
6 ม.ค. 2567 - 17:55 น.
สาวโบ้ยปู่ป้อนข้าวเหนียวทำติดคอดับ อ้างตกใจกลัวความผิด เรียกผัวห่อศพเด็กชาย 2 ขวบยัดตู้เย็น หนุ่มพ่อตัวจริงโผล่ร่ำไห้เสียใจ เปิดปม ยกลูกให้เพื่อนเลี้ยง
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ม.ค.2567 พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีพบศพเด็กชายวัย 2 ขวบ ถูกห่อผ้ายัดศพไว้ในตู้เย็นบ้านพัก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยพบว่า นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย สามี-ภรรยา เป็นพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง รับเด็กมาดูแลจากเพื่อน
พล.ต.ต.ปรารถนา เปิดเผยหลังสอบปากคำ นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย ว่าผู้ต้องหาอ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตเพราะสำลักข้าวเหนียวที่ปู่อู๊ดเป็นคนป้อนให้ สาเหตุที่ไม่กล้าแจ้งความหรือนำน้องส่งรพ.ทันทีเพราะกลัวความผิด จากคำให้การยังอ้างว่า น้องเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมาปล่อยศพทิ้งไว้ในห้องนอนจนกระทั่งเริ่มมีกลิ่นจึงตัดสินใจช่วยกันห่อร่างเด็กก่อนนำไปยัดใส่ไว้ในตู้เย็น วันที่ 4 ม.ค. นอกจากนี้นายแบงค์ยังยอมรับว่าเคยลงมือทำร้ายน้องจริงเนื่องจากเด็กดื้อและไม่เชื่อฟัง

“แต่อย่างไรก็ตามคำให้การทั้งหมด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากต้องรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ จากรพ.ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อยืนยันว่าในกระเพาะอาหารของน้องนายมีข้าวเหนียวหรือไม่ เบื้องต้นตำรวจแจ้งดำเนินคดีพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ข้อหาไม่แจ้งสาเหตุการเสียชีวิตและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ”
ขณะที่นายนพรัตน์ อายุ 29 ปี พ่อแท้ๆเปิดใจทั้งน้ำตา ว่ารู้จักกับนายแบงค์ผ่านทางเพื่อนอีกคน ตอนนั้นตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพราะเลิกกับภรรยาจึงต้องทำงานเลี้ยงลูกไม่ค่อยมีเวลาดูแลปล่อยให้อยู่ตามลำพัง จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนก่อนนายแบงค์ กับ น.ส.ก้อย มาขอลูกไปเลี้ยงก็ให้เขาเพราะเห็นว่าเป็นคนรักเด็ก ช่วงที่ทั้งคู่นำลูกไปเลี้ยงดูตนก็โอนเงินให้นายแบงค์ตลอด วันละ 500 บาททุกวันเป็นค่ากินค่าใช้จ่าย

เรื่องที่ทั้งคู่อ้างว่า ไปเก็บลูกผมมาเลี้ยงเพราะปล่อยปะให้ลูกอยู่ในกรงหมา หรือปล่อยให้เห็บหมัดขึ้นเต็มหัวนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะผมเลี้ยงลูกในห้องนอนด้วยกันตลอด ยอมรับว่าส่วนตัวก็ไม่ได้สนิทกับสามีภรรยาคู่นี้มากนัก ครั้งล่าสุดที่เจอลูกสิ้นเดือน ธ.ค.2566 ตอนนั้นยังไม่เห็นมีร่องรอยถูกทำร้ายอะไร ปกติเขาจะถ่ายรูปลูกส่งให้ดูอยู่ตลอด แต่ช่วงสิ้นปีเริ่มบ่ายเบี่ยงไม่ถ่ายรูปลูกหรือให้ตนคุยโทรศัพท์กับลูก อ้างว่าพาไปเที่ยวบ้านแม่เขาที่ต่างจังหวัด

นายนพรัตน์ บอกด้วยว่า สาเหตุการเสียชีวิตที่เขาบอกว่าข้าวเหนียวติดคอนั้น ไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาตนก็เคยป้อนข้าวเหนียวให้ลูกกิน ลูกก็กินได้หมดไม่มีติดคออะไร เขาเลี้ยงง่ายกินได้หมดทุกอย่าง คิดว่าลูกถูกฆ่ามากกว่า พอจะรู้ว่านายแบงค์มีพฤติกรรมอารมณ์ร้อนรุนแรง แต่ที่ยกลูกให้ไปเพราะเห็นว่าแฟนนายแบงค์เป็นคนเลี้ยงเองจึงน่าจะปลอดภัย

” เมื่อคืนนี้เขายังบอกว่าจะพาลูกไปเที่ยวที่เกาะล้าน ผมยังโอนเงินเพิ่มให้ไปอีก 300 บาท ตอนนี้คิดถึงลูกมาก อยากบอกลูกว่า ผมรักเขา ส่วนนายแบงค์ถ้าเป็นคนทำผิดก็ยอมรับผิด ผมให้อภัยได้เพราะมันพลาดไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ขอให้พูดความจริงออกมา ”
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8040306
คดีศพ2ขวบยัดตู้เย็น! โบ้ยปู่ตาบอดป้อนข้าวเหนียวติดคอ พ่อตัวจริงโผล่เปิดปมยกลูกให้เพื่อน
6 ม.ค. 2567 - 17:55 น.
สาวโบ้ยปู่ป้อนข้าวเหนียวทำติดคอดับ อ้างตกใจกลัวความผิด เรียกผัวห่อศพเด็กชาย 2 ขวบยัดตู้เย็น หนุ่มพ่อตัวจริงโผล่ร่ำไห้เสียใจ เปิดปม ยกลูกให้เพื่อนเลี้ยง
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ม.ค.2567 พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีพบศพเด็กชายวัย 2 ขวบ ถูกห่อผ้ายัดศพไว้ในตู้เย็นบ้านพัก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยพบว่า นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย สามี-ภรรยา เป็นพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง รับเด็กมาดูแลจากเพื่อน
พล.ต.ต.ปรารถนา เปิดเผยหลังสอบปากคำ นายแบงค์ และ น.ส.ก้อย ว่าผู้ต้องหาอ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตเพราะสำลักข้าวเหนียวที่ปู่อู๊ดเป็นคนป้อนให้ สาเหตุที่ไม่กล้าแจ้งความหรือนำน้องส่งรพ.ทันทีเพราะกลัวความผิด จากคำให้การยังอ้างว่า น้องเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมาปล่อยศพทิ้งไว้ในห้องนอนจนกระทั่งเริ่มมีกลิ่นจึงตัดสินใจช่วยกันห่อร่างเด็กก่อนนำไปยัดใส่ไว้ในตู้เย็น วันที่ 4 ม.ค. นอกจากนี้นายแบงค์ยังยอมรับว่าเคยลงมือทำร้ายน้องจริงเนื่องจากเด็กดื้อและไม่เชื่อฟัง
“แต่อย่างไรก็ตามคำให้การทั้งหมด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากต้องรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ จากรพ.ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อยืนยันว่าในกระเพาะอาหารของน้องนายมีข้าวเหนียวหรือไม่ เบื้องต้นตำรวจแจ้งดำเนินคดีพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ข้อหาไม่แจ้งสาเหตุการเสียชีวิตและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ”
ขณะที่นายนพรัตน์ อายุ 29 ปี พ่อแท้ๆเปิดใจทั้งน้ำตา ว่ารู้จักกับนายแบงค์ผ่านทางเพื่อนอีกคน ตอนนั้นตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพราะเลิกกับภรรยาจึงต้องทำงานเลี้ยงลูกไม่ค่อยมีเวลาดูแลปล่อยให้อยู่ตามลำพัง จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนก่อนนายแบงค์ กับ น.ส.ก้อย มาขอลูกไปเลี้ยงก็ให้เขาเพราะเห็นว่าเป็นคนรักเด็ก ช่วงที่ทั้งคู่นำลูกไปเลี้ยงดูตนก็โอนเงินให้นายแบงค์ตลอด วันละ 500 บาททุกวันเป็นค่ากินค่าใช้จ่าย
เรื่องที่ทั้งคู่อ้างว่า ไปเก็บลูกผมมาเลี้ยงเพราะปล่อยปะให้ลูกอยู่ในกรงหมา หรือปล่อยให้เห็บหมัดขึ้นเต็มหัวนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะผมเลี้ยงลูกในห้องนอนด้วยกันตลอด ยอมรับว่าส่วนตัวก็ไม่ได้สนิทกับสามีภรรยาคู่นี้มากนัก ครั้งล่าสุดที่เจอลูกสิ้นเดือน ธ.ค.2566 ตอนนั้นยังไม่เห็นมีร่องรอยถูกทำร้ายอะไร ปกติเขาจะถ่ายรูปลูกส่งให้ดูอยู่ตลอด แต่ช่วงสิ้นปีเริ่มบ่ายเบี่ยงไม่ถ่ายรูปลูกหรือให้ตนคุยโทรศัพท์กับลูก อ้างว่าพาไปเที่ยวบ้านแม่เขาที่ต่างจังหวัด
นายนพรัตน์ บอกด้วยว่า สาเหตุการเสียชีวิตที่เขาบอกว่าข้าวเหนียวติดคอนั้น ไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาตนก็เคยป้อนข้าวเหนียวให้ลูกกิน ลูกก็กินได้หมดไม่มีติดคออะไร เขาเลี้ยงง่ายกินได้หมดทุกอย่าง คิดว่าลูกถูกฆ่ามากกว่า พอจะรู้ว่านายแบงค์มีพฤติกรรมอารมณ์ร้อนรุนแรง แต่ที่ยกลูกให้ไปเพราะเห็นว่าแฟนนายแบงค์เป็นคนเลี้ยงเองจึงน่าจะปลอดภัย
” เมื่อคืนนี้เขายังบอกว่าจะพาลูกไปเที่ยวที่เกาะล้าน ผมยังโอนเงินเพิ่มให้ไปอีก 300 บาท ตอนนี้คิดถึงลูกมาก อยากบอกลูกว่า ผมรักเขา ส่วนนายแบงค์ถ้าเป็นคนทำผิดก็ยอมรับผิด ผมให้อภัยได้เพราะมันพลาดไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ขอให้พูดความจริงออกมา ”
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8040306