เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.prachachat.net/economy/news-1489377
เปิดข้อมูล 10 จังหวัดที่มียอดจดทะเบียนรถอีวีสูงสุดในปี2566 ที่ผ่านมา จากยอดรวม 75,690 คัน กินส่วนแบ่ง 12% ของตลาดรถยนต์โดยรวม เผย “กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ชลบุรี” TOP3 ส่วนจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนน้อยที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 1 คันเท่านั้น ขณะที่ผู้ประกอบการปั้มน้ำมัน เร่งแผนขยายสถานีชาร์จอีวี ทั่วประเทศ
วันที่ 28 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าจากกระแสความร้อนแรงของยอดจดทะเบียนรถยนต์ของกรมขนส่งทางบก แยกตามประเภทเชื้อเพลิง แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ รย.1 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ในปี 2566 ที่ผ่านมา (ม.ค.-ธ.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 75,690 คัน จากยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งทั่วประเทศ 634,948 คัน ซึ่งสะท้อนว่ารถอีวี มีสัดส่วนยอดขายเกือบ 12 % ของตลาดรถยนต์โดยรวมแล้ว
ทั้งนี้จากมาตรการส่งเสริมEV3.0 ถึงมาตรการ EV3.5 ที่มีทั้งมาตรการภาษี และการอุดหนุนเงินให้กับผู้ซื้อรถอีวี ไม่เพียงทำให้ตลาดอีวีในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกันค่ายอีวีจีนแห่เข้ามาลงทุนฐานผลิตในประเทศไทยด้วย
10จังหวัดที่มีคนใช้รถอีวีสูงสุด
แน่นอนว่าจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดคือกรุงเทพมหานครจำนวน 52,751 คัน และจังหวัดที่ตามมาเป็นอันดับ 2 คือเชียงใหม่ 3,083 คัน และอันดับ3 คือจังหวัดชลบุรี 2,392 คัน
อันดับ4คือ จังหวัดสงขลา 1,614 คัน , ขอนแก่น 1,409 คัน ,ระยอง 1,283 คัน , อุบลราชธานี 1,190 คัน , สุราษฎร์ธานี 1,177 คัน , ภูเก็ต 1,039 คัน และ อุดรธานี 965 คัน
อย่างไรก็ดีสำหรับจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนรถอีวีในปีที่ผ่านมาต่ำที่สุดคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 1คัน
ทั้งนี้หากแยกตามภูมิภาคนอกจากในพื้นที่กทม.แล้ว ภาคเหนือถือว่ามียอดจดทะเบียนรถอีวีสูงสุด จำนวน 6,208 คัน ตามติดมาด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5,564 คัน , ภาคใต้ 4840 คัน และ ภาคตะวันออก 4,180 คัน
5 แบรนด์อีวียอดนิยม
สำหรับแบรนด์รถอีวีที่มียอดขายสูงสุดในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นแบรนด์ยอดนิยมของคนไทยอันดับ1 คือแบรนด์ BYD จำนวน 30,467 คัน , อันดับ2 NETA จำนวน 12,777 คัน ,อันดับ3 MG จำนวน 12,462 คัน ,อันดับ 4 TESLA จำนวน 8,206 คัน และอันดับ5 ORA จำนวน 6,746 คัน
โดยจะเห็นได้ว่าในท็อป5 แบรนด์รถอีวีที่คนไทยให้ความนิยมสูงสุดเป็น ค่ายจีนถึง 4 แบรนด์ เพราะด้วยระดับราคาที่จูงใจ ทั้งยังได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐทำให้ ราคารถอีวีจีนเป็นที่ดึงดูผู้บริโภคอย่างมากคือตั้งแต่ระดับ5 แสนบาท-1ล้านบาทเศษ โดยจะมีเพียง TESLA ของสหรัฐค่ายเดียวเท่านั้นที่ติดอยู่ในอันดับ 4
OR เร่งปูพรมสถานีชาร์จอีวี
ขณะที่ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันก็เร่งแผนปรับเปลี่ยนเป็น “สถานีชาร์จอีวี”เพิ่มขึ้น โดยนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ระบุว่า อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบจัดทำศูนย์บริการชาร์จอีวี หรือ “ฮับ EV Station PluZ” เป็นสถานีบริหารชาร์จอีวีโดยเฉพาะ ฮับอีวีแต่ละแห่งจะมีหัวจ่าย 8-10 หัวขึ้นไป ( ไม่มีหัวจ่ายน้ำมัน) พร้อมบริการธุรกิจน็อนออยล์ครบวงจร
โดยเป้าหมายเบื้องต้น 10 แห่ง กระจายตามจังหวัดหัวเมือง ที่มีระยะห่างจากกรุงเทพฯ 200-300 กม. วางเส้นทางเหนือ อีสาน ใต้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนจากกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อชาร์จจากที่บ้านไป เมื่อวิ่งไป200-300 กิโลเมตร ก็ต้องการชาร์จไฟเจติม เช่น ภาคเหนือ เล็งพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และกำแพงเพชร , ภาคอีสาน มองไปที่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะเริ่มนำร่องในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นแห่งแรก
นอกจากนี้โออาร์มีแผนจะเพิ่มจำนวนสถานีบริการ EV Station PluZ อีก 600 ทำเล คิดเป็นจำนวนหัวจ่าย 1,200 หัวจ่าย เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มี 700 ทำเล มีหัวชาร์จ 1,400 หัว โดยมีเป้าหมายจะลงลึกในระดับอำเภอด้วย
เปิดข้อมูล 10 จังหวัดที่มีรถ EV สูงสุด สถานีชาร์จพอมั้ย?
https://www.prachachat.net/economy/news-1489377
เปิดข้อมูล 10 จังหวัดที่มียอดจดทะเบียนรถอีวีสูงสุดในปี2566 ที่ผ่านมา จากยอดรวม 75,690 คัน กินส่วนแบ่ง 12% ของตลาดรถยนต์โดยรวม เผย “กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ชลบุรี” TOP3 ส่วนจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนน้อยที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 1 คันเท่านั้น ขณะที่ผู้ประกอบการปั้มน้ำมัน เร่งแผนขยายสถานีชาร์จอีวี ทั่วประเทศ
วันที่ 28 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าจากกระแสความร้อนแรงของยอดจดทะเบียนรถยนต์ของกรมขนส่งทางบก แยกตามประเภทเชื้อเพลิง แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ รย.1 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ในปี 2566 ที่ผ่านมา (ม.ค.-ธ.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 75,690 คัน จากยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งทั่วประเทศ 634,948 คัน ซึ่งสะท้อนว่ารถอีวี มีสัดส่วนยอดขายเกือบ 12 % ของตลาดรถยนต์โดยรวมแล้ว
ทั้งนี้จากมาตรการส่งเสริมEV3.0 ถึงมาตรการ EV3.5 ที่มีทั้งมาตรการภาษี และการอุดหนุนเงินให้กับผู้ซื้อรถอีวี ไม่เพียงทำให้ตลาดอีวีในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกันค่ายอีวีจีนแห่เข้ามาลงทุนฐานผลิตในประเทศไทยด้วย
10จังหวัดที่มีคนใช้รถอีวีสูงสุด
แน่นอนว่าจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดคือกรุงเทพมหานครจำนวน 52,751 คัน และจังหวัดที่ตามมาเป็นอันดับ 2 คือเชียงใหม่ 3,083 คัน และอันดับ3 คือจังหวัดชลบุรี 2,392 คัน
อันดับ4คือ จังหวัดสงขลา 1,614 คัน , ขอนแก่น 1,409 คัน ,ระยอง 1,283 คัน , อุบลราชธานี 1,190 คัน , สุราษฎร์ธานี 1,177 คัน , ภูเก็ต 1,039 คัน และ อุดรธานี 965 คัน
อย่างไรก็ดีสำหรับจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนรถอีวีในปีที่ผ่านมาต่ำที่สุดคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 1คัน
ทั้งนี้หากแยกตามภูมิภาคนอกจากในพื้นที่กทม.แล้ว ภาคเหนือถือว่ามียอดจดทะเบียนรถอีวีสูงสุด จำนวน 6,208 คัน ตามติดมาด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5,564 คัน , ภาคใต้ 4840 คัน และ ภาคตะวันออก 4,180 คัน
5 แบรนด์อีวียอดนิยม
สำหรับแบรนด์รถอีวีที่มียอดขายสูงสุดในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นแบรนด์ยอดนิยมของคนไทยอันดับ1 คือแบรนด์ BYD จำนวน 30,467 คัน , อันดับ2 NETA จำนวน 12,777 คัน ,อันดับ3 MG จำนวน 12,462 คัน ,อันดับ 4 TESLA จำนวน 8,206 คัน และอันดับ5 ORA จำนวน 6,746 คัน
โดยจะเห็นได้ว่าในท็อป5 แบรนด์รถอีวีที่คนไทยให้ความนิยมสูงสุดเป็น ค่ายจีนถึง 4 แบรนด์ เพราะด้วยระดับราคาที่จูงใจ ทั้งยังได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐทำให้ ราคารถอีวีจีนเป็นที่ดึงดูผู้บริโภคอย่างมากคือตั้งแต่ระดับ5 แสนบาท-1ล้านบาทเศษ โดยจะมีเพียง TESLA ของสหรัฐค่ายเดียวเท่านั้นที่ติดอยู่ในอันดับ 4
OR เร่งปูพรมสถานีชาร์จอีวี
ขณะที่ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันก็เร่งแผนปรับเปลี่ยนเป็น “สถานีชาร์จอีวี”เพิ่มขึ้น โดยนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ระบุว่า อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบจัดทำศูนย์บริการชาร์จอีวี หรือ “ฮับ EV Station PluZ” เป็นสถานีบริหารชาร์จอีวีโดยเฉพาะ ฮับอีวีแต่ละแห่งจะมีหัวจ่าย 8-10 หัวขึ้นไป ( ไม่มีหัวจ่ายน้ำมัน) พร้อมบริการธุรกิจน็อนออยล์ครบวงจร
โดยเป้าหมายเบื้องต้น 10 แห่ง กระจายตามจังหวัดหัวเมือง ที่มีระยะห่างจากกรุงเทพฯ 200-300 กม. วางเส้นทางเหนือ อีสาน ใต้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนจากกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อชาร์จจากที่บ้านไป เมื่อวิ่งไป200-300 กิโลเมตร ก็ต้องการชาร์จไฟเจติม เช่น ภาคเหนือ เล็งพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และกำแพงเพชร , ภาคอีสาน มองไปที่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะเริ่มนำร่องในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นแห่งแรก
นอกจากนี้โออาร์มีแผนจะเพิ่มจำนวนสถานีบริการ EV Station PluZ อีก 600 ทำเล คิดเป็นจำนวนหัวจ่าย 1,200 หัวจ่าย เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มี 700 ทำเล มีหัวชาร์จ 1,400 หัว โดยมีเป้าหมายจะลงลึกในระดับอำเภอด้วย