รถมอเตอร์ไซค์มาชนท้ายรถ และเสียชีวิต

สวัสดีค่ะอยากมาขอคำปรึกษา หรือคำแนะนำเรื่องคดีความที่มีรถมอเตอร์ไซค์มาชนท้ายรถและเสียชีวิตค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
••••••••••••••••••
วันเกิดเหตุ เราจอดรถอยู่หน้าบ้าน ขนของ เพื่อจะไปบ้านที่ชลบุรีอีกที่เป็นประจำแทบทุกสัปดาห์ บ้านเราตรงนี้ อยู่ริมถนนใหญ่กาญจนาภิเษก ถนนใหญ่ 3-4 เลน ไม่ใช่ที่ห้ามจอด แทบจะตลอดทั้งเส้น คนทั่วไปส่วนใหญ่มักจะจอดเพื่อทานอาหารร้านริมๆทางกันเป็นประจำตลอดทั้งวันและทั้งคืน จากเหตุการณ์ มีรถที่ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งหมด 3 คัน คันแรก โดนรถมอไซค์เซมาชนช่วงประตูด้านข้างคนขับ และกระจก แล้วเซมาพุ่งใส่ท้ายรถเราคันถัดมา แล้วรถเรากระแทกรถแฟนที่อยู่ด้านหน้าอีกคันรถแฟนเป็น Benz มีรอยเล็กน้อย บอกประกันว่าไม่ต้องทำเรื่องเคลมอะไร สงสารฝั่งผู้เสียชีวิต แต่ก็ยังต้องเอารถทุกคันในที่เกิดเหตุไปตรวจสภาพ ซึ่งจ่ายไปคันละ 500฿ หลังจากนั้น ตำรวจก็มีการโทรสอบปากคำ และถามว่าคิดว่าในเหตุการณ์นี้ใครเป็นคนผิด และเราติดใจอะไรมั้ย ซึ่งทุกคนตอบเหมือนกันว่าไม่มีใครติดใจอะไรกับคนตาย สิ่งที่เราสงสัยคือ ตำรวจนัดมาสอบปากคำอีกครั้ง และคุยกัน เนื่องจากผู้ซ้อนอีกคน อาการเริ่มดีขึ้น พอเข้าไปในห้อง เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าเขามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย(ผลชันสูตรยังไม่ออก) เจ้าหน้าที่ก็พูดจาดีนะคะ บอกว่า พรบ.มอเตอร์ไซค์ขาด ทำให้คนตายไม่ได้รับชดเชยใดๆ จะให้พวกเรา 3 คัน ช่วยจ่ายค่ามนุษยธรรมให้กับคนตาย พวกเราก็ออกแนว งงๆ และเหวอๆกันค่ะ ไม่ได้เตรียมใจไปกับอะไรแบบนี้เลย เขาแจ้งว่าถ้าหากไกล่เกลี่ยไม่ได้ อาจจะต้องส่งเรื่องขึ้นศาล ให้ลองไปคิดๆกันดูก่อน ขอให้จ่ายเงินเพื่อแสดงมนุษยธรรม โดยบอกว่าถึงพวกเราจะจอดรถเฉยๆ แต่ตรงนั้นอยู่ในเลนถนน ซึ่งบอกว่าพวกเราผิดด้วย (นิดนึง)
ทีนี้ตรงค่ามนุษยธรรมนี่คือ ทุกคนก็สงสัยว่าไม่มีตรงไหน ยังไง เพราะทุำคนไม่ได้ไปเรียกร้องเอาอะไรจากคนตายเลย ประกันที่เรามีเขาก็ซ่อมรถเราตามเหตุ ตอนเกิดเรื่อง เรายืนอยู่ตรงฟุตบาท เตรียมตัวจะขึ้นรถกัน เราตกใจมาก รีบวิ่งไปดูตรงท้าย เห็นเขาร่วงลงมาอยู่กับพื้นกัน ทุกคนรีบเข้าไปช่วย โทรเรียกรถโรงพยาบาล และรีบปั๊มหัวใจกัน เพราะคนขับเหมือนจะหยุดหายใจ เราภาวนาขอให้เขาอย่าเป็นอะไร เรื่องรถคือซ่อมได้ สุดท้ายปั๊มหัวใจอยู่นาน เรารู้เลยว่าปาฏิหาริย์คงไม่มี คนซ้อนอีกคนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เราคอยถ่ามไถ่อาการกับตำรวจทุกครั้งที่ได้คุยกับตำรวจ รถเราที่โดนชน คือรถตู้ที่เอามาใช้ในธุรกิจส่วนตัว สุดท้ายรถเรากับพี่อีกคนต้องรออะไหล่ ซ่อม ไม่ขอเบิกค่าขาดผลประโยชน์รถ เพราะจะกระทบถึงครอบครัวคนตายได้ เพราะเราก็ต้องไปเอารถที่อื่นมาใช้ในธุรกิจต่อเกือบๆ 2 เดือน เพราะรถตู้เรา เป็นอะไหล่นำเข้า และขับไม่ได้ ถามว่าตอนเกิดเรื่องแรกๆเครียดมั้ย เราพยายามจะไม่เครียดนะ เพราะมันคืออุบัติเหตุ แต่แม่เราคือถือมาก ที่มีคนมาชนท้าย แล้วตายคาที่ ทั้งรถที่ทำธุรกิจ และหน้าบ้านที่คือทั้งบ้านที่พักอาศัย และที่หากิน รถออกใหม่ๆคัน 3.5 ล้าน เราก็ต้องเครียดแหละ พยายามไปทำบุญ เอารถไปวัด เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ก็หมดไปหลายอยู่ เราก็พยายามจะไม่คิดมาก คิดแต่ว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เสียเวลามากๆ ทำธุระกิจในช่วงนี้ ก็ได้แต่คอยพยุงกิจการ และดูแลลูกน้องให้ดี(เงินทุกบาทเป็นน้ำพักน้ำแรงของพวกเราที่หามา ไม่เคยรบกวนใครหรือครอบครัวเลยแม้แต่นิดเดียว) พยายามรับผิดชอบ ทำประกันทุกอย่างที่จำเป็น เวลาเกิดอะไรมาจะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่น อยากรับผิดชอบดูแลคนอื่นตามกำลังที่ไหว โดยไม่กระทบกับเงินทุกๆส่วนแบบไม่คาดคิด เพราะชีวิตทุกวันนี้เราไม่อยากเสี่ยงเลย แต่เราต้องมาเจอแบบนี้ เสียใจค่ะ ถึงจะขับรถมาเป็น 10+ ปี และไม่เคยชนใครเลย แต่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ เราก็แอบๆเครียด ไม่อยากจะถามใคร หรือเล่าให้ใครฟัง กลัวเขาเป็นห่วง และเรื่องบานปลาย
สิ่งที่ติดใจเลยคือ:

1. เจ้าหน้าที่บอกว่า: ถึงพวกเราจะจอดรถเฉยๆ แต่ตรงนั้นอยู่ในเลนถนน ซึ่งบอกว่าพวกเราผิดด้วย (นิดนึง) เลยจะให้จ่ายค่ามนุษยธรรมช่วย เพราะรถคนตายไม่ได้ต่อ พรบ. เขาไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเลย 
2. พวกเราไม่มีมนุษยธรรมตรงไหน ช่วยทางอ้อม และได้รับผลกระทบเยอะเหมือนกัน ซึ่งได้แจกแจงไปแล้ว เราเสียหายถึง 6 หลักค่ะ
3. เรามีแจ้งไปว่า เราเคยเจอเคสแบบนี้เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว คือเรากับแฟนขับรถกันมาดีๆ มีรถจอดทานอาหารกันอยู่ซ้ายมือ เป็นปกติ แต่มอเตอร์ไซด์ที่วิ่งตามหลังมา พยายามจะแซงซ้ายรถเรา ซึ่งไม่พ้น เขาชนรถตั้งแต่กึ่งกลางคันจนกระจกหลุด และเสียหลักพุ่งเข้าไปหารถที่จอดริมทาง ซึ่งก็เจ็บพอสมควร เคสนี้ตำรวจบอกเราถูก แต่เราเป็นรถใหญ่ ช่วยมอเตอร์ไซด์ได้มั้ย ทางเราก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไร ด้วยความเห็นใจ เลยรับปากไป สุดท้าย เขาเรียกค่าเสียหายมาล้านกว่า ประกันให้ 600,000 ค่ารักษาอีกต่างหาก เขาไม่ยอมค่ะ ประกันเห็นว่ามันไม่สมเหตุสมผลเขาก็ไกล่เกลี่ยไปเรื่อยๆค่ะ จนสามารถตกลงกันได้ ซึ่งน้อยกว่าตอนแรกที่เสนอ ใช้เวลานานมากค่ะ อันนั้นเป็นรถประจำตำแหน่งแฟน เคสนั้นก็วุ่นวายมากค่ะ แต่บริษัทแฟนจัดการให้หมด ถ้าอยู่ๆเขาตายขึ้นมาหลังจากนั้น เราอาจจะซวยค่ะ และแฟนติดคดีอาญามาอีกค่ะ หลังจากนั้นคุยกันเลยว่าถ้าเราไม่ผิด แบบนี้ไม่เอาแล้วนะ
4. เจ้าหน้าที่มีพูดว่า ถ้าไม่มีคู่กรณีนะ รัฐมีเงินช่วย 100,000 เขาเซ็นต์เช็คให้ตอนนี้เลย เราก็อยากจะสวนนะว่าเงินเขามั้ยหล่ะคะ พวกเราที่ต้องควักกระเป๋าจ่าย เสียหายไปเท่าไหร่ ให้ 200,000 ก็ให้ได้ เพราะไม่ใช่เงินเราไง พวกเราไม่อยากจะพูดอะไรมากค่ะ พี่เขาตายไปแล้ว ไม่มีใครอยากให้เกิด คนในครอบครัวเขาก็ดูเข้าใจนะคะ
5. วันนั้นถ้าเขาไม่ได้เซไปใส่รถเรา แต่เซมาชนเราที่ยืนอยู่บนฟุตบาทแทน เราจะตายฟรีมั้ยคะ เราไม่อยากอะไรกับคนตายนะ แต่สิ่งที่เราได้รับกลับมา ทำให้เราอดคิดไม่ได้จริงๆค่ะ

เพิ่มเติม: ประกันของเราเป็นชั้น 1 ได้แจ้งทางตำรวจไว้ว่า ผลชันสูตรยังไม่ออก ถ้าออกแล้ว เขาจะทำเรื่องขอให้ผู้ตายอยู่ แต่ไม่สามารถรับปากได้ เนื่องจากหัวหน้าเขาจะดูเป็นเคสๆ เราก็ได้แต่ฝากประกันว่ารบกวนด้วยนะคะ

**ถ้าเจ้าหน้าที่บอกว่า วันนี้เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้นะ ถ้าแต่ละคนอยากช่วยเหลือตามสมควร ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา ทุกคนโอเคนะ เพราะนี่เหมือนเราผิดกันเลย ทุกคน งง และตกใจมาก

****อยากสอบถามความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของแต่ละคนค่ะ ว่าคิดยังไงกันบ้างคะ กับเคสแบบนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่