เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 66 มีชาวเน็ตจีนรายหนึ่งเปิดภาพที่ระบุว่าเป็น Oppo Find X7 เผยให้เห็นลักษณะภายนอกที่โดดเด่น พร้อมคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในจีนอย่างเป็นทางการช่วงเดือนมกราคมนี้
ทว่าล่าสุด Oppo ประกาศเปิดตัว Oppo Find X7 ซีรีส์แล้วเป็นที่เรียบร้อย มาด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ Oppo Find X7 และ Oppo Find X7 Ultra โดยนอกจากสีแล้ว ทั้งสองรุ่นยังมีจุดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
Oppo Find X7
เริ่มจาก Oppo Find X7 มาพร้อมจอโค้งแบบ LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความละเอียดระดับ FHD+ หรือ 2780×1264 พิกเซล ความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 4,500 นิต ใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 กันกระแทกกันรอยขีดข่วน และมีเซ็นเซอร์รองรับการสแกนนิ้วใต้จอด้วย
ตัวเครื่องมี 4 สีด้วยกัน โดยสองสีแรกอย่าง สีน้ำเงิน-ขาว The Sea and the Sky และสีน้ำตาล-ขาว Desert Silver Moon จะใช้วัสดุกระจกร่วมกับวัสดุหนังวีแกน ส่วนสีม่วง Smoky Purple และสีดำ Starry Sky Black จะเป็นวัสดุกระจกล้วน
ด้านขุมพลัง Oppo Find X7 มาพร้อมชิปเซ็ตล่าสุดจาก MediaTek อย่าง Dimensity 9300 มาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนง่าย ใช้ความจุ RAM แบบ LPDDR5x และ ROM แบบ UFS 4.0 ขับเคลื่อนด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 14 มีฟีเจอร์ที่ใช้ Generative AI ทำงานมากมาย เช่น การตัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่าย หรือ AI Call Summary ที่ช่วยถอดสคริปต์ สรุปประเด็นการสนทนาผ่านโทรศัพท์ เป็นต้น
Oppo Find X7 มีกรอบกล้องแบบวงแหวน ถูกออกแบบมาให้มีสไตล์คล้ายหน้าปัดนาฬิกา ได้ร่วมมือกับ Hasselblad แบรนด์กล้องดังจากสวีเดน กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYTIA LYT808 รูรับแสง f/1.6 พร้อมระบบกันสั่น OIS
ส่วนกล้องเซลฟี่มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT506 รองรับระบบ Autofocus มีโหมดกันสั่น EIS และมีฟีเจอร์การถ่ายภาพพาโนรามาด้วย
ในส่วนของความอึด Oppo Find X7 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 100W รองรับ USB-C 2.0 สามารถชาร์จจาก 1-100% ใช้เวลาเพียง 26 นาทีเท่านั้น และยังสามารถชาร์จในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่พกว่า -20 องศาได้ด้วย
Oppo Find X7 มาพร้อม 4 ราคาให้เลือกซื้อกัน ได้แก่
12GB+256GB ราคา 3,999 หยวน (ราว 20,000 บาท)
16GB+256GB ราคา 4,299 หยวน (ราว 21,500 บาท)
16GB+512GB (เฉพาะสี The Sea and the Sky และ Desert Silver Moon) ราคา 4,599 หยวน (ราว 23,000 บาท)
16GB+1TB (เฉพาะสี The Sea and the Sky และ Desert Silver Moon) ราคา 4,999 หยวน ( ราว 25,000 บาท)
ด้านขุมพลัง ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ตัวท็อปรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ใช้ความจุ RAM แบบ LPDDR5x และความจุ ROM แบบ UFS 4.0 มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในยานอวกาศขนาด 7,930 ตารางมิลลิเมตร
กล้องหลังของ Oppo Find X7 Ultra จะมีอยู่ 4 ตัวด้วยกัน โดยกล้องหลักจะมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และยังมาพร้อมกล้องซูมแบบ Periscope 2 ตัว ทั้งสองตัวมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล โดยตัวแรกมีรูรับแสง f/2.6 ขนาด 65 มม. ซูมแบบออปติคัลได้ 2.8 เท่า ตัวที่สองมีรูรับแสง f/4.3 ขนาด 135 มม. ซูมแบบออปติคัลได้ 6 เท่า
ตัวเครื่องมี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีน้ำเงิน-ขาว The Sea and the Sky สีน้ำตาล-ขาว Desert Silver Moon และสีดำ Pine Shadow โดยสีน้ำเงิน-ขาวและสีน้ำตาล-ขาว จะใช้วัสดุกระจกกับวัสดุหนังวีแกน ส่วนสีดำ จะใช้วัสดุกระจกด้าน ตัดกับหนังวีแกนแบบพรีเมียมที่มีการเย็บลวดลายฝีเข็มให้เห็นอย่างสวยงาม

ด้านขุมพลัง ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ตัวท็อปรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ใช้ความจุ RAM แบบ LPDDR5x และความจุ ROM แบบ UFS 4.0 มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในยานอวกาศขนาด 7,930 ตารางมิลลิเมตร
ส่วนกล้องตัวที่สี่จะเป็นกล้อง Ultra-wide เซ็นเซอร์ LYT-600 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา และยังรองรับการถ่าย Macro ที่ระยะ 4 ซม. ด้วย ในขณะที่กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
ในส่วนของความอึดแบตเตอรี่ จะอยู่ที่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 100W และรองรับ USB-C 2.0 เช่นเดียวกัน
Oppo Find X7 Ultra มาพร้อม 3 ราคาให้เลือกซื้อกัน ได้แก่
12GB+256GB ราคา 5,999 หยวน (ราว 30,000 บาท)
16GB+256GB ราคา 6,499 หยวน (ราว 32,500 บาท)
16GB+512GB ราคา 6,999 หยวน (ราว 35,000 บาท)
โดยทั้ง Oppo Find X7 และ Oppo Find X7 Ultra จะวางจำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น ส่วนการวางจำหน่ายในระดับ Global ยังต้องรอลุ้นกันต่อไป

CR. PPTVHD36