ทำไมไทย เป็นผู้ส่งออกยางล้อ เบอร์ 2 ของโลก

ทำไมไทย เป็นผู้ส่งออกยางล้อ เบอร์ 2 ของโลก /โดย ลงทุนแมน
ยางล้อ ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของยานพาหนะหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถไฟฟ้า ไปจนถึงเครื่องบิน
รู้หรือไม่ว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางล้อ มากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก
ด้วยมูลค่าการส่งออกสูงถึง 231,000 ล้านบาท
แล้วเพราะอะไร ประเทศไทยถึงเป็นฐานการผลิตยางล้อรายใหญ่ของโลกได้ ?
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทย เป็นฐานการผลิตยางล้อ ก็คือ
- ไทยเป็นผู้ผลิตยางพารา รายใหญ่ของโลก
- ราคายางในไทยถูก
รู้หรือไม่ว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก
เพราะด้วยสภาพแวดล้อมของไทย เหมาะแก่การปลูกยางพารา ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตยางล้อ
ทำให้เกิดการปลูกยางพาราขึ้นในไทย เป็นจำนวนมาก
โดยผลผลิตยางพาราธรรมชาติของไทยในปี 2565 อยู่ที่ 4.8 ล้านตัน
ซึ่งสูงถึง 34% ของผลผลิตทั้งโลกเลยทีเดียว
และอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางรายใหญ่ ก็คือ ราคายางที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่ผลิตยางในคุณภาพเดียวกัน
ทำให้ยางของไทย มีความสามารถในการแข่งขัน และเป็นที่ต้องการของนานาประเทศ
ดังนั้น ด้วยปัจจัยการเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญ ประกอบกับการมีต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกมาก
ทำให้บริษัทผู้ผลิตยางล้อหลาย ๆ บริษัท เลือกให้ประเทศไทย เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของตัวเอง เพื่อทำตลาดในประเทศ รวมถึงส่งออกยางล้อไปยังประเทศอื่น ๆ
โดยแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Michelin, Bridgestone, Goodyear, Maxxis, Sumitomo และ Yokohama
ได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิตยางของตัวเอง ประจำภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ล้อรถยนต์ของไทยอย่าง Deestone ที่เกิดขึ้นมาจากวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง ที่มองว่าประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพารารายใหญ่มานาน
แต่กลับยังไม่มีสักแบรนด์ที่เป็นของคนไทยเลย
ด้วยความที่มีโรงงานผลิตยางล้อในไทย เป็นจำนวนมาก
ทำให้ที่ผ่านมา ประเทศไทย ได้กลายเป็นผู้ส่งออกยางล้อรายใหญ่ อันดับที่ 2 ของโลก
ด้วยมูลค่าการส่งออกกว่า 231,000 ล้านบาท ในปี 2565
โดยเป็นรองเพียงประเทศจีนเท่านั้นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกยางพาราทั่วโลก อยู่ที่ประมาณ 563,000 ล้านบาท
ในขณะที่มูลค่าตลาดของยางล้อทั่วโลก
อยู่ที่ประมาณ 8.6 ล้านล้านบาท
หรือมากกว่ามูลค่าการส่งออกยางพาราถึง 15 เท่า
ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ผู้ผลิตยางล้อทั้งหลาย สามารถ “เพิ่มมูลค่า” ให้กับวัตถุดิบที่มาจากยางพารา
และขายไปในราคาที่สูงกว่าต้นทุน ได้มากกว่าหลายเท่าตัว..
โดยลงทุนแมน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่