โดนแฟนคนอินโดนีเซียบอกเลิก เพราะเค้าขอแต่งงาน แต่เราไม่ยอมเปลี่ยนไปนับถืออิสลาม

เริ่มจากเรากับแฟนทำงานบนเรือสำราญด้วยกันและเริ่มคบกันมาได้ระยะเวลา 2 ปี

เรามีคุยแลกเปลี่ยนกันเรื่องความเชื่อและศาสนาบ้าง แต่ก็ไม่เคยติดขัดอะไร เพราะเค้าเองก็ไม่ได้เคร่งหรือปฏิบัติ รวมถึงเราที่เป็นพุทธโดยกำเนิดเองก็ไม่เคร่งหรือปฏิบัติ สวดมนต์อะไรเป็นกิจจะลักษณะ เพียงแค่น้อมคำสอนที่ดี ข้อปฏิบัติอันไหนดีและสะดวกต่อชีวิตก็นำมาปรับใช้

พอขอแต่งงาน เราเริ่มวางแผนอนาคต ร่วมกัน ก็มีคุยกันว่าเค้าพร้อมจะย้ายมาอยู่ไทยนะ ที่ไทยก็มีคนนับถืออิสลามเยอะแยะ แต่เราก็บอกว่าเราคงไม่เปลี่ยนศาสนานะ เพราะเราเองไม่ได้นับถืออะไรเป็นจริงจัง และถ้าจะเปลี่ยนไปอิสลาม การไปอยู่ตรงนั้นแต่ปฏิบัติไม่ได้ ก็เหมือนไม่เคารพตัวศาสนา ซึ่งเราต้องการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เน้นสะดวก ไม่ต้องเอาอะไรมาตีกรอบชีวิต

สรุปเค้าบอกงั้นเราคงไปต่อกันไม่ได้เพราะเค้าก็จะไม่เปลี่ยนศาสนาแน่นอน เราก็พยายามคุยว่าอ้าว แล้วมันไม่มีทางเลือกตรงกลางเลยหรอ ที่ต่างคนต่างเลือกทางที่ตัวเองถนัด ตัวเค้าเองก็แทบไม่ได้ปฏิบัติอะไรที่เราเห็นคนเคร่งๆเค้าทำกันเลย เราก็อยู่กันมาได้ เราก็ไม่เคยก้าวก่ายศาสนาเค้า บังคับเข้าวัด ไหว้พระ หรือกินหมู

คนเรารักกัน แค่ความรัก ความเข้าใจ มันไม่เพียงพอเลยหรอ ที่จะทำให้คนต่างศาสนาอยู่ด้วยกันได้อย่างราบรื่น เราก็ฟังและอ่านมาเยอะมากว่า การที่ให้เปลี่ยนเพื่อให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียว เชื่อและปฏิบัติในทางเดียวกัน เพื่อลดอัตราการเกิดความขัดแย้ง 

แฟนเราก็บอก ถ้ารักเค้าก็ต้องยอมเปลี่ยนศาสนา เพราะมันคือข้อบังคับ แล้วถ้ากลับกันเราบอกว่าถ้ารักเราขอให้เปลี่ยนมาพุธได้มั้ยหล่ะ เค้าก็บอกไม่ได้ แล้วอย่างงี้ มันมีเหตุและผลตรงไหน อธิบายกันยังไงก็ไม่มีวันจบสิ้นถ้าเอาเรื่องความเชื่อมาถกกัน แต่เราแค่มองว่าถ้าเข้าศาสนาแล้วปฏิบัติไม่ได้ ไม่สะดวกต่อชีวิตประจำวัน เราก็ไม่ควรเข้า นี่แค่มุมมองของเรา

อยากฟังความเห็น เพื่อนๆจากทุกๆศาสนาหน่อยค่ะ ตอนนี้เครียดมาก ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่