เตือนภัยผู้ป่วยทางจิตตามคุกคามเราเพราะนางเรียนมอเดียวกับเรา

คือเราเซงมากเลยเจอคนป่วยจิตมาคุกคามเยอะขึ้นจนไม่รู้ว่าจะโดนไรมากกว่านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ รพ รามา แผนกจิตเวช 25 กค 2566 ที่เจอผู้หญิงคนนึงมาเซ้าซี้ถามเรื่องคิวที่เราแทนที่จะถามพยาบาล ละนางก็ตามคุกคามเราตลอดเพราะเพิ่งรู้ว่านางเรียนมอเดียวกับเรา อีกครั้งก็ตอนลงลิฟท์ที่ชั้น11 ตอนเรียนอังกฤษเสร็จเปิดมาเจอรุ่นพี่ ป โท กับนางป่วยจิต ซึ่งบอกก่อนว่านางป่วยจิตนางมาคนเดียว ละรุ่นพี่ ป โทก็ชวนเราคุยเรื่องนํ้าแร่ แต่นางป่วยจิตก็มาพูดเสียงดังว่าบ้ามากเดี๋ยวจับฉีดยาแม่... 
อีกรอบก็ตอนสายสีม่วง 30 ธค 66 ประมาณบ่ายโมง เจอนางป่วยจิตมากับผู้ชาย นางพูดเสียงดังมาก ดังจนหูอื้อเลย เราไม่ได้ตกใจนะแต่เรามองว่าไม่มีมารยาทมากกว่า พอเราหันไปบอกว่าเงียบๆได้ปะ นางสวนมาทันควันว่าเป็นโรคhereไรก็ไม่รู้
ละวันที่ 9 มค ร้านกะเพราหลังมอ เจอนางอีกแล้ว ที่จําได้เพราะเพื่อนนางบอกว่านางเสียงดัง ละนางก็บอกว่าอ่อจําหน้าได้ละ ตามด้วย อย่ามาทําเพื่อนgu ละเวียงนางเสียงเดียวกับที่บนสายสีม่วงละครั้งก่อนๆเลย

อีกเคสก็สายสีชมพูที่เจอตาลุงแก่เสื้อเขียวมาชี้นื้วไปมาให้เราแตะบัตรแรบบิทละเดินออกไปเพื่อ... ปกติเขาก็แตะบัตรแล้วเดินเช้าไป เสร็จแล้วนางก็ขําอยู่นั่น นางมีคนดูแลนะแต่ควรจะดูแลทุกฝีก้าว ถ้าดูแลได้ไม่ดีพอก็จับใส่กรงเถอะมันคุกคามคนอื่น ทั้งผู้หญิงคนนั้นละตาลุงคงไม่รู้ว่าจิตแพทย์หาง่ายกว่าเดิมมากละทัศนคติของสังคมเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ถ้าไปหาจิตแพทย์ไม่ได้ก็จับใส่ห้องกรงละโยนอาหารไปในกรงดีกว่า เซงว่ะ..

อยากให้ นพ ชลน่าน ศรีแก้ว ช่วยออกมาตรการ นวัตกรรม หรือแก้ปัญหาผู้ป่วยทางจิตด้วย 
รวมถึงท่านนายกด้วยช่วยแก้ปัญหานี้หน่อยอย่าสนใจแต่ผู้ป่วยจากสารเสพติดเพราะผู้ป่วยจากอย่างอื่นเยอะกว่ายาเสพติดเยอะมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่