หล่อก็ได้... ร้ายก็ดี “คิลเลียน เมอร์ฟี” ผู้รับบทตัวร้ายได้สาแก่ใจ
คอหนังเทศคงคุ้นหน้าคุ้นตานักแสดงหนุ่มผู้มีนัยตาสีฟ้าชวนจดจำ ซึ่งนั่นไม่ใช่เสน่ห์เพียงอย่างเดียวของนักแสดงมากฝีมืออย่าง “คิลเลียน เมอร์ฟี” เพราะคนนี้ไม่ว่าจะปรากฏกายในภาพยนตร์เรื่องไหนก็มักจะกระชากใจไปซะทุกเรื่อง
กล่าวคือเขาคนนี้เล่นบทดีได้ถึงพริก เล่นบทร้ายยิ่งถึงขิง ระยะหลังๆ เรามักจะได้เห็นเขาเล่นบทร้าย ไล่ล่า แบบแอบจิตๆ ได้สาแก่ใจคนดู โดยเฉพาะจากหนังเรื่อง “Red Eye” ( เรดอาย เที่ยวบินระทึก) ที่ทั้งร้ายทั้งจิตได้โล่จนทำเอาคนดูหายใจไม่ทั่วท้อง ลุ้นให้นางเอกของเรื่องอย่าง “ราเชล แม็กอดัมส์” เอาตัวรอดบนเที่ยวบินนั้นให้ได้
จะว่าไป พ่อหนุ่มนัยตาชวนฝันคนนี้เล่นมาแล้วหลายเรื่องทั้งบทดีและบทร้าย ก่อนเข้าสู่วงการภาพยนตร์ “คิลเลียน เมอร์ฟี” เคยเป็นอดีตมือกีตาร์และนักร้องนำของวง “เดอะซันออฟมิสเตอร์กรีนยีนส์” ซึ่งมีผลงานสตูดิโออัลบัมออกมา 1 ชุด ในปี ค.ศ. 1996 ที่ประเทศไอร์แลนด์มาก่อน
ต่อมาเขาได้ปฏิเสธสัญญาเข้าร่วมค่ายเพลงใหญ่ในอังกฤษ และหันไปเป็นนักแสดงในละครเวที, ภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์อิสระหลายเรื่อง โดยผลงานที่โดดเด่นของเขาเช่น การเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน (ค.ศ. 2002), นายเถื่อนแสบกวนเมือง (ค.ศ. 2003), เรดอาย เที่ยวบินระทึก (ค.ศ. 2005) และเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้างจากการรับบทเป็น "ดร.โจนาธาน เครน/สแกร์โครว" ใน แบทแมน บีกินส์, แบทแมน อัศวินรัตติกาล, แบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด กระทั่งมาประสบความสำเร็จจากการรับบทเป็นสาวประเภทสองในภาพยนตร์ตลกเรื่อง โลกใบสุดท้ายของผู้ชายนะยะ (ค.ศ. 2005) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลภาพยนตร์และโทรทัศน์ไอริช สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ เป็นครั้งแรก
เมอร์ฟี จัดเป็นนักแสดงชายที่มักจะได้แสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน โดยนอกเหนือจากภาพยนตร์ชุดแบทแมนทั้ง 3 ภาค ที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันแล้ว ยังมีภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันเช่น จิตพิฆาตโลก (ค.ศ. 2010), ดันเคิร์ก (ค.ศ. 2017) และ ออปเพนไฮเมอร์ (ค.ศ. 2023) ล่าเวลาสุดนรก (ค.ศ. 2011)
https://www.tnnthailand.com/news/entertainment/159780/ 
หล่อก็ได้... ร้ายก็ดี “คิลเลียน เมอร์ฟี” ผู้รับบทตัวร้ายได้สาแก่ใจ
คอหนังเทศคงคุ้นหน้าคุ้นตานักแสดงหนุ่มผู้มีนัยตาสีฟ้าชวนจดจำ ซึ่งนั่นไม่ใช่เสน่ห์เพียงอย่างเดียวของนักแสดงมากฝีมืออย่าง “คิลเลียน เมอร์ฟี” เพราะคนนี้ไม่ว่าจะปรากฏกายในภาพยนตร์เรื่องไหนก็มักจะกระชากใจไปซะทุกเรื่อง
กล่าวคือเขาคนนี้เล่นบทดีได้ถึงพริก เล่นบทร้ายยิ่งถึงขิง ระยะหลังๆ เรามักจะได้เห็นเขาเล่นบทร้าย ไล่ล่า แบบแอบจิตๆ ได้สาแก่ใจคนดู โดยเฉพาะจากหนังเรื่อง “Red Eye” ( เรดอาย เที่ยวบินระทึก) ที่ทั้งร้ายทั้งจิตได้โล่จนทำเอาคนดูหายใจไม่ทั่วท้อง ลุ้นให้นางเอกของเรื่องอย่าง “ราเชล แม็กอดัมส์” เอาตัวรอดบนเที่ยวบินนั้นให้ได้
จะว่าไป พ่อหนุ่มนัยตาชวนฝันคนนี้เล่นมาแล้วหลายเรื่องทั้งบทดีและบทร้าย ก่อนเข้าสู่วงการภาพยนตร์ “คิลเลียน เมอร์ฟี” เคยเป็นอดีตมือกีตาร์และนักร้องนำของวง “เดอะซันออฟมิสเตอร์กรีนยีนส์” ซึ่งมีผลงานสตูดิโออัลบัมออกมา 1 ชุด ในปี ค.ศ. 1996 ที่ประเทศไอร์แลนด์มาก่อน
ต่อมาเขาได้ปฏิเสธสัญญาเข้าร่วมค่ายเพลงใหญ่ในอังกฤษ และหันไปเป็นนักแสดงในละครเวที, ภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์อิสระหลายเรื่อง โดยผลงานที่โดดเด่นของเขาเช่น การเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน (ค.ศ. 2002), นายเถื่อนแสบกวนเมือง (ค.ศ. 2003), เรดอาย เที่ยวบินระทึก (ค.ศ. 2005) และเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้างจากการรับบทเป็น "ดร.โจนาธาน เครน/สแกร์โครว" ใน แบทแมน บีกินส์, แบทแมน อัศวินรัตติกาล, แบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด กระทั่งมาประสบความสำเร็จจากการรับบทเป็นสาวประเภทสองในภาพยนตร์ตลกเรื่อง โลกใบสุดท้ายของผู้ชายนะยะ (ค.ศ. 2005) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลภาพยนตร์และโทรทัศน์ไอริช สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ เป็นครั้งแรก
เมอร์ฟี จัดเป็นนักแสดงชายที่มักจะได้แสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน โดยนอกเหนือจากภาพยนตร์ชุดแบทแมนทั้ง 3 ภาค ที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันแล้ว ยังมีภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันเช่น จิตพิฆาตโลก (ค.ศ. 2010), ดันเคิร์ก (ค.ศ. 2017) และ ออปเพนไฮเมอร์ (ค.ศ. 2023) ล่าเวลาสุดนรก (ค.ศ. 2011)
https://www.tnnthailand.com/news/entertainment/159780/