แก้ปีชง

กระทู้สนทนา
Credit: วิโรจน์ ตั้งวานิชย์

♑️วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีนกล่าวว่า ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ไม่เคยได้ยินเรื่องการต้องไปแก้ชง พวกที่วันนี้อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เชื่อว่าจะไม่เคยได้ยินเช่นกัน

ตอนเด็กๆ ถ้าปีไหนชง ก็ทำกันเองในบ้านเล็กๆ น้อยๆ คุณแม่คุณยายทำให้ พอเป็นขวัญกำลังใจเด็ก แต่ปัจจุบันการแก้ชงกลายเป็นสายการผลิต เป็นโปรดักชั่นไลน์ ตอนเด็กๆ ไม่เคยดิ้นรนว่าต้องแก้ชง แต่เดี๋ยวนี้เป็นคนละเรื่อง

“ก็น่าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไทย เป็นเรื่องที่คนไทยต้องถามตัวเอง เหมือนกับภูเก็ตที่ต้องกินเจ กลายเป็นกินเจแฟชั่น กินเจเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว การแก้ชงก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้แก้ชงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หลายเจ้าหลายสำนัก กลายเป็นพิธีพาณิชย์ เพื่อขายของแก้ชงกันแบบผลิตไม่ทัน”

วิโรจน์ กล่าวอีกว่า การแก้ชงในทุกวันนี้กลายเป็นพิธีเพื่อหวังผล ที่ดูน่ากลัวในมุมที่ว่า คนเราห่างจากศาสนาไปทุกที เข้าข่ายน่าเคลือบแคลง น่าสงสัย ต้องตั้งคำถามถามกันเองว่า แก้ชงแล้วได้ผลหรือไม่ ได้ผลจริงหรือ ทำไมช่างมหัศจรรย์จังเลย แย่งสามีชาวบ้านเสร็จแล้วทำพิธีแก้ชง พูดปดมาตลอดทั้งปีแล้วแก้ชง แก้แล้วก็หายกันอย่างนั้นหรือ ขัดกับหลักพระพุทธศาสนามาก

“ศาสนาพุทธสอนให้เราเชื่อในกฎแห่งกรรม คือการกระทำ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กงเกวียนกำเกวียน พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้หมดแล้ว แต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ชีวิตคนมีดีแล้วก็มีชั่ว ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนเป็นของจริง ดอกไม้ไม่แดงทั้งร้อยวัน ดอกไม้ที่แดงร้อยวันคือดอกไม้พลาสติก บางปีดีก็เสวยบุญ ปีไหนไม่ดีก็เสวยวิบากไปซิ กลัวอะไรกับชีวิต”

เรื่องแก้ชงต้องตั้งสติกันใหม่ เพราะ 1.การแก้ชงไม่ได้ให้ผลทันตา ไม่ใช่คทาวิเศษที่โบกให้ซวยไปเฮงมาได้ในบัดดล

2.ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยึดในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็เมื่อหนึ่งในหลักยึดคือศาสนา พระพุทธเจ้าก็ทรงสั่งสอนไว้แล้วในเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะฉะนั้นก็เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี พูดดี ทำดี คิดดี เชื่อมั่น ก็ไม่ต้องไปแก้ชง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่