เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000116890
ยืนยง ยืนหนึ่ง มีกระแสมาตลอดทั้งปี ถึงนาทีที่ไม่มีใครเอาเธอลงได้แล้วจริงๆ
“ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล”ไอดอลสาวชาวไทย ที่ทุกคนประจักษ์ชัดเจนว่า เธอเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ผลักดันให้วงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง BLACKPINK เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล แถมยังเป็นกลไกในการชี้วัดดัชนีหุ้นของต้นสังกัด YG Entertainment ในอีกทางหนึ่งด้วย
ในปี 2023 ที่ผ่านพ้นไป ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของ ลิซ่า ที่มีข่าวใหญ่ที่เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
เอาง่ายๆ ก็คือการมาเยือนประเทศเกิดถึง 2 ครั้ง 2 ครา จากกการแสดงคอนเสิร์ต
BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ที่เมืองไทย ก็พลอยทำให้สินค้าไทย อาหารไทย เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งของการหยิบจับ หรือแม้กระทั่งแค่การพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคหรือบริโภค ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ของสิ่งนั้นมากยิ่งขึ้น จากกระแสลูกชิ้นยืนกิน มาจนมาถึงน้ำส้ม หมูกระทะ โรตีสายไหม ชาไทย ยาดม และกระทั่งผ้าซิ่นทอมือ
ลิซ่า ถือว่าเป็น soft power ผู้ทรงอิทธิพลในฐานะศิลปินเพลงเชื้อชาติไทย และสามารถใช้อิทธิพลในตัวเอง ผลักดัน soft power ในด้านอื่นๆ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งในมุมของความเป็นศิลปินเอง คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ด้วยความสำเร็จของ ลิซ่า ทำให้หลายๆ ค่ายเพลงในเกาหลี รวมถึงประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชีย เริ่มมีเป้าหมายที่จะเฟ้นหาเยาวชนไทนเพื่อนำไปปลุกปั้น หวังให้โด่งดังตามรอย แต่ก็ต้องยอมรับว่า จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีใครมาถึงจุดที่ ลิซ่า ยืนอยู่ได้
ไหนจะข่าวคราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนักธุรกิจหนุ่มทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของเครือบริษัท LVMHรวมกระทั่งการเป็นเป็นศิลปินเอเชียคนแรกที่ได้ร่วมแสดงใน Crazy Horse Paris ประเทศฝรั่งเศส
และข่าวที่ทำให้ชาวบลิ้งค์ลุ้นกันหนักมาก ก็คือสัญญาระหว่าง BLACKPINK กับต้นสังกัด ที่หมดไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม และก็ยืดเยื้อมาหลายเดือน กว่าที่ YG จะออกมาสรุปว่า BLACKPINK ยังคงเซ็นสัญญาในนามวง ส่วนสัญญาส่วนตัวนั้น แม้ไม่มีการพูดถึง แต่ก็เป็นอันรู้กันโดยนัยว่า ลิซ่า กับสมาชิกอื่นๆ ในวง สามารถรับงานเองได้โดยอิสระ
นอกจากนั้น ยังเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ หรือ MBE ซึ่งส่งให้ยอดผู้ติดตามไอจีส่วนตัวพุ่งขึ้นแตะหลัก 99 ล้าน จนทั่วโลกร่วมกันติดแฮชแท็ก #Congratulations LISA ก่อนที่จะพุ่งต่อไปแตะที่ 99.9 ล้าน หลังจากปรากฏตัวในงาน CELINE
และที่สุดแล้ว ยอดไอจี lalalalisa_m ก็สามารถทะลุ 100 ล้านฟอลโลเวอร์ ได้ในที่สุด สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับวงการ ในฐานะศิลปิน K-Pop คนแรก และยังเป็นศิลปินหญิงฝั่งเอเชียคนแรกที่ทำได้สำเร็จ และได้รับการบันทึกจาก Guinness World Records (กินเนสส์บุ๊ก เรคคอร์ด) เป็นสถิติที่ 9 ในฐานะศิลปิน K-Pop ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2023
แหละ.... เมื่อยอดผู้ติดตามในไอจีของ ลิซ่า เพิ่มเกิน 100 ล้านฟอลโลเวอร์ แน่นอนว่าย่อมจะส่งผลต่อรายได้อันมากมายมหาศาลที่จะไหลเข้ากระเป๋า เพราะเดิมทีมูลค่ามูลค่าการโพสต์โฆษณาบนไอจีของเธอ อยู่ที่ 575,000 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 20.45 ล้านบาทต่อ 1 โพสต์ ถึงวันนี้ก็น่าจะต้องดับเบิ้ลเข้าไปอีก
ในขณะเดียวกัน พลังในการขับเคลื่อนและเป็นกระบอกเสียงผลักดัน soft power ของไทยในทุกๆ ด้าน ก็ย่อมจะมีพลังมากขึ้นด้วย
ที่สำคัญ ก็ยิ่งจะเป็นจุดสนใจและจับตามองในวงการเพลงโลกมากยิ่งขึ้น ในฐานะของศิลปินที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการ K-Pop
ล่าสุด มีการตั้งข้อสังเกตว่า ลิซ่า อาจจะได้ร่วมงานในโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ The Walking Dead ซีรีส์ซอมบี้แนวดรามาสยองขวัญชื่อดัง เพราะในไอจีอย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการกดติดตามไอจีของ ลิซ่า อีกทั้งเมื่อครั้งที่ไปดูบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2023-2024 ระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ นิวคาสเซิล ที่สนามปาร์ก เดส์ แพรงซ์ กรุงปารีส ลิซ่า ก็นั่งข้างๆ “มาร์ค นอร์แมน รีดัส” ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงด้วย
เรียกว่าตอนนี้ เกาหลี หรือแม้กระทั่งเอเชีย แคบเกินไปแล้วสำหรับชื่อเสียง ความสำเร็จ ความโด่งดัง และความทรงอิทธิพล บารมีระดับนี้ต้องเวทีโลกเท่านั้น ถึงจะเหมาะสม และควรคู่
Year of LISA ศิลปิน K-Pop ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2023
https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000116890
ยืนยง ยืนหนึ่ง มีกระแสมาตลอดทั้งปี ถึงนาทีที่ไม่มีใครเอาเธอลงได้แล้วจริงๆ
“ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล”ไอดอลสาวชาวไทย ที่ทุกคนประจักษ์ชัดเจนว่า เธอเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ผลักดันให้วงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง BLACKPINK เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล แถมยังเป็นกลไกในการชี้วัดดัชนีหุ้นของต้นสังกัด YG Entertainment ในอีกทางหนึ่งด้วย
ในปี 2023 ที่ผ่านพ้นไป ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของ ลิซ่า ที่มีข่าวใหญ่ที่เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
เอาง่ายๆ ก็คือการมาเยือนประเทศเกิดถึง 2 ครั้ง 2 ครา จากกการแสดงคอนเสิร์ต
BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ที่เมืองไทย ก็พลอยทำให้สินค้าไทย อาหารไทย เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งของการหยิบจับ หรือแม้กระทั่งแค่การพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคหรือบริโภค ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ของสิ่งนั้นมากยิ่งขึ้น จากกระแสลูกชิ้นยืนกิน มาจนมาถึงน้ำส้ม หมูกระทะ โรตีสายไหม ชาไทย ยาดม และกระทั่งผ้าซิ่นทอมือ
ลิซ่า ถือว่าเป็น soft power ผู้ทรงอิทธิพลในฐานะศิลปินเพลงเชื้อชาติไทย และสามารถใช้อิทธิพลในตัวเอง ผลักดัน soft power ในด้านอื่นๆ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งในมุมของความเป็นศิลปินเอง คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ด้วยความสำเร็จของ ลิซ่า ทำให้หลายๆ ค่ายเพลงในเกาหลี รวมถึงประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชีย เริ่มมีเป้าหมายที่จะเฟ้นหาเยาวชนไทนเพื่อนำไปปลุกปั้น หวังให้โด่งดังตามรอย แต่ก็ต้องยอมรับว่า จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีใครมาถึงจุดที่ ลิซ่า ยืนอยู่ได้
ไหนจะข่าวคราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนักธุรกิจหนุ่มทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของเครือบริษัท LVMHรวมกระทั่งการเป็นเป็นศิลปินเอเชียคนแรกที่ได้ร่วมแสดงใน Crazy Horse Paris ประเทศฝรั่งเศส
และข่าวที่ทำให้ชาวบลิ้งค์ลุ้นกันหนักมาก ก็คือสัญญาระหว่าง BLACKPINK กับต้นสังกัด ที่หมดไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม และก็ยืดเยื้อมาหลายเดือน กว่าที่ YG จะออกมาสรุปว่า BLACKPINK ยังคงเซ็นสัญญาในนามวง ส่วนสัญญาส่วนตัวนั้น แม้ไม่มีการพูดถึง แต่ก็เป็นอันรู้กันโดยนัยว่า ลิซ่า กับสมาชิกอื่นๆ ในวง สามารถรับงานเองได้โดยอิสระ
นอกจากนั้น ยังเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ หรือ MBE ซึ่งส่งให้ยอดผู้ติดตามไอจีส่วนตัวพุ่งขึ้นแตะหลัก 99 ล้าน จนทั่วโลกร่วมกันติดแฮชแท็ก #Congratulations LISA ก่อนที่จะพุ่งต่อไปแตะที่ 99.9 ล้าน หลังจากปรากฏตัวในงาน CELINE
และที่สุดแล้ว ยอดไอจี lalalalisa_m ก็สามารถทะลุ 100 ล้านฟอลโลเวอร์ ได้ในที่สุด สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับวงการ ในฐานะศิลปิน K-Pop คนแรก และยังเป็นศิลปินหญิงฝั่งเอเชียคนแรกที่ทำได้สำเร็จ และได้รับการบันทึกจาก Guinness World Records (กินเนสส์บุ๊ก เรคคอร์ด) เป็นสถิติที่ 9 ในฐานะศิลปิน K-Pop ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2023
แหละ.... เมื่อยอดผู้ติดตามในไอจีของ ลิซ่า เพิ่มเกิน 100 ล้านฟอลโลเวอร์ แน่นอนว่าย่อมจะส่งผลต่อรายได้อันมากมายมหาศาลที่จะไหลเข้ากระเป๋า เพราะเดิมทีมูลค่ามูลค่าการโพสต์โฆษณาบนไอจีของเธอ อยู่ที่ 575,000 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 20.45 ล้านบาทต่อ 1 โพสต์ ถึงวันนี้ก็น่าจะต้องดับเบิ้ลเข้าไปอีก
ในขณะเดียวกัน พลังในการขับเคลื่อนและเป็นกระบอกเสียงผลักดัน soft power ของไทยในทุกๆ ด้าน ก็ย่อมจะมีพลังมากขึ้นด้วย
ที่สำคัญ ก็ยิ่งจะเป็นจุดสนใจและจับตามองในวงการเพลงโลกมากยิ่งขึ้น ในฐานะของศิลปินที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการ K-Pop
ล่าสุด มีการตั้งข้อสังเกตว่า ลิซ่า อาจจะได้ร่วมงานในโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ The Walking Dead ซีรีส์ซอมบี้แนวดรามาสยองขวัญชื่อดัง เพราะในไอจีอย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการกดติดตามไอจีของ ลิซ่า อีกทั้งเมื่อครั้งที่ไปดูบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2023-2024 ระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ นิวคาสเซิล ที่สนามปาร์ก เดส์ แพรงซ์ กรุงปารีส ลิซ่า ก็นั่งข้างๆ “มาร์ค นอร์แมน รีดัส” ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงด้วย
เรียกว่าตอนนี้ เกาหลี หรือแม้กระทั่งเอเชีย แคบเกินไปแล้วสำหรับชื่อเสียง ความสำเร็จ ความโด่งดัง และความทรงอิทธิพล บารมีระดับนี้ต้องเวทีโลกเท่านั้น ถึงจะเหมาะสม และควรคู่