ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์อายุ 250 ปีค่ะ ทำตัวเหมือนเจ้าบ้านเลยค่ะ อิอิ
บันทึกความงามคฤหาสน์ “โซวเฮงไถ่” อายุ 250 ปี (ดูวิธีเดินทางไปยังบ้านโซวเฮงไถ่ใต้โพส)
ขอเข้าไปถ่ายคู่กับคุณนายดวงตะวัน (เจ้าของคฤหาสน์รุ่นที่ 7) อายุ 80 ปี ขณะท่านออกมานั่งทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ ท่านเมตตาและน่ารักมากๆค่ะ
เสาร์ที่ผ่านมาตั้งใจมาชื่นชมความงามบนความเก่าแก่ของคฤหาสน์ทรงจีนโบราณแท้ๆหลังนี้โดยเฉพาะค่ะ แต่จะมาแบบชุดธรรมดาก็ดูจะไม่ธรรมดา เดี๋ยวจะทำให้บ้านหมองเปล่าๆ ดังนั้นไม่ว่ากันนะคะถ้าจะมีรูปนางแบบเยอะไปหน่อย....
แค่จิตรกรรมฝาผนังด้านหน้าก็ทำเอาแม่นันก้าวขาไปไหนต่อไม่ถูก เพราะสวยถูกใจมากค่ะ ด้านข้างและด้านบนบริเวณทางเข้า
เป็นภาพเขียนสีรูปเทพและเซียนที่ชาวจีนเคารพนับถือ
แค่ประตูและสถาปัตยกรรมหน้าบ้านก็ขลังจนทำให้แม่นันใช้เวลาอยู่ตรงนั้นพอสมควร หากใครไม่เคยมาอาจจะคิดว่าเป็นวัดหรือโรงเจก็เป็นได้ค่ะ โชคดีได้พบคุณภู่ (ภู่ศักดิ์ โปษยะจินดา) ทายาทรุ่นที่ 8 และคุณแม่วัย 80 ด้วยค่ะ ทั้งสองน่ารักมากให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แถมยังแนะนำมุมถ่ายรูปสุดชิคให้อีกด้วย
แม่นันมาได้จังหวะที่ทางเจ้าหน้าที่เขตมามุงอยู่ด้านหน้าพอดี อดไม่ได้ที่จะออกไปแจมด้วย (ทำทีเหมือนเจ้าบ้านเลยค่ะ insider มาก) คุณแม่เล่าให้ฟังว่าทางเขตจะมาเคลียร์พื้นที่ด้านหน้าให้ เพื่อเตรียมต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีที่จะมาเยือนบ้านหลังนี้ ในวันที่ 25 มค. ก็คือวันนี้ ยังไม่ได้เช็คข่าวเลยค่ะ
“ถ้าหนูจะมา มาเช้าหน่อยก็ดีนะคะ จะได้พบท่านด้วย” คุณแม่เอ่ยอย่างใจดีมาก แต่แม่นันว่าขอตามอ่านข่าวดีกว่าค่ะ กลัวเข้าตากรรมการ คริคริ
บ้านโซวเฮงไถ่ เป็นบ้านเก่าสถาปัตยกรรมแบบจีน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันมีอายุกว่า 250 ปี ในย่านตลาดน้อย เป็นบ้านของคหบดีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองไทย โดยต้นตระกูลเป็นนายภาษีอากรรังนก คอยเก็บภาษีให้ทางราชการ และยังมีอาชีพค้าขายทางเรือสำเภาอีกด้วย ก่อนที่จะตกทอดมาถึงหลวงนาวาเกมิกร ช่างภาพหลวงในรัชกาลที่5 ผู้ซึ่งได้รับพระราชทานนามสกุลโปษยะจินดาจากรัชกาลที่ 6 ซึ่งท่านมีศักดิ์เป็นคุณปู่ของเจ้าของบ้านคนปัจจุบัน
โดยความคิดดั้งเดิมของบรรพบุรุษคือต้องการให้บ้านนี้เป็นที่พำนักของลูกหลาน ที่หน้าประตูใหญ่ของบ้านจะมีป้ายอักษรจีนเขียนคำว่า “โซวเฮงไถ่” ซึ่งคำว่า “เฮงไถ่” คือชื่อกิจการของครอบครัว ส่วนคำว่า “โซว” หมายถึง “ตระกูลโซว”
บ้านหลังนี้มีการวางผังเรือนแบบ “สี่เรือนล้อมลาน” ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแถบมณฑลฮกเกี้ยน-แต้จิ๋ว มีลักษณะเป็นอาคารสี่หลังล้อมลานกว้างกลางบ้าน หลังหน้าทำหน้าที่เป็นซุ้มประตูทางเข้า เมื่อผ่านประตูเข้าไปจะพบกับเรือนประธานซึ่งตั้งต่อจากลานกว้าง ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของบ้าน ซ้ายขวาของเรือนประธานจะเป็นเรือนเคียง ใช้เป็นที่พักของลูกหลานและบริวาร บ้านแบบนี้มักเป็นอาคารชั้นเดียว แต่โซวเฮงไถ่สร้างประยุกต์เป็นสองชั้น ในรูปลักษณ์ที่เหมือนเรือนมีใต้ถุน เหมือนอย่างที่พบในเรือนไทย ซึ่งแสดงถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมได้อย่างแยบยล
เรือนประธานชั้นบนแบ่งเป็น 3 ห้อง มีระเบียงทอดยาวตลอดแนว ห้องกลางจัดเป็นห้องบูชาบรรพบุรุษเป็นห้องประธานในห้องโถง ห้องทั้งสองข้างเป็นห้องพักของเจ้าของบ้าน หน้าห้องทั้งสามเป็นเฉลียงยกพื้นจากระดับระเบียงยาวตลอดแนว ลวดลายที่ตกแต่งประตูในบริเวณนี้จะมีทั้งลูกฟักแบบจีนและลายฝาปะกนแบบไทย เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมทั้งสองแบบ
เรือนบริวารซ้าย-ขวาใช้เป็นที่พำนักของลูกหลานและบริวาร เรือนทางซ้ายของเรือนประธานแบ่งเป็นห้องเก็บทรัพย์สมบัติและห้องเสบียง ส่วนทางขวาจะเป็นห้องพัก ข้อพิเศษอย่างหนึ่งของเรือนจีนสยามคือจะมีการตั้งห้องบูชาบรรพบุรุษของทั้งฝ่ายสามีและภรรยาในบ้านเดียวกัน โดยจะแยกห้องออกไปต่างหาก การใช้งานจะให้ความสำคัญกับอาคารทางปีกซ้ายของเรือนประธานมากกว่าอาคารทางขวา ซึ่งเป็นการใช้งานตามความคิดธรรมเนียมจีน
องค์ประกอบอีกอย่างที่เด่นของอาคารหลังนี้ก็คือ โครงสร้างส่วนใหญ่จะเป็นไม้สักทอง ซึ่งในสมัยก่อนการวัดว่าบ้านใดมีฐานะจะดูจากการวางคานของบ้านว่ามีความยาวและถี่มากเพียงใด ซึ่งบ้านหลังนี้ใช้คานที่ยาว 3 เมตร หนา 8 นิ้ว โดยจะวางอยู่ทุกระยะ 50 เซนติเมตร ผนังภายนอกอาคารและชั้นล่างก่อด้วยอิฐฉาบปูน ชั้นบนเป็นฝาไม้ลูกฟักแบบจีนสลับฝาปะกนแบบไทย ส่วนโครงสร้างหลังคาเป็นงานไม้สกุลช่างฮกเกี้ยน- แต้จิ๋ว ความงามของโครงสร้างแบบนี้อยู่ที่ขื่อและแปจะถูกถากให้มีลักษณะกลมหรือเหลี่ยมมน รับกับดั้งขนาดต่างๆ รวมทั้งขื่อโค้งที่ยึดดั้งต่างๆเข้าด้วยกัน ลดหลั่นกันอย่างงดงาม
ปัจจุบันลานโล่งตรงกลางถูกดัดแปลงเป็นสระสำหรับสอนดำน้ำ โดยเจ้าของคฤหาสน์ (ทายาทรุ่นที่8 ) คุณภู่ - ภู่ศักดิ์ โปษยะจินดา ปัจจุบันคฤหาสน์หลังนี้จึงเป็นทั้งบ้านและสำนักสอนดำน้ำไปในตัว
สวยทุกมุม แม้กระทั่งมุมนั่งจิบกาแฟของแขกผู้มาเยือน
บ้านโซวเฮงไถ่ ซอยดวงตะวัน ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม.
เดินทางสะดวกโดย MRT
ออกจากสถานีหัวลำโพง ทางออกที่ 1 เดินเลี้ยวซ้ายไปตามถนนมหาพฤฒารามจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนข้าวหลาม และเลี้ยวเข้าซอยเจริญกรุง 22 เมื่อถึงซอยวานิช 2 ให้เดินเลี้ยวซ้ายไปอีกเล็กน้อย และเลี้ยวขวาเข้าซอยศาลเจ้าโรงเกือกประมาณ 200 ม
.
ขอบคุณข้อมูลอย่างละเอียด จาก baanlaesuan.com
โซวเฮงไถ่ คฤหาสน์เก่าแก่อายุ 250 ปี
ออกจากสถานีหัวลำโพง ทางออกที่ 1 เดินเลี้ยวซ้ายไปตามถนนมหาพฤฒารามจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนข้าวหลาม และเลี้ยวเข้าซอยเจริญกรุง 22 เมื่อถึงซอยวานิช 2 ให้เดินเลี้ยวซ้ายไปอีกเล็กน้อย และเลี้ยวขวาเข้าซอยศาลเจ้าโรงเกือกประมาณ 200 ม
ขอบคุณข้อมูลอย่างละเอียด จาก baanlaesuan.com