บทความโดย Nam Giang เผยแพร่วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2024
ผลงานของทีมชาติไทยในศึกเอเชียนคัพ 2023 ครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไทยสมควรเป็นทีมอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง
ทีมชาติไทยเต็มไปด้วยข้อสงสัยและคำถามมากมายบนเที่ยวบินที่นำโค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ และลูกทีมของเขาที่เดินทางไปกาตาร์เพื่อลุยศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย
แต่นอกเหนือจากเครื่องหมายคำถามเหล่านั้นแล้ว ผลงานของไทยในทัวร์นาเมนต์ปีนี้ยังคงอยู่และดำเนินต่อไป ทำให้ทุกภูมิภาคของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง หลังจากการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ คัพ 2 สมัยติดต่อกัน (ปี 2020/21 และ 2022/23) เอเชียนคัพ 2023 ยังคงตอกย้ำจุดยืนของทีมที่มาฉายาว่า "ช้างศึก” ได้เป็นอย่างดีว่า นี่คือ "พี่ใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้" อย่างแท้จริง
ทีมชาติไทยสร้างสถิติหลังจบรอบแบ่งกลุ่มเอเชียนคัพ 2023 ตัวแทนจาก "ดินแดนวัดเจดีย์ทอง" ได้กลายเป็นทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าตั๋วผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ด้วยสถิติไร้พ่ายตลอดรอบแบ่งกลุ่ม เพราะหลังจากผ่านไป 3 นัด ไทยชนะ 1 เสมอ 2 ยิงได้ 2 ประตู เก็บคลีนชีตได้ทั้ง 3 นัด นับเป็นเอเชียนคัพครั้งแรกที่ “ช้างศึก” ไม่แพ้ในรอบแบ่งกลุ่มเลยหลังผ่านมา 7 นัด
ผลจากจบรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ไทยมีผลงานเทียบเท่ากับทีมอย่าง ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก, อิหร่าน, ออสเตรเลีย,เกาหลีใต้ และกาตาร์ ที่เป็นทีมที่ไม่แพ้ใครเลยในรอบแบ่งกลุ่มเอเชียนคัพ 2023 คราวนี้
จากการจัดอันดับฟีฟ่าล่าสุดก่อนเอเชียนคัพ 2023 จะเริ่มขึ้น (21 ธันวาคม 2566) ทีมของโค้ชอิชิอิไม่แพ้คู่ต่อสู้ที่มีอันดับสูงกว่าทั้งสามทีม ไทยเปิดฉากด้วยชัยชนะเหนือคีร์กีซสถาน 2-0 (อันดับที่ 98) นัดต่อไป “ช้างศึก” ก็แบ่งแต้มให้โอมาน (อันดับที่ 74) และนัดสุดท้ายชี้ชะตารอบแบ่งกลุ่ม ไทยยังคงสร้างความประทับใจด้วยการต้านทานยักษ์ใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย (อันดับที่ 56) ทีมที่เพิ่งไปผ่ายเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ด้วยสกอร์ 0-0 แม้ว่าโค้ชอิชิอิจะใช้ทีมชุด 2 สำรองก็ตามเท่านั้น
เหตุผลที่โค้ชญี่ปุ่นคนนี้ ตัดสินใจพักตัวผู้เล่นหลักๆส่วนใหญ่เอาไว้ แม้ว่าไทยจะต้องพบกับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าก็เพราะมันเป็นเพียงการแข่งขันอีก 1 นัดเท่านั้น เนื่องจากไทยได้ตั๋วเข้ารอบ 1/8 (16 ทีม) จริง ๆก่อนเตะที่ 3 ด้วยซ้ำ “ช้างศึก” ได้เป็นตัวแทนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มั่นใจว่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มโดยเร็วที่สุด จริงๆแล้วนอกจากไทยแล้วยังมีทีมจากภูมิภาคเดียวกันอีกทีมเดียวที่ทำได้คือ อินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามแรงจูงใจของโค้ชชินแทยงและลูกทีม ยังดูด้อยกว่าทีมโค้ชอิชิอิ ด้วยเพราะว่าทีมชาติอินโดนีเซียมีคะแนนแค่ 3 แต้ม แถมยังรั้งอันดับสุดท้ายใน 4 ทีมที่มีผลงานดีที่สุดอันดับ 3 ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือล้วนแต่มีคะแนน4 แต้มขึ้นทั้งนั้น
กล่าวโดยสรุปก็คือ ตัวแทนจาก "ดินแดนแห่งเกาะนับพัน" ได้รับสิทธิ์ให้แข่งต่อไปด้วยตั๋ว "ใบสุดท้าย" ขณะเดียวกัน ทีมชาติไทยเข้ารอบ 16 ทีมอย่างภาคภูมิใจในฐานะทีมรองในกลุ่มเอฟโดยที่ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมาย “ช้างศึก” มีคะแนนรวมทั้งหมด 5 แต้ม ตามหลังทีมจ่าฝูงอย่างซาอุดีอาระเบียแค่ 2 แต้มเท้านั้น ขณะที่ผลต่างประตูได้เสียของไทยคือ +2 ในขณะที่อินโดนีเซียคือ -3
นอกจากไทยแล้ว เอเชียนคัพ 2023 ยังมีทีมอื่นเพียงทีมเดียวที่ทำคลีนชีตได้หลังผ่านไป 3 นัดรอบแบ่งกลุ่มได้ ก็คือทีมชาติกาตาร์ เจ้าภาพนั่นเอง หลังจากการแสดงจบลงทำให้ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องถอดหมวกในโดฮาเพื่อสดุดี "ช้างศึก" ที่กลับมาติด 100 อันดับแรกของการจัดอันดับฟีฟ่าหลังจากรอคอยมาเกือบ 19 ปี ดังนั้นนับตั้งแต่เอเชียนคัพ 2023 ยังไม่เริ่มขึ้น จนกระทั่งรอบแบ่งกลุ่มสิ้นสุดลง อันดับของไทยก็เพิ่มขึ้นถึง 13 อันดับ
วิทยา เลาหกุล ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคสโมสรชลบุรีในไทยลีก กล่าวชมเชย โค้ชอิชิอิ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า “อิชิอิได้ยกระดับทีมชาติไทยแล้ว โดยเฉพาะการเล่นแนวรับที่มีระเบียบวินัยเป็นเลิศ ผมเห็นว่านักเตะไทยทุกคนเล่นมีระเบียบวินัยมากทุกครั้งที่ตั้งรับ ทีมชาติเราเล่นได้มั่นคงมาก หากโค้ชอิชิอิสามารถปรับปรุงความสามารถของเขาในการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการบุกทำประตู จะช่วยให้ไทยเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้นอีกนิด และผมคิดว่าไทยเราจะกลายเป็นทีมที่น่าเกรงขามมากในภูมิภาคเอเชีย"
ทีมชาติไทยเดินทัพสู่กาตาร์ในฐานะแชมป์เอเอฟเอฟคัพรายการอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระดับทีมชาติ
4 จาก5 ครั้งล่าสุด ตัวแทนดินแดนวัดเจดีย์ทองสามารถคว้าแชมป์ได้ในปี 2014, 2016, 2020/21 และ 2022/23 (เวียดนามได้แชมป์คั่นกลางในปี 2018) และผลงานในรอบแบ่งกลุ่มเอเชียนคัพ 2023 ไทยก็ยังคงตอกย้ำได้ว่า เป็นผู้นำฟุตบอลในภูมิภาคแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
กำจัดข้อสงสัย
โค้ชอิชิอิเพิ่งเข้ามาแทนที่ มิสเตอร์มาโน โพลกิงเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เพียงหนึ่งเดือนก่อนที่เอเชียนคัพ 2023 จะเริ่มต้นขึ้น ในขณะนั้นสัญญาระหว่างโค้ชที่เกิดในปี 1967 กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) มีเพียงระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น
คือจนกระทั่งฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 สิ้นสุดลง เหตุผลก็คือ พล.ต.อ.สมยศ พุมพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทย เหลือวาระการดำรงตำแหน่งเพียง 3 เดือนเท่านั้น โค้ชอิชิอิจึงกลายเป็นโค้ชคนที่ 5 ที่ได้คุม “ช้างศึก” นับตั้งแต่เอเชียนคัพ 2019 ต่อจาก มิโลวาน ราเยวัช, ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย (ชั่วคราว), อากิระ นิชิโนะ และโพลกิ้ง
โค้ชชาวญี่ปุ่นคนนี้ ประเดิมสนามคุมทีมชาติไทย ด้วยการแพ้ญี่ปุ่น 0-5 นี่เป็นแมตช์กระชับมิตรนัดเดียวของ "ช้างศึก" กับอิชิอิ ก่อนลงเล่นในศึกเอเชียนคัพ 2023 และก่อนที่ไทยจะไปกาตาร์ พวกเขาชนะเพียงนัดเดียวจาก 6 นัดล่าสุด (ชนะสิงคโปร์ 3-1). ส่วนนัดที่เหลือ เสมอ 1 นัดและแพ้ 4 นัด
บริษัทสถิติฟุตบอลชั้นนำอย่าง Opta ชี้ว่าในบรรดา 4 ทีม ในกลุ่ม F ไทยมีความเสี่ยงสูงที่สุดที่จะจบอันดับสุดท้าย (36.2%) แต่ตำแหน่งหลังการแข่งขันจริง "ดินแดนวัดเจดีย์ทอง" กลับอยู่อันดับสองของตารางได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆตามคำทำนายของ Opta ไทยมีโอกาสทำได้เพียง 22.2% เท่านั้น ต่ำกว่าอัตราอันดับสามตั้งเยอะ (31.4%)
ก่อนเดินทัพไปกาตาร์ ไทยไม่มีนักเตะ 3 คนที่เสาหลักของทีมอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา (บาดเจ็บ) และ เอกนิษฐ์ปัญญา (ไม่ยอมเข้าร่วมทีม) และกลางปี 2023 วงการฟุตบอลไทยก็เกิดวิกฤติเรื่องมูลค่าลิขลิทธิ์ไทยลีกที่ลดลงอย่างน่าใจหาย จากเดิมที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาทเหลือเพียงเท่านั้นแค่ 50ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้สถานการณ์ภายในสมาคมฟุตบอลก็ไม่สู้ดีนักใกล้ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยขอให้ พล.ต.อ.สมยศ ลาออก หลังทีมไทยชุด U22 ปี แพ้ทีม อินโดนีเซีย U22 ในการแข่งขันนัดชิงเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จนพล.ต.อ.สมยศยอมประกาศวางมือ หลังจบเอเชียนคัพ 2023 ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบต่อตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลให้กับ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย และเธอก็ได้ประกาศแล้วว่า กำลังจะพิจารณาต่อสัญญากับโค้ชอิชิอิคุมทีมต่อไปอีก 2 ปี
สิ่งที่เกิดขึ้นในกาตาร์บวกกับแชมป์เอเอฟเอฟคัพ 2 สมัยติดในปี 2021 และ 2022/23 แสดงให้เห็นว่าไทยอยู่อันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่า ทีมของโค้ชอิชิอิ จะไปได้ไกลแค่ไหนในเอเชี่ยนคัพ 2023 คราวนี้
Cr.Bongda24h.vn
แปลจากสื่อเวียดนาม ยอมรับตรงๆว่าตอนนี้ ไทยคือเจ้าอาเซียนอย่างแท้จริง
บทความโดย Nam Giang เผยแพร่วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2024
ผลงานของทีมชาติไทยในศึกเอเชียนคัพ 2023 ครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไทยสมควรเป็นทีมอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง
ทีมชาติไทยเต็มไปด้วยข้อสงสัยและคำถามมากมายบนเที่ยวบินที่นำโค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ และลูกทีมของเขาที่เดินทางไปกาตาร์เพื่อลุยศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย
แต่นอกเหนือจากเครื่องหมายคำถามเหล่านั้นแล้ว ผลงานของไทยในทัวร์นาเมนต์ปีนี้ยังคงอยู่และดำเนินต่อไป ทำให้ทุกภูมิภาคของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง หลังจากการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ คัพ 2 สมัยติดต่อกัน (ปี 2020/21 และ 2022/23) เอเชียนคัพ 2023 ยังคงตอกย้ำจุดยืนของทีมที่มาฉายาว่า "ช้างศึก” ได้เป็นอย่างดีว่า นี่คือ "พี่ใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้" อย่างแท้จริง
ทีมชาติไทยสร้างสถิติหลังจบรอบแบ่งกลุ่มเอเชียนคัพ 2023 ตัวแทนจาก "ดินแดนวัดเจดีย์ทอง" ได้กลายเป็นทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าตั๋วผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ด้วยสถิติไร้พ่ายตลอดรอบแบ่งกลุ่ม เพราะหลังจากผ่านไป 3 นัด ไทยชนะ 1 เสมอ 2 ยิงได้ 2 ประตู เก็บคลีนชีตได้ทั้ง 3 นัด นับเป็นเอเชียนคัพครั้งแรกที่ “ช้างศึก” ไม่แพ้ในรอบแบ่งกลุ่มเลยหลังผ่านมา 7 นัด
ผลจากจบรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ไทยมีผลงานเทียบเท่ากับทีมอย่าง ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก, อิหร่าน, ออสเตรเลีย,เกาหลีใต้ และกาตาร์ ที่เป็นทีมที่ไม่แพ้ใครเลยในรอบแบ่งกลุ่มเอเชียนคัพ 2023 คราวนี้
จากการจัดอันดับฟีฟ่าล่าสุดก่อนเอเชียนคัพ 2023 จะเริ่มขึ้น (21 ธันวาคม 2566) ทีมของโค้ชอิชิอิไม่แพ้คู่ต่อสู้ที่มีอันดับสูงกว่าทั้งสามทีม ไทยเปิดฉากด้วยชัยชนะเหนือคีร์กีซสถาน 2-0 (อันดับที่ 98) นัดต่อไป “ช้างศึก” ก็แบ่งแต้มให้โอมาน (อันดับที่ 74) และนัดสุดท้ายชี้ชะตารอบแบ่งกลุ่ม ไทยยังคงสร้างความประทับใจด้วยการต้านทานยักษ์ใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย (อันดับที่ 56) ทีมที่เพิ่งไปผ่ายเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ด้วยสกอร์ 0-0 แม้ว่าโค้ชอิชิอิจะใช้ทีมชุด 2 สำรองก็ตามเท่านั้น
เหตุผลที่โค้ชญี่ปุ่นคนนี้ ตัดสินใจพักตัวผู้เล่นหลักๆส่วนใหญ่เอาไว้ แม้ว่าไทยจะต้องพบกับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าก็เพราะมันเป็นเพียงการแข่งขันอีก 1 นัดเท่านั้น เนื่องจากไทยได้ตั๋วเข้ารอบ 1/8 (16 ทีม) จริง ๆก่อนเตะที่ 3 ด้วยซ้ำ “ช้างศึก” ได้เป็นตัวแทนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มั่นใจว่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มโดยเร็วที่สุด จริงๆแล้วนอกจากไทยแล้วยังมีทีมจากภูมิภาคเดียวกันอีกทีมเดียวที่ทำได้คือ อินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามแรงจูงใจของโค้ชชินแทยงและลูกทีม ยังดูด้อยกว่าทีมโค้ชอิชิอิ ด้วยเพราะว่าทีมชาติอินโดนีเซียมีคะแนนแค่ 3 แต้ม แถมยังรั้งอันดับสุดท้ายใน 4 ทีมที่มีผลงานดีที่สุดอันดับ 3 ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือล้วนแต่มีคะแนน4 แต้มขึ้นทั้งนั้น
กล่าวโดยสรุปก็คือ ตัวแทนจาก "ดินแดนแห่งเกาะนับพัน" ได้รับสิทธิ์ให้แข่งต่อไปด้วยตั๋ว "ใบสุดท้าย" ขณะเดียวกัน ทีมชาติไทยเข้ารอบ 16 ทีมอย่างภาคภูมิใจในฐานะทีมรองในกลุ่มเอฟโดยที่ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมาย “ช้างศึก” มีคะแนนรวมทั้งหมด 5 แต้ม ตามหลังทีมจ่าฝูงอย่างซาอุดีอาระเบียแค่ 2 แต้มเท้านั้น ขณะที่ผลต่างประตูได้เสียของไทยคือ +2 ในขณะที่อินโดนีเซียคือ -3
นอกจากไทยแล้ว เอเชียนคัพ 2023 ยังมีทีมอื่นเพียงทีมเดียวที่ทำคลีนชีตได้หลังผ่านไป 3 นัดรอบแบ่งกลุ่มได้ ก็คือทีมชาติกาตาร์ เจ้าภาพนั่นเอง หลังจากการแสดงจบลงทำให้ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องถอดหมวกในโดฮาเพื่อสดุดี "ช้างศึก" ที่กลับมาติด 100 อันดับแรกของการจัดอันดับฟีฟ่าหลังจากรอคอยมาเกือบ 19 ปี ดังนั้นนับตั้งแต่เอเชียนคัพ 2023 ยังไม่เริ่มขึ้น จนกระทั่งรอบแบ่งกลุ่มสิ้นสุดลง อันดับของไทยก็เพิ่มขึ้นถึง 13 อันดับ
วิทยา เลาหกุล ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคสโมสรชลบุรีในไทยลีก กล่าวชมเชย โค้ชอิชิอิ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า “อิชิอิได้ยกระดับทีมชาติไทยแล้ว โดยเฉพาะการเล่นแนวรับที่มีระเบียบวินัยเป็นเลิศ ผมเห็นว่านักเตะไทยทุกคนเล่นมีระเบียบวินัยมากทุกครั้งที่ตั้งรับ ทีมชาติเราเล่นได้มั่นคงมาก หากโค้ชอิชิอิสามารถปรับปรุงความสามารถของเขาในการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการบุกทำประตู จะช่วยให้ไทยเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้นอีกนิด และผมคิดว่าไทยเราจะกลายเป็นทีมที่น่าเกรงขามมากในภูมิภาคเอเชีย"
ทีมชาติไทยเดินทัพสู่กาตาร์ในฐานะแชมป์เอเอฟเอฟคัพรายการอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระดับทีมชาติ
4 จาก5 ครั้งล่าสุด ตัวแทนดินแดนวัดเจดีย์ทองสามารถคว้าแชมป์ได้ในปี 2014, 2016, 2020/21 และ 2022/23 (เวียดนามได้แชมป์คั่นกลางในปี 2018) และผลงานในรอบแบ่งกลุ่มเอเชียนคัพ 2023 ไทยก็ยังคงตอกย้ำได้ว่า เป็นผู้นำฟุตบอลในภูมิภาคแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
กำจัดข้อสงสัย
โค้ชอิชิอิเพิ่งเข้ามาแทนที่ มิสเตอร์มาโน โพลกิงเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เพียงหนึ่งเดือนก่อนที่เอเชียนคัพ 2023 จะเริ่มต้นขึ้น ในขณะนั้นสัญญาระหว่างโค้ชที่เกิดในปี 1967 กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) มีเพียงระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น
คือจนกระทั่งฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 สิ้นสุดลง เหตุผลก็คือ พล.ต.อ.สมยศ พุมพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทย เหลือวาระการดำรงตำแหน่งเพียง 3 เดือนเท่านั้น โค้ชอิชิอิจึงกลายเป็นโค้ชคนที่ 5 ที่ได้คุม “ช้างศึก” นับตั้งแต่เอเชียนคัพ 2019 ต่อจาก มิโลวาน ราเยวัช, ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย (ชั่วคราว), อากิระ นิชิโนะ และโพลกิ้ง
โค้ชชาวญี่ปุ่นคนนี้ ประเดิมสนามคุมทีมชาติไทย ด้วยการแพ้ญี่ปุ่น 0-5 นี่เป็นแมตช์กระชับมิตรนัดเดียวของ "ช้างศึก" กับอิชิอิ ก่อนลงเล่นในศึกเอเชียนคัพ 2023 และก่อนที่ไทยจะไปกาตาร์ พวกเขาชนะเพียงนัดเดียวจาก 6 นัดล่าสุด (ชนะสิงคโปร์ 3-1). ส่วนนัดที่เหลือ เสมอ 1 นัดและแพ้ 4 นัด
บริษัทสถิติฟุตบอลชั้นนำอย่าง Opta ชี้ว่าในบรรดา 4 ทีม ในกลุ่ม F ไทยมีความเสี่ยงสูงที่สุดที่จะจบอันดับสุดท้าย (36.2%) แต่ตำแหน่งหลังการแข่งขันจริง "ดินแดนวัดเจดีย์ทอง" กลับอยู่อันดับสองของตารางได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆตามคำทำนายของ Opta ไทยมีโอกาสทำได้เพียง 22.2% เท่านั้น ต่ำกว่าอัตราอันดับสามตั้งเยอะ (31.4%)
ก่อนเดินทัพไปกาตาร์ ไทยไม่มีนักเตะ 3 คนที่เสาหลักของทีมอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา (บาดเจ็บ) และ เอกนิษฐ์ปัญญา (ไม่ยอมเข้าร่วมทีม) และกลางปี 2023 วงการฟุตบอลไทยก็เกิดวิกฤติเรื่องมูลค่าลิขลิทธิ์ไทยลีกที่ลดลงอย่างน่าใจหาย จากเดิมที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาทเหลือเพียงเท่านั้นแค่ 50ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้สถานการณ์ภายในสมาคมฟุตบอลก็ไม่สู้ดีนักใกล้ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยขอให้ พล.ต.อ.สมยศ ลาออก หลังทีมไทยชุด U22 ปี แพ้ทีม อินโดนีเซีย U22 ในการแข่งขันนัดชิงเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จนพล.ต.อ.สมยศยอมประกาศวางมือ หลังจบเอเชียนคัพ 2023 ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบต่อตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลให้กับ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย และเธอก็ได้ประกาศแล้วว่า กำลังจะพิจารณาต่อสัญญากับโค้ชอิชิอิคุมทีมต่อไปอีก 2 ปี
สิ่งที่เกิดขึ้นในกาตาร์บวกกับแชมป์เอเอฟเอฟคัพ 2 สมัยติดในปี 2021 และ 2022/23 แสดงให้เห็นว่าไทยอยู่อันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่า ทีมของโค้ชอิชิอิ จะไปได้ไกลแค่ไหนในเอเชี่ยนคัพ 2023 คราวนี้
Cr.Bongda24h.vn