ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 34
(ต่อค่ะ ^^)
ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับกำลังใจ มีแต่คนพูดถึงปลาคราฟ มาค่ะ ส่งมาให้ดูอีกหนึ่งภาพ
:

สรุปว่างานหนังสือเด็กเล่มดังกล่าวมันเป็นตัวผลักดันให้เราค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการวาดภาพประกอบหนังสือเด็กในแง่มุมต่างๆ มากมาย รวมถึงทฤษฎีสีและสไตล์วาดรูปของนักวาดท่านอื่นๆ (ตอนนั้นดูงานวาดภาพประกอบหนังสือเด็กบนไอจีทั้งวัน) illustrator แต่ละคนก็จะมีแนวสไตล์การวาดที่แตกต่างกันไป ลักษณะลายเส้น การลงสี เป็นเอกลักษณ์กันมากๆ ดูแล้วเพลิน เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจตลอดการศึกษาดูงานค่ะ ^^ อันไหนสวยถูกใจก็จะติดตามแล้วเก็บภาพไว้ศึกษาต่อไว้เป็นแนวทาง (ไม่ก็อบปี้นะคะ ^^") เรียนรู้การลงสีแสงเงาไปเรื่อยๆ
สิ่งที่เราค้นพบก็คือ การวาดแนวภาพประกอบ (โดยเฉพาะภาพประกอบหนังสือเด็ก) เค้าจะมีความยืดหยุ่นในเรื่องของสไตล์ ลายเส้น และการลงสีค่อนข้างมาก เราจะให้ตัวละครและพื้นหลังของเราเป็นอะไรยังไงโทนสีแบบไหนก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงมากนัก ไม่มีผิดถูก ไม่มีกรอบหรือข้อจำกัดมากนัก (เพราะส่วนมากนิทานเด็กมักจะเป็นเรื่องราวออกแนว magical, whimsical เหนือธรรมชาติ ตื่นเต้นน่าค้นหาและสนุกสนาน) บางคนมีไสตล์การวาดเส้นแบบเหยๆ เกๆ เส้นไม่เนี้ยบแบบตั้งใจ แล้วก็ออกมาน่ารักเป็นเอกลักษณ์ดีก็มีค่ะ ^^ ตราบเท่าที่ภาพที่วาดออกมาสามารถสื่อสารเนื้อเรื่องของหนังสือให้ตรงกับความรู้สึกของผู้แต่งเรื่องมากที่สุด ซึ่งความยืดหยุ่นนี้เองที่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นักวาดภาพประกอบสามารถคิดค้นลายเส้นและสไตล์การวาดของตัวเองขึ้นมาได้อย่างมีอิสระเต็มที่นั่นเองค่ะ
เราทำโปรเจกต์หนังสือเล่มนี้ ใช้เวลาวาดทั้งหมด 44 ภาพรวมปกอยู่ที่เกือบสองเดือนค่ะ ตลอดเวลาที่ทำมันคือการเปิดโลกแห่งการวาดภาพประกอบของเรามากๆ วาดไปเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จริงๆ ทุกภาพใหม่ที่วาดเสร็จ เราก็ได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นตลอด ข้อดีอีกอย่างของโปรเจกต์นี้คือ มันเปิดโอกาสให้เราได้สะสม portfolio ได้ดีมากๆ พอทำโปรเจคนี้เสร็จสมบูรณ์ เรามีภาพผลงานสะสมตั้ง 40 กว่าภาพเอาไว้หางานและรับงานในแนวนี้เพิ่มได้อีก เราคิดว่าตัวเองมาโชคดีตรงนี้ด้วยเพราะถือเป็นโปรเจกต์ที่ให้เรามากกว่าแค่ค่าจ้างที่เป็นตัวเงินจริงๆ (ภาพตัวอย่างงานบางส่วนจากโปรเจกต์นี้ด้านล่างค่ะ)






**หันมาวาดภาพประกอบหนังสือเด็กเป็นหลัก**
หลังจากโปรเจกต์แรกเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย เราเริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามาให้วาดภาพประกอบหนังสือเด็กเรื่อยๆ ทั้งไทยและต่างชาติค่ะ ได้มีโอกาสวาดภาพประกอบหนังสือเด็กหลายๆ เรื่อง รวมถึงหนังสือที่เราเองเป็นทั้งคนวาดและคนแต่งเรื่องด้วย (หนังสือเด็กของเราเองเล่มแรก ชื่อว่า "The Roofless Castle" มีวางจำหน่ายบน Amazon เหนื่อยแต่สนุกค่ะ ^^") ในช่วงนี้ งานวาดประเภทอื่นก็ยังรับอยู่นะคะ งานโลโก้, งานวาดประกอบแพคเกจสินค้าต่างๆ, งานวาดคอนเท้นต์ให้เพจต่างๆ ก็มีบ้าง ยังรับทำอยู่ แต่รับน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเราเริ่มรักมาทางสไตล์นี้แล้ว ข้อดีของการวาดภาพประกอบหนังสือเด็กก็คือ งานจะมาเป็นชุด คือมาพร้อมกันหลายหน้า เราก็จะได้ค่าตอบแทนมากกว่าการรับงานวาดแบบทีละภาพเดียว อย่างน้อยคือสิบหน้าขึ้นไป ซึ่งเราคิดค่าวาดต่อหน้า ส่งงานเป็นไฟล์ที่ลูกค้าต้องการ (ส่วนมาก PNG) ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีค่ะ






**การหารายได้ต่อยอดอื่นๆ **
เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เราอยากจะเพิ่มเติมในเรื่องของการหารายได้ต่อยอดอื่นๆ ต่ออีกนิดเผื่อเป็นทางเลือกและโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาดูแนวทางกันต่อไป
แน่นอนว่าการมีลูกค้าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง การสร้างสินค้าที่เป็นของเราเองขึ้นมาก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เช่นกัน แถมยังมีข้อดีตรงที่เราทำงานออกมาได้ตามที่เราเองต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำได้แบบชิวๆ ไม่ต้องเครียดว่าจะต้องเป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการเป๊ะๆ เพราะเป็นสินค้าของเราเอง แง่คิดนี้ทำให้เราทำหนังสือ The Roofless Castle ขึ้นมาเอง บางครั้งในช่วงเทศกาลก็จะวาดภาพที่ตรงกับเทศกาลสกรีนบนกระเป๋าขายบ้าง ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกและได้อย่างใจมากที่สุด ^^
นอกจากนี้ ถ้าเรามองในมุมที่กว้างขึ้นในเรื่องของการหารายได้ จะเห็นได้ว่ายังมีช่องทางการหารายได้ยิบย่อยอีกมากมายค่ะ ตัวอย่างเช่นการวาดคลิปอาร์ตขายในเว็บต่างๆ อย่าง creativefabrica, Vecteezy, Freepix และอื่นๆ (เราทำอยู่กับทั้งสามเว็บนี้และเว็บอื่นๆ อีกสองสามเว็บ) เป็นการวางแผนงานเอง ทำงานเอง ตัวอย่างเช่น อย่างเวลานี้ต้นเดือน ก็อาจจะเริ่มวางแผนทำคลิปอาร์ตวันวาเลนไทน์ (อย่างภาพวาดรูปหัวใจหวานๆ, ลูกโป่ง, หมีน่ารักกำลังกอดหัวใจ, ฯลฯ) ออกมาขายก่อนเวลาสักเล็กน้อย เป็นต้น ถือเป็น passive income อีกอย่างที่ทำได้ง่ายๆ ไม่มีความกดดันมากนัก เพียงแต่ว่าเว็บเหล่านี้ส่วนมากเราต้องทำการสมัครเป็น contributor กับเขาก่อนโดยจะต้องส่งผลงานให้เขาดู ถ้าผ่าน เราก็จะมีบัญชีกับทางเว็บเเพื่ออัปโหลดงานวาดและสามารถเริ่มสร้างรายได้ได้เลยค่ะ เอาไว้ถ้าเพื่อนๆ สนใจรายละเอียดแบบเจาะลึกตรงนี้ เราอาจจะมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์การสมัครเป็น contributor ให้ฟังอีกทีนะคะ ^^
ท้ายที่สุดนี้ เพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ได้คือต้องขอบคุณมากๆ เลยที่ไม่เบื่อกันไปเสียก่อน ^^" บทสรุปของการทำงานวาดภาพประกอบในวัยสี่สิบของเราคือ สนุกและมีความสุขค่ะ ดีใจที่หันมาจับงานนี้และจะทำงานนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่ลังเล อยากจะวาดอยากหันมาจับงานด้านนี้ ทำเลยค่ะ เราสนับสนุน วาดทุกวัน ฝึกเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีเองจริงๆ ค่ะ ^^
เราขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่เพื่อนๆ ทุกคนนะคะ (ภาพนี้เราก็วาดเอง ^^) ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขมากๆ สุขภาพกายและใจแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เจ็บไม่จน เป็นที่รักของทุกคนรอบข้าง ชีวิตสงบสุขตลอดปีค่ะ


ปล. ถ้าเพื่อนสนใจติดตามงานวาด สามารถติดตามได้ทาง IG: @tiidraws ค่ะ
**และเราเพิ่งสร้างคาแรกเตอร์ใหม่เอาไว้ฮีลใจคนที่ผ่านมาเห็นภาพวาด ชื่อบัญชี @thehappiibeebear.th (ภาษาไทย) และ @thehappiibeebear (อังกฤษ) ตัวนำภาพหน้าตาแบบนี้..
ส่วนเนื้อหาจะเป็นการให้กำลังใจ เน้นไปทางสุขภาพจิต..
ยังไงฝากน้องไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^
ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับกำลังใจ มีแต่คนพูดถึงปลาคราฟ มาค่ะ ส่งมาให้ดูอีกหนึ่งภาพ


สรุปว่างานหนังสือเด็กเล่มดังกล่าวมันเป็นตัวผลักดันให้เราค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการวาดภาพประกอบหนังสือเด็กในแง่มุมต่างๆ มากมาย รวมถึงทฤษฎีสีและสไตล์วาดรูปของนักวาดท่านอื่นๆ (ตอนนั้นดูงานวาดภาพประกอบหนังสือเด็กบนไอจีทั้งวัน) illustrator แต่ละคนก็จะมีแนวสไตล์การวาดที่แตกต่างกันไป ลักษณะลายเส้น การลงสี เป็นเอกลักษณ์กันมากๆ ดูแล้วเพลิน เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจตลอดการศึกษาดูงานค่ะ ^^ อันไหนสวยถูกใจก็จะติดตามแล้วเก็บภาพไว้ศึกษาต่อไว้เป็นแนวทาง (ไม่ก็อบปี้นะคะ ^^") เรียนรู้การลงสีแสงเงาไปเรื่อยๆ
สิ่งที่เราค้นพบก็คือ การวาดแนวภาพประกอบ (โดยเฉพาะภาพประกอบหนังสือเด็ก) เค้าจะมีความยืดหยุ่นในเรื่องของสไตล์ ลายเส้น และการลงสีค่อนข้างมาก เราจะให้ตัวละครและพื้นหลังของเราเป็นอะไรยังไงโทนสีแบบไหนก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงมากนัก ไม่มีผิดถูก ไม่มีกรอบหรือข้อจำกัดมากนัก (เพราะส่วนมากนิทานเด็กมักจะเป็นเรื่องราวออกแนว magical, whimsical เหนือธรรมชาติ ตื่นเต้นน่าค้นหาและสนุกสนาน) บางคนมีไสตล์การวาดเส้นแบบเหยๆ เกๆ เส้นไม่เนี้ยบแบบตั้งใจ แล้วก็ออกมาน่ารักเป็นเอกลักษณ์ดีก็มีค่ะ ^^ ตราบเท่าที่ภาพที่วาดออกมาสามารถสื่อสารเนื้อเรื่องของหนังสือให้ตรงกับความรู้สึกของผู้แต่งเรื่องมากที่สุด ซึ่งความยืดหยุ่นนี้เองที่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นักวาดภาพประกอบสามารถคิดค้นลายเส้นและสไตล์การวาดของตัวเองขึ้นมาได้อย่างมีอิสระเต็มที่นั่นเองค่ะ
เราทำโปรเจกต์หนังสือเล่มนี้ ใช้เวลาวาดทั้งหมด 44 ภาพรวมปกอยู่ที่เกือบสองเดือนค่ะ ตลอดเวลาที่ทำมันคือการเปิดโลกแห่งการวาดภาพประกอบของเรามากๆ วาดไปเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จริงๆ ทุกภาพใหม่ที่วาดเสร็จ เราก็ได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นตลอด ข้อดีอีกอย่างของโปรเจกต์นี้คือ มันเปิดโอกาสให้เราได้สะสม portfolio ได้ดีมากๆ พอทำโปรเจคนี้เสร็จสมบูรณ์ เรามีภาพผลงานสะสมตั้ง 40 กว่าภาพเอาไว้หางานและรับงานในแนวนี้เพิ่มได้อีก เราคิดว่าตัวเองมาโชคดีตรงนี้ด้วยเพราะถือเป็นโปรเจกต์ที่ให้เรามากกว่าแค่ค่าจ้างที่เป็นตัวเงินจริงๆ (ภาพตัวอย่างงานบางส่วนจากโปรเจกต์นี้ด้านล่างค่ะ)






**หันมาวาดภาพประกอบหนังสือเด็กเป็นหลัก**
หลังจากโปรเจกต์แรกเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย เราเริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามาให้วาดภาพประกอบหนังสือเด็กเรื่อยๆ ทั้งไทยและต่างชาติค่ะ ได้มีโอกาสวาดภาพประกอบหนังสือเด็กหลายๆ เรื่อง รวมถึงหนังสือที่เราเองเป็นทั้งคนวาดและคนแต่งเรื่องด้วย (หนังสือเด็กของเราเองเล่มแรก ชื่อว่า "The Roofless Castle" มีวางจำหน่ายบน Amazon เหนื่อยแต่สนุกค่ะ ^^") ในช่วงนี้ งานวาดประเภทอื่นก็ยังรับอยู่นะคะ งานโลโก้, งานวาดประกอบแพคเกจสินค้าต่างๆ, งานวาดคอนเท้นต์ให้เพจต่างๆ ก็มีบ้าง ยังรับทำอยู่ แต่รับน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเราเริ่มรักมาทางสไตล์นี้แล้ว ข้อดีของการวาดภาพประกอบหนังสือเด็กก็คือ งานจะมาเป็นชุด คือมาพร้อมกันหลายหน้า เราก็จะได้ค่าตอบแทนมากกว่าการรับงานวาดแบบทีละภาพเดียว อย่างน้อยคือสิบหน้าขึ้นไป ซึ่งเราคิดค่าวาดต่อหน้า ส่งงานเป็นไฟล์ที่ลูกค้าต้องการ (ส่วนมาก PNG) ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีค่ะ






**การหารายได้ต่อยอดอื่นๆ **
เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เราอยากจะเพิ่มเติมในเรื่องของการหารายได้ต่อยอดอื่นๆ ต่ออีกนิดเผื่อเป็นทางเลือกและโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาดูแนวทางกันต่อไป
แน่นอนว่าการมีลูกค้าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง การสร้างสินค้าที่เป็นของเราเองขึ้นมาก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เช่นกัน แถมยังมีข้อดีตรงที่เราทำงานออกมาได้ตามที่เราเองต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำได้แบบชิวๆ ไม่ต้องเครียดว่าจะต้องเป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการเป๊ะๆ เพราะเป็นสินค้าของเราเอง แง่คิดนี้ทำให้เราทำหนังสือ The Roofless Castle ขึ้นมาเอง บางครั้งในช่วงเทศกาลก็จะวาดภาพที่ตรงกับเทศกาลสกรีนบนกระเป๋าขายบ้าง ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกและได้อย่างใจมากที่สุด ^^
นอกจากนี้ ถ้าเรามองในมุมที่กว้างขึ้นในเรื่องของการหารายได้ จะเห็นได้ว่ายังมีช่องทางการหารายได้ยิบย่อยอีกมากมายค่ะ ตัวอย่างเช่นการวาดคลิปอาร์ตขายในเว็บต่างๆ อย่าง creativefabrica, Vecteezy, Freepix และอื่นๆ (เราทำอยู่กับทั้งสามเว็บนี้และเว็บอื่นๆ อีกสองสามเว็บ) เป็นการวางแผนงานเอง ทำงานเอง ตัวอย่างเช่น อย่างเวลานี้ต้นเดือน ก็อาจจะเริ่มวางแผนทำคลิปอาร์ตวันวาเลนไทน์ (อย่างภาพวาดรูปหัวใจหวานๆ, ลูกโป่ง, หมีน่ารักกำลังกอดหัวใจ, ฯลฯ) ออกมาขายก่อนเวลาสักเล็กน้อย เป็นต้น ถือเป็น passive income อีกอย่างที่ทำได้ง่ายๆ ไม่มีความกดดันมากนัก เพียงแต่ว่าเว็บเหล่านี้ส่วนมากเราต้องทำการสมัครเป็น contributor กับเขาก่อนโดยจะต้องส่งผลงานให้เขาดู ถ้าผ่าน เราก็จะมีบัญชีกับทางเว็บเเพื่ออัปโหลดงานวาดและสามารถเริ่มสร้างรายได้ได้เลยค่ะ เอาไว้ถ้าเพื่อนๆ สนใจรายละเอียดแบบเจาะลึกตรงนี้ เราอาจจะมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์การสมัครเป็น contributor ให้ฟังอีกทีนะคะ ^^
ท้ายที่สุดนี้ เพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ได้คือต้องขอบคุณมากๆ เลยที่ไม่เบื่อกันไปเสียก่อน ^^" บทสรุปของการทำงานวาดภาพประกอบในวัยสี่สิบของเราคือ สนุกและมีความสุขค่ะ ดีใจที่หันมาจับงานนี้และจะทำงานนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่ลังเล อยากจะวาดอยากหันมาจับงานด้านนี้ ทำเลยค่ะ เราสนับสนุน วาดทุกวัน ฝึกเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีเองจริงๆ ค่ะ ^^
เราขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่เพื่อนๆ ทุกคนนะคะ (ภาพนี้เราก็วาดเอง ^^) ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขมากๆ สุขภาพกายและใจแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เจ็บไม่จน เป็นที่รักของทุกคนรอบข้าง ชีวิตสงบสุขตลอดปีค่ะ



ปล. ถ้าเพื่อนสนใจติดตามงานวาด สามารถติดตามได้ทาง IG: @tiidraws ค่ะ
**และเราเพิ่งสร้างคาแรกเตอร์ใหม่เอาไว้ฮีลใจคนที่ผ่านมาเห็นภาพวาด ชื่อบัญชี @thehappiibeebear.th (ภาษาไทย) และ @thehappiibeebear (อังกฤษ) ตัวนำภาพหน้าตาแบบนี้..

ส่วนเนื้อหาจะเป็นการให้กำลังใจ เน้นไปทางสุขภาพจิต..


ยังไงฝากน้องไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^
แสดงความคิดเห็น
เล่าประสบการณ์เริ่มต้นเป็นนักวาดภาพประกอบอิสระ (illustrator) ตอนอายุ 40
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าตัวเองไม่ได้จบการศึกษาเกี่ยวกับศิลปะมา ไม่มีใบประกาศใดๆ ที่เกี่ยวกับงานศิลป์ทั้งสิ้น และไม่ได้ถือว่าตัวเองมีฝีมือและความรู้มากกว่าคนอื่นแต่อย่างใด (มีคนวาดเก่งกว่าเรามากๆ เยอะแยะเลยค่ะ ^^") เราแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับงานวาดที่มีอยู่ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันเท่านั้นเองค่ะ ว่าแล้วก็เริ่มเลยดีกว่าเนอะ ^^
**ความเป็นมา**
เราเป็นคนชอบงานศิลปะและงานฝีมือมาแต่ไหนแต่ไรและเริ่มหันมาจับดินสอและพู่กันตั้งแต่ยังเด็ก อันนี้เป็นที่รู้กันดีในครอบครัวเลยค่ะ และพ่อกับแม่ก็สนับสนุนดีมากๆ ไม่เคยห้ามไม่ให้วาดรูป อยากได้อุปกรณ์อะไรก็หาซื้อให้ตลอด ความสนใจตรงนี้ก็เลยเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ เราวาดหลายแนวตามแต่ความสนใจจะพาไป เริ่มตั้งแต่แนว doodle, ศิลปะสีน้ำ, แนวดอกไม้, แนว comics และอื่นๆ
ก่อนที่จะหันมาวาดแบบดิจิตัล เราวาดเอาสนุก วาดเป็นงานอดิเรก วาดเพราะใจรักจริงๆ ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวไหน ว่างๆ อยู่บ้านก็วาดรูประบายสีไปเรื่อยเปื่อย มีอยู่วันหนึ่งเราวาดรูปปลาคราฟ (สีน้ำ) แล้วนึกสนุกเอาไปโพสต์ในไอจี ปรากฎว่าได้ไลค์เยอะมากๆ (ปกติไอจีเราเงียบกริบ ^^") เลยเป็นแรงบันดาลใจให้วาดแล้วโพสต์งานเรื่อยๆ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเราก็รับงานมาเรื่อยๆ ทำการเปิดเพจบนเฟสบุ้คเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อโพสต์ผลงานและรับงาน ได้เรียนรู้เทคนิคการวาดเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับการทำงาน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นช่วงที่รับงานบ่อยก็จริง แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของสไตล์งานและวิธีการทำงานเท่าที่ควร เป็นช่วงที่รับวาดทุกอย่าง ตั้งแต่โลโก้, ปกเพจ, ป้ายบัญชี, ภาพเหมือน, ภาพล้อเลียน, ฯลฯ เรียกได้ว่ารับงานทุกรูปแบบตามความต้องการของลูกค้าจริงๆ ซึ่งตอนนั้นลึกๆ ในใจคิดอยู่ตลอดว่าอยากทำงานวาดที่เจาะลึกมากกว่านี้ มีแนวและสไตล์ที่ชัดเจนเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้
*จุดเริ่มต้นการเป็นนักวาดภาพประกอบ*
สิ่งที่ทำให้เราหันมาจับงานวาดภาพประกอบจริงจังคือช่วงปลายปี 2022 มีญาติที่อยู่ต่างประเทศของเราคนหนึ่งติดต่อมาหา บอกว่าลูกสาวของเขากำลังเขียนหนังสือเด็กเพื่อวางขายบนเว็บ Amazon เลยอยากให้เราวาดภาพประกอบหนังสือเด็กให้ลูกเขาหน่อย โดยที่หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นสำหรับเด็กทั้งหมด 43 เรื่อง ต้องการให้เราวาดภาพประกอบให้ทั้งหมด 43 ภาพพร้อมปกหนังสือด้วย เราตื่นเต้นมากเพราะเป็นโปรเจคใหญ่พอสมควร ไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าจะทำออกมาได้ดีไหมเพราะไม่เคยจับงานแนวหนังสือเด็กมาก่อน แต่ก็ตัดสินใจรับงาน ซึ่งถือเป็นโปรเจกแรกที่ทำเงินได้มากที่สุดเท่าที่เคยรับงานวาดมา
(เดี๋ยวมาต่อค่ะ)**