เรื่องมีอยู่ว่า 

เหมือนกับเราเคยซื้อขายของกับพ่อค้าคนนึงมาสักระยะ แล้วปรากฎว่าทางบริษัทของพ่อค้าถูกพบว่าพ่อค้าได้ทำการขโมยสินค้าจากบริษัทตัวเองเป็นพนักงานมาขาย โดยที่ดิฉันไม่ทราบว่าของที่รับซื้อเป็นการถูกขโมยมาขายต่อ

ทางบริษัททราบเรื่อง ได้เรียกคุยทั้ง 2 ฝ่าย คือผู้ขายสินค้าให้ดิฉัน และดิฉัน แต่ทางบริษัทไม่ได้ฝ่ายดิฉันได้อธิบาย ว่าเราไม่ทราบเรื่องที่สินค้าถูกขโมยมาขาย และได้ทำการให้เซ็นเอกสารยอมรับค่าเสียหาย โดยที่ไม่ได้ให้ฝ่ายดิฉันอธิบายอะไรใดๆ หรือแสดงเอกสารหลักฐาน โดนต่อว่า ทำงานเป็นกระบวนการรู้เห็นกัน โดยเอกสารระบุเป็นจำนวนสินค้า ซึ่งดิฉันคิดว่าไม่ถึงตามจำนวนที่ได้รับของมา พยายามจะอธิบายเรื่องจำนวนของ ในส่วนของทุน และกำไรที่ได้ เพื่อจะเจรจาเรื่องความเสียหายตามจริง แต่ฝ่ายบริษัทไม่ฟังและพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคาย  และสุดท้ายต้องเซ็นรับสารภาพชดใช้เงิน เนื่องด้วยความกลัวและกดดัน โดยทางดิฉันได้ทำการโอนเงินที่มีในบัญชีให้กับทางบริษัท เกือบทั้งหมด และในสัญญาระบุให้ชดใช้เงินอีกจำนวนมาก ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน

หลังจากนั้นดิฉัน พยายามขอร้องว่าอย่าทำการโพสต์ภาพที่เกี่ยวข้องกับร้านลงในโซเชียลหรือโลกออนไลน์ แต่ทางบริษัททำการแคปหน้าเฟสบุ๊คส่วนตัวของดิฉันลงเพจบริษัทโดยไม่มีการเบลอภาพใดๆ ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย และมีคอมเม้น และข้อความด่าทอ เป็นจำนวนมาก และลามไปถึงเพื่อน ญาติ แฟน ก็เดือดร้อนไปด้วย ทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร และทางบริษัทมีการประกาศว่าไม่รับประกันสินค้าที่ได้หลุดออกไป ทำให้สินค้าที่ลูกค้าได้ทำการซื้อไปตีกลับมาที่ดิฉันอีกครั้ง โดยตอนนี้เงินที่ต้องชดใช้ให้กับลูกค้ามีไม่เพียงพอ เนื่องจากได้ทำการโอนเงินไปให้บริษัทดังกล่าวไปทั้งหมดแล้ว

โดยตอนนี้กำลังจะจัดการขายทรัพย์สินที่มี ค่อยๆทยอยชดใช้กับทางลูกค้าทุกท่าน

ตอนนี้เครียดมากค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาท่านใดได้บ้าง หรือท่านใดพอมีทางออก กับเรื่องดังกล่าวมั้ยคะ 
อยากทราบว่าการดำเนินกฎหมายเป็นยังไงบ้างคะ ต้องคิดคุกกี่ปี