ข้างบ้านบอกว่าเราอิจฉา

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าอะไรให้ฟังสักหน่อย

เราซื้ออาคารพาณิชย์ ติดถนนหลักทางเข้าและออก ณ โครงการหมู่บ้านแห่งนึง เพื่อไว้ใช้ทำเป็นร้านเบเกอรี่ และ ขายของ ปัจจุบันขายมาแล้ว 1 ปี กำลังเข้าปีที่ 2 แล้ว พอมีอยู่วันนึง ข้างๆบ้านที่เป็นอาคารพาณิชย์ที่ว่างและยังไม่มีคนมาเช่า ได้มีผู้เข้ามาเช่าอาศัย ซึ่งช่วงแรก เขาพูดดีกับเรานะ พูดด้วยน้ำเสียงดี และ เขาบอกว่า แนะนำกันได้ เขาอยากจะมาขายข้าวแกง  การที่เขามาเช่า เพราะเขามองว่า ร้านเราเป็นที่ดึงดูดลูกค้าละมั้ง หรือไม่ก็ ติดกับถนนหลักเข้าออก

   อยู่มาวันนึง เขามีการจัดร้าน และตั้งป้าย ซื้อตอนแรกเขาขายลูกชิ้น และป้าย มันบังร้านเขา ทางเราก็แนะนำไปว่า ระวังป้ายจะบังร้านตัวเอง เราก็หวังดีในมุมของเรา กลัวลูกค้าที่ผ่านไปมา จะมองไม่เห็นร้านเขา กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่เราบอกไปทำให้เขารู้สึกไปดี มามองว่า ป้ายเขาบังร้านเรา ซึ่งเราของเรา เรามีป้ายที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว แต่ร้านของเขามันจะบังไม่ให้ลูกค้าเห็นหรือเปล่า (เราก็หวังดีไง // อันนี้คือเรื่องแรกที่เขาเริ่มไม่ชอบเรา)  ต่อมาอีกหลายๆวันหลายๆอาทิตย์ เรามีการเก็บร้าน ล้างทำความสะอาดหน้าบ้าน มีพวกเศษใบไม้ที่ปลิวมา เราก็กวาดตามปกติ พอถึงช่วงที่ร้านเขามากวาดใบไม้ แฟนเขาที่เป็นผู้ชาย มาโยนใบไม้ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใบไม้จากไหนมา แล้วบอกกับทางเราว่า ระวังเรื่องใบไม้ปลิวหน่อยถ้ากวาด มันไปฝั่งบ้านเขา (เราก็แบบห้ะะ ใบไม้อิหยัง) เราพยายามไม่วุ่นวายกับใครเลย เพราะเรากลัวเรื่องพวกนี้แหละ ที่จะมามีปัญหากัน ซึ่งมันเริ่มจะมีแล้ว

ผ่านไปเกือบเดือน เหมือนเราเขาจะขายไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีลูกค้า และดูเหมือนว่าเขาจะไปกู้เงินนอกระบบกับพวกบังมาด้วย มีแต่พวกบังมาทวงหนี้เต็มไปหมด ซึ่งลูกค้าที่ผ่านๆหน้าร้านเราและมาซื้อของบอกว่า อย่าไปสนิทกับเขามากนะ เพราะว่าเขาหนีหนี้มา ทั้งวงแชร์ ต่างๆ เที่ยวเล่นไปยืมเงินคนอื่นไปทั่ว ซึ่งตอนแรกเรายังไม่เชื่อนะ แต่ลูกค้าหลายๆคนมาบอกเราเยอะพอสมควรเลย บวกกับว่า ภาพที่เราเห็นตอนที่มีคนมาทางเงินเนี่ย น่าจะเป็นเรื่องจริงแหละ

และนานวันเขา เขามาหาว่าเราไปโยนอะไรไม่รู้ใส่ฝั่งบ้านเขา ซึ่งเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย ในหมู่บ้านนี้ก็มีหมาจรเหมือนกัน ไม่คิดว่ามันจะคาบอะไรไปไว้บ้านคุณบ้างหรือโทษแต่ฝั่งเรา วันนั้นเป็นวันที่มีปากเสียงกันแรงมาก และตอนที่มีปากเสียงกัน เหมือนเขาจะตบแม่แฟนผมด้วย แม่แฟนผมไม่ยอมคนอยู่แล้วถ้าเขาไม่ผิด (แม่แฟนผมอยู่ที่ร้านพอดี) เขาบอกว่า แฟนเขาเนี่ยเป็น ตำรวจพระราชวัง เครื่องแบบก็อยู่ในบ้าน แต่ที่ออกมาเพราะนั้นนี้โน้นอะไรไม่รู้แหละ (เหมือนพยายามจะบัฟ จะข่มเรา เพื่อจะให้เรากลัว) แต่เขาไม่รู้ว่า ครอบครัวแฟนผม เป็นครอบครัวตำรวจ ซึ่งพ่อแฟนผม เป็นอดีตรองสารวัตร ที่จังหวัดกาญ แม่แฟนผมเลยบอกว่าไปว่า ครอบครัวเราก็เป็นครอบครัวตำรวจ สามีเป็นตำรวจ ซึ่งตอนนั้นแม่แฟนผมไม่มีความกลัวอะไรเลย เพราะทุกอย่างที่แม่แฟนผมพูดใส่คืนเขาไปนั้น เป็นความจริงทุกอย่าง แต่ทางคุณที่เป็นข้างบ้าน เหมือนจะเป็นตำรวจพระราชวังจริงหรือเปล่า ทำไมถึงออกมาข้างนอกได้ แล้วทำไมไม่ถูกเรียกตัว ถูกปลดประจำการเหรอ (อันนี้คือสงสัยจริง) พอเขาได้ยินที่แม่แฟนผมพูดไปแบบคอมโบชุดใหญ่ เหมือนเขาแบบชะงัก และแฟนเขาที่เป็นผู้หญิงพูดว่า เห็นไหมบอกแล้วอย่าไปพูดๆๆๆ ทางผู้ชายรีบเข้าไปห้ามเพราะเขาเหมือนอยากจะมีเรื่องกับทางเราจริงๆ และก็จบด้วยอารมณ์ที่ค้างๆแบบนั้น สักพักนึงพอแม่แฟนผมออกมาทำอะไรสักอย่างที่หน้าร้าน เขา(ผู้ชาย)เดินมาบอกและขอโทษเรื่องตะกี้ เขาบอกว่า ช่วงนี้เขาแย่ อย่าไปรังแกเขาเลย (คำถาม เราไปรังแกอะไร?) หลังจากนั้นเราก็เลี่ยงที่จะไม่ยุ่งกับเขาเลย ต่างคนต่างอยู่จนถึงทุกวันนี้ 

  เราแปลกใจที่ว่า ตอนคุณมาทำสัญญาเช่ากับผู้ซื้อ คุณพูดดีกับเรามาก อ้อมน้อมมากๆ และให้เราแนะนำเรื่องการค้าขายให้ 
พอมาถึงทุกวันนี้เหมือนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย คุณพยายามดิสเครดิตร้านเรา บอกกับคนอื่นที่รู้จักว่า ร้านเราเนี่ยอิจฉาที่มีคนมาขายของใกล้ๆ กลัวว่าจะโดนแย่งลูกค้า กลัวจะขายดีกว่า คำถามคือ เราจะไปอิจฉาคุณทำไม ร้านคุณขายลูกชิ้น ไก่ย่าง ส้มตำ ร้านเราทำเบเกอรี่ ซึ่งมันคนละเมนูและคนละแบบเลย ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปอิจฉา 

เพื่อนๆคิดว่า เราควรจะวางตัวยังไงกับคนประเภทนี้ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่