กระทู้นี้มาเล่าเรื่องราวของพ่อ

อ่าา คงไม่น่าสนใจเท่าไหร่ล่ะสิครับ 55555 ก่อนอื่นกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผมอยากเขียนขึ้นมา อาจจะมีงงนิดหน่อยสำหรับคนที่เข้ามาอ่าน เพราะผมเพิ่งอายุ 15 ปี เริ่มกันเลยนะครับ ทุกคนคงมีผู้ชายที่เรียกว่าพ่อกันอยู่แล้ว ผมก็เช่นกันครับ พ่อผมเป็นผู้ชายวัยกลางคนอายุราว 40 ปี พ่อมีลูกทั้งหมด 4 คน ผมคือคนที่ 3 ลูกคนแรกของพ่อคือพี่สาว (คนละแม่) ของผมอายุ 19 ปี พ่อเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งในสายตาผม แกทำอาหารอร่อย ชอบพาผมและพี่ๆไปเที่ยว เท่าที่จำความได้ พ่อเป็นนักประดิษฐ์ เก้าอี้ โต๊ะ อ่างล้างจาน ไปจนถึง เตียงนอน พ่อทำเองหมด (ครอบครัวผมค่อนข้างจนครับ) เราค่อยมีอะไรแต่มีได้ก็เพราะพ่อ จนกระทั่งตอนผมอายุ 7 ขวบ ตอนนั้นพ่อออกบ้านไปไกลมาก โดนไม่บอกผม ผมกลับมาที่บ้านไม่เจอพ่อหลายวัน โดยที่แม่ของผมก็ไม่บอกอะไรกับผม ถามปู่กับย่าก็บอกแค่ว่า พ่อต้องไปทำงาน ผมจำได้ขึ้นใจในตอนที่แม่ร้องไห้หนักมาก...ผมไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน ท่านไปไม่บอกจากหลายวัน กลายเป็นสัปดาห์ จนนานเป็นเดือน พ่อก็ไม่ติดต่อผมมา จนกระทั่งแม่ผมหนีออกจากบ้านไปอีกคน ตอนนั้นผมเพิ่งอายุ  7 ขวบ น้องสาวที่เพิ่ง 2 ขวบและพี่สาววัย 11 ปี ต้องอยู่กับปู่และย่าที่อายุท่านห้าสิบปลายๆแล้ว ผมโกรธพ่อที่ออกไปไม่เคยบอก จนทำให้แม่ต้องหนีออกบ้านและทิ้งผมไป ผมไม่พูดถึงพ่ออีกหลังจากที่แม่หนีออกบ้านไป จนกระทั่งระยะเกือบปีเท่าที่จำได้ มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาที่บ้าน จดหมายฉบับนั้นถูกส่งมาจากภายในตัวจังหวัด และเมื่อพี่สาวอ่านก็รู้ทันทีว่านั่นคือจดหมายของพ่อ ในยุคที่เทคโนโลยีก็ทันสมัย เรามีโทรศัพท์กันแต่ทำไมพ่อถึงเขียนจดหมาย ในความเด็กของผมจึงคิดว่าโทรศัพท์ของพ่อพัง พ่อเลยต้องเขียนจดหมายแทน และจดหมายฉบับนั้นทำให้ผมลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เคยโกรธพ่อ ผมดีใจจนร้องไห้เลยก็ว่าได้ครับ แต่หลังจากที่พ่อออกจากบ้านไปเกือบครบปี ปู่ของผมก็เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ในตอนนั้นผมเสียใจมากแต่อีกหนึ่งก็ดีใจเพราะรู้ว่าปู่เสีย พ่อต้องกลับบ้านมาแน่นอน ไม่มีลูกคนไหนที่ไม่กลับบ้านมางานศพพ่อของตัวเองหรอกครับ แต่สุดท้ายใครจะไปคิดว่างานศพนั้นไร้ซึ่งเงาของพ่อผมโดยสิ้นเชิง "ทำไมพ่อไม่มา" "หรือพ่อก็ทิ้งพวกเราไปเหมือนแม่" ผมได้แต่ตั้งคำถามที่คงไม่มีวันได้คำตอบนั้น เวลาผ่านไปพ่อเขียนจดหมายมาให้เดือนละฉบับ แต่ละฉบับไม่เคยอยู่ที่ไหนไกลนอกจากภายในตัวจังหวัด พี่สาวผมเป็นคนอ่านจดหมายนั้นตลอดผมถึงรู้แค่ว่ามันถูกส่งมาจากภายในจังหวัด และจนกระทั่งเรื่องที่พ่อผมออกจากบ้านไปถูกพี่สาวเฉลยขึ้น ว่าจริงๆพ่อไม่ได้หนีผมไปแต่พ่อผมติดคุก และที่แม่ผมต้องออกจากบ้านหลังนี้ไปคือการขอโทษที่ดีที่สุดของแม่ผม "พ่อผมติดคุกเพราะรับโทษแทนแม่" นั่นคือสิ่งที่ผมรู้หลังจากที่เรื่องยาวนานเกือบ 2 ปี ผมโกรธพ่อไม่ลง  และรู้สึกผิดที่ตัวเองเคยโกรธพ่อมากถึงขนาดนั้น ทำไมเพราะแค่การกระทำของแม่ถึงทำให้ผมไม่ได้เจอพ่ออีก พี่บอกผมว่าให้ทนอีกแค่สองปี พ่อก็จะได้ออกมาแล้ว ผมทนแล้วทนเล่า ในตอนนั้นระยะเวลาสองปีมันช้ามาก กว่าแต่ละวันจะผ่านไปได้ จนผมอายุ 9 ปี  พี่เรียกผมและน้องให้ตื่นโดยไม่บอกว่าจะไปไหน เราแต่งตัวในชุดธรรมดาและขึ้นรถออกจากบ้านตอนตี 5 ผมจำได้ว่าเรานั่งรถอยู่กัน 2 ชั่วโมงก่อนจะถึงที่นั่น ผมคิดว่าพี่พาผมมาเที่ยว แต่ทำไมตำรวจถึงเยอะจนเวลาประมาณ 8 โมงมีเสียงจากไมค์ประกาศเรียกชื่อของพ่อและพี่สาวของผม เราเข้าไปในตัวอาคารและมีโทรศัพท์วางอยู่เป็นล็อคตามตำแหน่ง ด้านในอีกฝั่งที่ถูกกั้นด้วยกระจก มีตำรวจนั่งอยู่พี่ผมพูดแค่ว่า "15นาทีมันสั้นมาก อยากพูดอะไรก็พูด" ภาพของผู้ชายในชุดสีน้ำตาลยืนอยู่ตรงหน้า ผมจำได้ทันทีนั่นคือพ่อของผม เราไม่ได้เจอกันเกือบสองปี พ่อยังเป็นเหมือนเดิม ยังดูแข็งแรง สดใส และยิ้มให้ผมเหมือนที่เคยยิ้มให้ ผมคุยกับพ่อสามพี่ร้องผลัดกันคุยจนเป็นเวลา 15 นาที นั่นเป็น 15 นาทีที่เหมือน 3 นาทีมากของผม หลังจากนั้นผมตั้งใจรอพฤหัสต่อไปของอีกเดือน เพราะพี่บอกไว้ว่า ถ้าทำตัวดีเดือนหน้าจะพามาอีก หลังจากนั้นในทุกๆเดือนผมจะมาเจอพ่อทุกครั้ง ต่อให้ต้องตื่นเช้าแค่ไหนก็ไม่หวั่นเลยครับ 555 เวลาผ่านไปเกือบสองปี ช่วงนั้นโควิดระบาดทำให้ผมไม่ได้ไปเยี่ยมพ่อเลย เราได้แค่เขียนจดหมายหากันตลอด จน 4 มกราคม 2564 ผมกลับจากโรงเรียนตามปกติ เห็นพี่สาวกำลังนั่งคุยกับใครสักคนอยู่หลังบ้าน ผมเดินเข้าไปใกล้ๆและได้รู้ว่า นั่นคือพ่อ พ่อกลับมาแล้ว ผมดีใจจนร้องไห้น้ำตาลูกผู้ชายอะไรผมไม่สน เพราะตอนนี้ผมได้กอดพ่ออีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้กอดมานานหลายปี ตอนนั้นผมอายุ 11 ปีแล้วครับ หลังจากที่พ่อออกมาได้ไม่นานพ่อก็ต้องไปทำงานตจว.กับคนรู้จัก พ่อทำงานอะไรไม่ค่อยได้เพราะมีคดีติดตัวไปแล้ว จึงต้องทำในสิ่งที่พอจะทำได้ โชคดีที่ตอนนั้นมีโควิด และโรงเรียนให้เรียนออนไลน์ ผมจึงได้ไปกับพ่อ ไปทำงานด้วยกันและใช้เวลากับพ่อเยอะมากครับ เราทำทุกอย่างด้วยกัน แบบที่พ่อเคยทำให้ผม ผมได้หัวเราะกับพ่อ ได้กินของที่อยากกิน ซื้อของที่อยากซื้อ พ่อสอนผมในเรื่องราวต่างๆมากมาย เล่าเรื่องข้างในของพ่อที่พ่อเจอ ผลัดกับผมที่เล่าเรื่องข้างนอกให้ฟัง ผมดีใจที่ได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อ แต่ความสุขก็อยู่จนเดียว เมื่อโรงเรียนให้กลับไปเรียนปกติ และพ่อที่ต้องไปทำงานตจว.นานเรื่อยๆ จากกลับบ้านเดือนละครั้ง เป็นสองเดือน สามเดือน จนครึ่งปี เป็นแบบนี้เรื่อยๆ แต่อย่างน้อยผมว่ามันก็ดีที่เราได้คุยกันอยู่เสมอ ได้เจอ ได้กอด ได้คุยด้วยกัน ทุกครั้งที่พ่อกลับมาก็จะใช้เวลาอยู่กับผมและพี่ๆน้องๆ พ่อมักจะนอนดึกเพราะรอพี่สาวนอนก่อน พี่สาวผมโตแล้ว อายุ 16 ปีอยู่ม.5 ด้วยความโตของพี่ทำให้เริ่มชอบอยู่คนเดียว แต่พ่อก็คือพ่อ พ่อรู้ว่าพี่ชอบอยู่คนเดียว ก็ให้อิสระพี่แต่ทุกวันจะออกไปข้างนอก ซื้อขนมของกินเล่นมาให้พี่ เพื่อที่เวลาตรงนั้นจะได้คุยกับพี่ได้ พ่อเป็นที่ปรึกษาที่ดีของพี่และผม เป็นทั้งพ่อ แม่และเพื่อนให้ผมกับพี่ เราใช้เวลาตรงนั้นอยู่ด้วยกันทุกครั้ง จนพ่อกลับไปทำงานอีกแบบนี้วนมาเรื่อยๆเป็นเวลา 2 ปีกว่า ครั้งนี้พ่อกลับไปทำงานอีกทุกครั้งที่พ่อกลับไปผมกับพี่และน้องจะถูกเรียกให้ตื่นตอนตี 4 เพื่อออกมาส่งพ่อ เรากอดลากันแบบนั้นทุกครั้งและดูรถที่แล่นออกไปจนลับสายตา พ่อกลับไปทำงานอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เวลาที่พ่อไปนานถึง 8 เดือนเราคุยกันบ้างที่พ่อหรือผมโทรหากัน เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อวัน 19 พ.ย 66 พ่อเกิดอุบัติเหตุ และหมอช่วยไว้ไม่ทัน เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่า โลกของใบของผมพังลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม ไม่มีทางกลับมาเหมือนอย่างเดิม เพราะคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโลกของผม ไม่มีทางหันกลับมาหาผมได้อีกครั้ง เราจากกันครั้งนี้โดยไม่ได้แม้แต่จะบอกลา อีกไม่ถึงเดือนพ่อก็จะกลับมาแล้ว ผมไม่น่าขอให้พ่อกลับมาไวๆเลย ผมน่าจะรอ ใครจะรู้ว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของพ่อ คือการจากไปไม่หวนกลับ เราสูญเสียเสาหลักของบ้าน เราสูญเสียโลกทั้งใบของเรา ผมกับพี่และน้อง กลายเป็นเด็กที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ งานศพพ่อไม่มีแม้แต่เงาของแม่ของเรา ผมจึงได้มารู้ทีหลังว่าพ่อเป็นโรหัวใจและความดัน แต่ไม่ยอมรักษาตัวเองเพราะไม่อยากให้ผมกับพี่รู้ว่าพ่อป่วยอยู่ ทำให้การที่พ่อทำอะไรหนักเกินไปพ่อจะไม่มีแรงแฃะอ่อนตัวลง ในภาพทุกครั้งที่เราคุยกัน พ่อดูแข็งแรง เหมือนคนปกติทั่วไป เราไม่ทันได้สังเกตุ พอกว่าจะรู้เรากลับแก้ไขอะไรไม่ได้ เราเสียคนที่รักเราไป เสียไปทั้งหมด และเรื่องนี้ทำใผ้ผมรู้ว่า ถ้าย้อนเวลาไปได้ผมจะรักพ่อให้ได้มากกว่านั้น จะไม่โกรธที่พ่อหายไป จะบอกรักพ่อให้บ่อยกว่าที่เคย  อ่านมาถึงตรงนี้มีใครท้อใจไปบ้างครับที่มันแอบยาวนิดหน่อย แต่นั่นแหละครับผมจึงอยากบอกใครหลายคนที่ยังมีพ่ออยู่ ใช้ชีวิตของคุณกับพ่อให้บ่อยๆนะครับ บอกรักท่านบ่อยๆ กอดหอมท่านบ่อยๆ ท่านรอให้เราเข้าหาทุกเสมอ และพร้อมมอบกอดที่อบอุ่นที่สุดในเราทุกครั้ง อยู่และใช้เวลากับท่านให้มากๆ อย่าให้มันต้องสายเหมือนผมเลยครับ ขอบคุณใครก็ตามที่อ่านมาถึงตรงนี้ ผมเปิดกระทู้เพื่อมาเขียนข้อความนี้จากใจครับ ขอบคุณทุกคนนะครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่