พังงา จากจังหวัดเหมืองแร่ สู่แหล่งท่องเที่ยว 50,000 ล้าน

พังงา จากจังหวัดเหมืองแร่ สู่แหล่งท่องเที่ยว 50,000 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า พังงา เคยเป็นแหล่งส่งออกดีบุกของประเทศไทย ด้วยมูลค่าส่งออกกว่า 2,000 ล้านบาท
แต่ปัจจุบัน เหมืองดีบุกได้หายไปจากพังงาแล้ว
และกลายเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้การท่องเที่ยว
ให้กับประเทศไทยกว่า 50,000 ล้านบาทแทน
แล้วพังงา เปลี่ยนจากการขุดแร่ดีบุก
ต้องบอกว่า ภาคอุตสาหกรรมของพังงา
เคยเป็นแหล่งรายได้หลักของจังหวัด
โดยเฉพาะเหมืองแร่ดีบุกที่มีอยู่จำนวนมาก
ซึ่งถ้าใครนึกภาพไม่ออก ลองไปดูภาพยนตร์เรื่อง
“มหา’ลัย เหมืองแร่” จะเห็นภาพเดิมของจังหวัดพังงา ที่เคยเป็นแหล่งส่งออกแร่ดีบุกที่สำคัญของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ราคาแร่ดีบุกที่ตกต่ำลงในตลาดโลก กิจการเหมืองจึงเริ่มเจอปัญหาขาดทุน ทำให้บริษัทต่าง ๆทยอยปิดกิจการออกไปเรื่อย ๆ
คนในจังหวัด เลยหันไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม และอาชีพประมงแทน จนปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมของจังหวัด สร้างรายได้ให้กับพังงาเหลือเพียง 5% เท่านั้น
โดยภาคเกษตรกรรม ปัจจุบันสร้างรายได้ให้กับจังหวัดถึง 1 ใน 4 ซึ่งมีพื้นที่ทำเกษตรกรรมทั้งหมด 1.1 ล้านไร่ คิดเป็น 42% ของพื้นที่ทั้งจังหวัด
ไม่ว่าจะเป็นปาล์มน้ำมัน ที่พังงาปลูกมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ กว่า 735,000 ตัน และยังมีพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น ยางพารา มังคุด และทุเรียน
นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปต่าง ๆ เช่น สัตว์น้ำ ผลไม้ ไม้ยางพารา ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ
สินค้าเกษตรของจังหวัดพังงาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งทรัพยากรสำคัญของพังงา
นั่นคือ ทะเลอันดามัน ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น
- เขาหลัก
- หมู่เกาะสุรินทร์
- หมู่เกาะสิมิลัน
ด้วยธรรมชาติที่งดงาม และสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้พังงากลายเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ของประเทศไทย
และเกิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย มารองรับนักท่องเที่ยว ที่หลั่งไหลเข้ามา
ทำให้ปัจจุบัน เศรษฐกิจของพังงา มีรายได้มาจาก
ภาคบริการมากถึง 70% ส่วนที่เหลือมาจากภาคเกษตรกรรม 25% และภาคอุตสาหกรรมอีก 5%
โดยหากเราไปดูในช่วง 5 ปีย้อนหลัง ก่อนล็อกดาวน์ จะพบว่าเศรษฐกิจของพังงา เติบโตเฉลี่ยมากถึง 11% โตแรงเป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ รองจากภูเก็ตเท่านั้น
ซึ่งเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนสร้างรายได้ให้กับจังหวัดพังงา มากถึงปีละ 50,000 ล้านบาท
และทำให้ธุรกิจโรงแรม ที่พัก และร้านอาหาร
เติบโตเฉลี่ย 28% เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักท่องเที่ยว กลับมาเที่ยว
พังงาเพียง 2 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวจึงยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และเหลือเพียง 12,000 ล้านบาทเท่านั้น
และในช่วงที่ผ่านมา แม้รายได้จากการท่องเที่ยวจะหายไป แต่ภาคเกษตรกรรมของพังงา ก็ยังเติบโตอย่างน้อย 3-4% มาโดยตลอด
ถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า พังงา เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยภาคการท่องเที่ยว อดียเคยมีภาคอุตสาหกรรม เป็นหัวใจหลักมาก่อน
และถึงแม้ปัจจุบัน พังงา จะมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว
แต่จริง ๆ แล้ว พังงา ก็ยังมีแง่มุมอื่น ๆ ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เช่น ภาคการเกษตร ที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัด เป็นจำนวนไม่น้อยอีกด้วย
โดยในปี 2565 พังงามีขนาดเศรษฐกิจ 55,496 ล้านบาท
แต่มีประชากรเพียง 2.5 แสนคน
ทำให้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว (GPP per capita) สูงถึง 200,523 บาทต่อปี มากเป็นอันดับ 2 ของภาคใต้
ซึ่งในอนาคต หากการท่องเที่ยวของพังงา ฟื้นตัวเต็มที่อีกครั้ง
ก็มีความเป็นไปได้ว่า เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี จะไหลกลับเข้าสู่จังหวัดพังงา เหมือนดั่งเช่นเคย…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่