกรงว่าวันดังกล่าวจะมีการพิจารณาญัตติร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสส.ของพรรคทั้งหมดอาจรอฟังคำตัดสินที่ห้องรับรองของพรรค
เครือข่ายแรงงานฯ จี้ เพื่อไทย-ก้าวไกล จับมือดันกม.นิรโทษ มั่นใจ ถ้า 2 พรรคนี้หนุนผ่านแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4399725
ไหม เครือข่ายแรงงานฯ ร่วมขบวนโหมโรง ‘นิรโทษกรรม’ จี้ พท.นำทีมดันกฎหมายผ่านสภา
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ (Freedom of Kasetsart Group), ทะลุฟ้า, ทะลุแก๊ซ และเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน จัดกิจกรรมรณรงค์ “นิรโทษกรรมประชาชน” คือ เรื่องที่ต้องทำทันที โดยเริ่มเส้นทางการทำกิจกรรมตั้งแต่แยกราชประสงค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สยามพารากอน และขึ้นขบวนรถไฟฟ้า BTS ไปยังสถานีหมอชิต เป็นต้น
บรรยากาศเวลา 15.00 น. กลุ่มกิจกรรมนักเคลื่อนไหวได้เดินเท้าไปยังป้ายราชประสงค์ เพื่อยืนหยุดนิ่ง โดยสมาชิกถือป้าย “นิรโทษกรรมประชาชน” โดยได้แจกกระดาษที่เขียนว่า นิรโทษกรรมประชาชนมีลักษณะสีน้ำเงิน และมีการแจกริบบิ้นโบว์สีขาวเพื่อแจกให้ประชาชนที่ได้ร่วมกันเดินขบวน ทั้งยังได้ชูป้ายขึ้นมาเพื่อแสดงความคิดเห็น
น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือไหม เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เราจะเปิดการสื่อสารกับพี่น้องภาคประชาชนให้เราได้รับรู้ว่า พวกเราเครือข่ายนิรโทษกรรม เรากำลังจะเคลื่อนไหวเปิดแคมเปญในช่วงวันที่ 1-14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
“วันนี้เราจะมาสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้ได้รับรู้ว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เรากำลังรณรงค์เรื่องนิรโทษกรรมประชาชน ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาทางการเมืองยังถูกดำเนินคดีออย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ารัฐบาลพูดถึงเรื่องประชาธิปไตย สิทธิ การแสดงความคิดเห็น จึงเป็นโอกาสดีที่เราอยากให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมรัฐบาลได้พูดถึงเรื่องนี้” น.ส.ธนพรเผย
น.ส.ธนพรกล่าวว่า คดีทางการเมืองมันไม่ได้หยุด มันถูกดำเนินการต่อ ซึ่งประชาชนมีค่าใช้จ่ายจากการถูกดำเนินคดีเหล่านี้ เราคิดว่าคดีที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง มันไม่ใช่คดีที่มันจะต้องดำเนินการต่อ หรือการแสดงความคิดเห็น มันไม่ได้ทำให้ประเทศนี้เสียหาย
“เราคิดว่าคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในช่วงที่ผ่านมา เขาอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย และวันนี้เรามีรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลข้ามขั้วก็ตามแต่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียง ก็พูดชัดเจนถึงเรื่องประชาธิปไตย สิทธิ และเคารพการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง เราจึงคิดว่าแล้วพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร วันนี้เราจึงมาสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่า เราจะเริ่มแล้ว” น.ส.ธนพรเผย
น.ส.ธนพรกล่าวว่า ภาคประชาชนจะเริ่ม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีความแตกต่างจากหลายพรรคการเมืองที่จะยื่นมา โดยมีเรื่องเกี่ยวกับคดี ม.112 เราคิดว่าเสียงของพวกเราจะส่งถึงพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่เป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา
“ถ้า 2 พรรคนี้เอาด้วย เขามีความชัดเจนเรื่องความคิดเห็นทางการเมือง แน่นอนกฎหมายผ่านแน่นอน โดยที่เราไม่ต้องไปหวังพึ่งพรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ
วันนี้ถึงเวลาแล้วพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย แม้พรรคก้าวไกลจะอยู่ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มันต้องเห็นตรงกันว่านิรโทษกรรมมีความสำคัญต่อประชาชน คนรุ่นใหม่ที่โดนคดีเขาสูญเสียอะไรมากมาย บางคนเรียนจบมาแล้วก็ยังหางานทำไม่ได้” น.ส.ธนพรระบุ
น.ส.ธนพรกล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกภาคส่วนต้องให้ความสนใจ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งควรใช้รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการพูดเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชนที่เขาไม่ควรถูกดำเนินคดีอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่าง และเราหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะพูดเรื่องนี้
พบ ‘นาย ศ.’ นักร้องคนดังสะสมที่50ไร่กำลังทำรีสอร์ท-บ้านพักริมน้ำปราจีนฯ
https://www.dailynews.co.th/news/3126700/
ไม่ธรรมดา! “นาย ศ.” นักร้องคนดังซื้อที่ดินสะสมไว้ 50 ไร่ แถมกำลังทำรีสอร์ท-บ้านพักรวม 4 หลัง พร้อมเขื่อนริมแม่น้ำปราจีนบุรี มูลค่าหลายล้านบาทในถิ่นฐานบ้านเมีย.
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ “นาย ศ.” นักร้องเรียนคนดัง ที่สังคมกำลังตั้งคำถามว่าเขามีอาชีพอะไรแน่? มีรายได้ มีทรัพย์สินมากแค่ไหน? นอกเหนือจากบ้านพักหลายหลังในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่า นาย ศ. มีภรรยาคนแรก แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ปัจจุบันอยู่กินกับภรรยาคนที่ 2 มีบุตรด้วยกันอายุราว 5-6 ขวบ โดยภรรยาคนที่ 2 ของนาย ศ. มีพื้นเพเป็นชาว ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และก่อนหน้านี้ได้นาย ศ.ได้ไปซื้อที่ดินของเครือญาติภรรยาเก็บสะสมไว้ 2 แปลง รวมกันประมาณ 50 ไร่ ตกไร่ละประมาณ 200,000 บาท ในพื้นที่ ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง ซึ่งปัจจุบันได้ให้คนละแวกนั้นเช่าพื้นที่ทำนา
นอกจากนี้ นาย ศ. กำลังทำโครงการทำรีสอร์ทพร้อมบ้านพักอาศัย รวม 4 หลัง ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี (บางปะกง) ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง อยู่ช่วงวัดบางเตย-วัดบางกระเบา ซึ่งเป็นคนละแปลงกับที่นา 50 ไร่ในข้างต้น รวมมูลค่าหลายล้านบาท ปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้ว 1 หลัง และมีการสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งริมแม่น้ำด้วย
โดย นาย ศ. ได้เอาทีมช่างมาจาก จ.นครสวรรค์ มาสร้างบ้านริมน้ำที่ปราจีนบุรี และบ้านพักใน อ.ลำลูกกา และมักจะแวะเวียนมาดูความคืบหน้าการก่อสร้างรีสอร์ตพร้อมบ้านพักอาศัยริมแม่น้ำปราจีนบุรีเกือบทุกสัปดาห์ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจาก อ.ลำลูกกา และบรรยากาศดี เงียบสงบ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้.
เอลนีโญ ฉุดผลผลิต 5 พืชศก. ลดฮวบ ข้าว ยางพารามากสุด ทำเกษตรกรรายได้ตก หนี้พุ่งทะลุ 11.7ล้านล.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4399720
เอลนีโญ ฉุดผลผลิต 5 พืชศก. ลดฮวบ ข้าว ยางพารามากสุด ทำเกษตรกรรายได้ตก หนี้พุ่งทะลุ 11.7 ล้านล.
เมื่อวันที่ 29 มกราคม นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาบริษัท อินเทลลิเจนท์ รีเสิร์ช คอนซัลแตนท์ (ไออาร์ซี) จำกัด เปิดเผยว่า ผลวิเคราะห์กรณีปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่มีผลกระทบต่อชาวนาและเกษตรกร พบว่า คาดการณ์ปี 2567 โลกร้อนขึ้น ผลต่อเนื่องจากปริมาณน้ำทำการเกษตรลดลง ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา อาจถึงปี 2575 ส่งต่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นจาก 0.8 องศาเซลเซียส เป็น 1.2 องศาเซลเซียส เฉพาะปี 2567 การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกเพิ่มมากกว่า 1 องศาเซลเซียส ส่งผลปริมาณน้ำของไทยปี 2567 ลดลง 4,025 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปี 2566 ตามข้อมูลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประเมินล่าสุดกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้น้ำใช้เพื่อการเกษตรลดลง ภาคเกษตรต้องการน้ำมากสุดคิดเป็น 80% ของการใช้น้ำทั้งหมดของประเทศ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาคเกษตรที่สูงอยู่แล้ว ยิ่งสูงขึ้นอีก กระทบต่อชาวนาและเกษตรกรอื่นจะอยู่ยากลำบากมากขึ้นจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและรายได้ลดลง จนเกิดหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มต่อเนื่อง
นายอัทธ์กล่าวต่อว่า บริษัท IRC คาดปี 2567 ปริมาณน้ำฝนลดลง 5-15% ตามความรุนแรง จากปี 2566 เอลนีโญ จะทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกไทยลดลงมากสุดในอาเซียน ปี 2567 บริษัทผลผลิตข้าวเปลือกไทยลดลงมากสุด 3.5 ล้านตัน และ 5.1 ล้านตัน ในปี 2568 ซึ่งลดลงมากกว่าผลผลิตข้าวเปลือกของอินโดนีเซีย เวียดนามและเมียนมา ทั้งนี้ เมื่อเทียบ 5 พืชเศรษฐกิจไทย คือ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน และมันสำปะหลัง ประเมินว่าข้าว ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน เป็น 3 กลุ่มเสี่ยงผลผลิตลดลงมากสุดในปี 2567 หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1% และปริมาณน้ำฝนลดลง 1% โดยคาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกลดลง 1.3 ล้านตัน ปาล์มน้ำมันลดลง 6 แสนตัน และทุเรียนลดลง 4.9 แสนตัน ซึ่งเอลนีโญส่งผลให้อัตราการผลผลิตข้าวเปลือกลดลง 3 ปีติดต่อแล้ว ตั้งแต่ปี 2564 จากบวก 10.9% เป็นลบ 9.2% ในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณส่งออกข้าวไทยลดลง ราคาข้าวไทยแพงสุด สต๊อกข้าวโลกลดลงต่อ 3-4 ปี
โดยปี 2567 เอลนีโญทำให้ปริมาณการผลิตข้าวเปลือกลดลง ส่งผลต่อส่งออกลดลงจาก 8.5 ล้านตัน ปี 2566 เหลือ 7.2 ล้านตัน ในปี 2567 แต่ยังเป็นประเทศส่งออกข้าวอันดับสองของโลก รองจากอินเดีย คาดส่งออกปีละ 22 ล้านตัน น่ากังวลคือทิศทางราคาข้าวไทยในตลาดโลกอาจแพงสุด เฉลี่ยอยู่ที่ 612 เหรียญต่อตัน เวียดนามเฉลี่ย 553 เหรียญต่อตัน อินเดียเฉลี่ย 528 เหรียญต่อตัน ซึ่งสต๊อกข้าวโลกลดลง 4 ปีติดต่อกัน คาดว่าสต๊อกข้าวลดลง 1% ดันราคาข้าวโลกเพิ่ม 4% และราคาข้าวโลกปี 2567 อยู่ช่วง 610-670 เหรียญ/ตัน
ขณะเดียวกันเอลนีโญ ส่งผลต่อรายได้ ทุเรียนและปาล์ม ลดลงมากสุด แต่รายได้ข้าว ยางพารา ติดลบมากสุด รายได้ต่อไร่ของชาวนา และชาวสวนยางพารา ติดลบมากสุด คือหายไป 971 บาท/ไร่ และหายไป 3,315 บาท/ไร่ ตามลำดับ แต่รายได้ของชาวสวนทุเรียนลดลงมากสุด 21,932 บาท/ไร่ และปาล์มน้ำมัน 3,505 บาท/ไร่ ซึ่งจะส่งผลต่อหนี้ครัวเรือน โดยข้าว ยาง ปาล์ม หนี้เพิ่มมากสุด ทำให้ครัวเรือนเกษตรกรเป็นหนี้เพิ่มขึ้น โดยครัวเรือนชาวนามีหนี้เพิ่มมากสุดอยู่ที่ 298,530 บาท/ครัวเรือน ตามด้วยยางพารา 271,700 บาท/ครัวเรือน และปาล์ม มันสำปะหลังและทุเรียน ตามลำดับ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งบริหารจัดการ และหาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรโดยด่วน เช่น ระบบ Smart Water โดยใช้เทคโนโลยีน้ำน้อย ทำให้ดินชุ่มชื่น และโครงการ 1 น้ำ 1 เกษตรกร เป็นต้น
“ในภาพรวมจากต้นทุนและภาระที่เพิ่มขึ้นจากเอลนีโญ ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนเกษตรกรเพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ทำให้หนี้ครัวเรือนเกษตรกรถ้าไม่มีเอลนีโญ อยู่ที่ 11.6 ล้านล้านบาท เป็น 11.7 ล้านล้านบาทหากเจอมีเอลนิโญรุนแรง ” นายอัทธ์กล่าว