ขอมาเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาพบเจอตอนสมัยมัธยมคะ ตอน.ต้นเราเคยมีเพื่อนที่ย้ายมากลางเทอมเลยซึ่งตอนแรกนางก็ปกติคะเเต่แค่1อาทิตย์แรกนะคะหลังจาก1อาทิตย์ก็นี่ขอใช้คำว่ามีพฤติกรรมเหมือนเด็กติดโทรศัพท์มากกกกกกแบบมากๆๆๆๆๆเลยแถมบางทีก็ชอบทำตัวแปลกๆทั้งชอบพูดอะไรเหมือนสิริแถมเวลาพูดด้วยก็ไม่มองหน้าหรือมองไปทางอื่นจนเราก็คิดว่าเพีอนอาจจะไม่อยากมิงหน้ามั้งซึ่งเราช่วงแรกๆก็ไม่ได้อะไรกับพฤติกรรมนี้หรอกคะ มองว่าอาจเป็นความชอบที่เขาชอบเล่นโทรศัพท์และก็พฤติกรรมตามลักษณะนิสัยแต่ละบุคคลมั้งคะแต่นานๆมันก็กลายนิสัยพฤติกรรมที่แปลกแถมติดมือถือแบบติดแบบมากๆๆๆๆมากกแบบใครมากวนเขาเล่นคือวีนหมด เคยมีครูริบโทรศัพท์นาง นางก็แสดงพฤติกรรมไม่พอใจออกมาแบบชัดเจนมากแบบกอดอก จ้องหน้าครู มองครูแบบอาฆาตมาก แถมพอได้โทรศัพท์คืนก็มาโทษเรากับเพื่อนว่าไม่ยอมเตือนทั้งที่ก่อนหน้านั้นเรากับเพื่อนเตือนเกือบทุกคาบซึ่งพอจากเหตุการณ์นี้ครูก็เรียกเรากับเพื่อนสนิทเราไปคุยว่าเพื่อนคนนี่เนี่ยมีปัญหาอะไรรึเปล่าซึ่งเราก็ยอมรับเลยคะตอนนั้นเราคิดว่าเขาอาจจะแค่มีธุระกับทางบ้านคือช่วยเเถเพราะเห็นว่าเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งย้ายมา(นี่ขนาดแค่1-2เดือนแรก)แต่หลังจากไม่กี่เดือนมันกลับกลายเป็นฝันร้ายของเราไปเลยคะ คือนางทำอะไรไม่เป็นเลย งานง่ายๆที่เรากับเพื่อนว่าง่ายที่สุดเขาก็ทำไม่ได้
(อาจจะง่ายสำหรับเราแต่ยากสำหรับเขา)ซึ่งเราก็ต้องมาทำให้ตลอดอาจจะมีบ่นบ้างแต่ทุกครั้งนางก็ขอโทษนะเเต่ก็ทำนิสัยเหมือนเดิมคือชั่ง
เมินงานคือถ้าอยากให้นางทำจริงๆคือต้องจี้เลยคะต้องเก็บมือถือไม่ให้เล่นแต่พอใข้วิธีนี้ก็ตามเรื่องคะวีนแถมทำส่งๆซึ่งมันก็มีบางครั้งที่นางด่าเราแต่เราก็จะสวนด้วยเหตุผลทันทีซึ่งเหตุผลเรานางก็เถียงไม่ออกและใช่คะเราเอือมกับพฤติกรรมนี้มากแต่ก็ทำไนไม่ได้เพราะถึงเเม้เราจะขอความข่วยเหลือจากครูครูบางส่วนก็เข้าข้างนางเพราะครูหลายคนก็รู้ว่านางเป็นอะไรเเต่ไม่บอกเราเฉยๆเพราะปัจจัยหลายๆอย่างแต่ครุบางส่วนก้บอกได้แค่ว่าอดทนซึ่งเราก็ต้องทนอยู่กับนางไปตลอดเกือบ2ปี(เหตุผลที่ต้องอยู่กับนางก็สั้นๆคะครูฝากให้เราช่วยเขาซึ่งเราเป็นคนที่ไม่อยากมีปัญหากับครูแถมเพราะเราเป็นคนทึ่ขร้สงสารเเละเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อน)หลังจาก2ปีนี้เราบอรับคะทุกข์ทรมานมากแบบสุดๆ เรามารู้ตัวว่านางเป็นออทิสติกได้ก็เมื่อม.3เพราะเราเริ่มตงิดใจเรื่องพฤติกรรมซึ่งใช่คะ พอคนหาเชิงลึกแล้วพฤติกรรมที่เพื่อนแสดงออกหลายๆอย่างมันก็ตรงแทบทุกข้อเลยคะ เรายอมรับว่าตอนนั้นจะสงสารก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าสงสารเพราะปัจจัยอีกข้อที่เรารู้มาว่าคือ พ่อแม่นางตามใจคะ ลูกอยากได้อะไรได้หมด แถมตอนนั้นตามตรงเลยคะทัอมากทั้งงานทั้งอะไรเรียกง่ายไหวแบกงานแบกจนเราไม่ไหวจนป่วย ออดๆแอดๆไปหาหมอบ้างนอนที่บ้านบ้าง บางเดือนหยุดเกือบ2อาทิตย์ก็มีคะ ซึ่งใช่คะเราตรวจพบโรคหลายอย่างจนหลังจากเหตุการณ์นี้เราก็ได้คิดแล้วคะว่าเราทำผิดกับตัวเองไว้หลายอย่างและได้ข้อคิดหลายอย่างเช่นกันคะ ไม่ว่าจะการไม่รักตัวเอง การรักและเป็นห่วงคนอื่นเพียงเพราะคำว่า เพื่อน เราเลยอยากมาเเชร์เหตุการณ์นี้เผื่อมีใครที่อาจจะเคยเจอเรื่องราวแบบนี้ และอยากจะฝากบอกผู้ปกครองๆหลายๆท่านว่า ดูแลบุตรหลานของท่านให้ดีอย่าปล่อยลูกให้อยู่กับหน้าจอมากจนเกินไป มันไม่ดีทั้งตัวบุตรหลานและตัวคุณเลย แถมถ้าใครที่รู้ว่าบุตรหรือหลานของท่านเป็นเด็กออทิสติกได้โปรดดูแลเขาให้ดี การเป็นเด็กออทิสติกไม่ผิดแต่สงสารเด็กที่ต้องมาพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มันไม่โอเคเลยเพราะคนที่ต้องมาทนทุกข์กับเด็กเหล่านี้ อย่าลืมว่าเขาก็เป็นแค่เด็กที่ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตหรือความอดทนมากเขาเป็นแค่เด็กธรรมดาไม่ใช่หมอจิตเวชไม่ใช่พยาบาลแต่เขาคือเด็กธรรมดาคนหนึ่งและเหตุผลที่เขาอาจจะต้องมาทนทุกข์มาช่วยดูแลบุตรหลานของท่านอาจเป็นเพียงเพราะ คำว่า เพื่อน
จากเหตุการณ์เหล่านี้มันกลายเป็นเรื่องฝังใจเรามาตลอดแต่ก็ไม่ใช่เด็กพิเศษหรืออทิสติกทุกคนนะคะที่เราไม่ชอบเด็กแบบนี้ที่นิสัยน่านุกดีๆก็มีเยอะคะเเต่นิสัยเเลัพฤติกรรมที่ไม่ดีก็มีเยอะ เราเลยอยากจะมาแชร์ไว้หรือใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็มาคุยกันได้นะคะ
ผิดไหมที่ไม่ชอบเด็กออทิสติกเทียม
จากเหตุการณ์เหล่านี้มันกลายเป็นเรื่องฝังใจเรามาตลอดแต่ก็ไม่ใช่เด็กพิเศษหรืออทิสติกทุกคนนะคะที่เราไม่ชอบเด็กแบบนี้ที่นิสัยน่านุกดีๆก็มีเยอะคะเเต่นิสัยเเลัพฤติกรรมที่ไม่ดีก็มีเยอะ เราเลยอยากจะมาแชร์ไว้หรือใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็มาคุยกันได้นะคะ