ถ้าจะพูดว่างานขาวแดงหรือ Kohaku Uta Gassen ก็คงไม่พ้นงานดนตรีอันดับหนึ่งที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน มีธรรมเนียมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และเป็นอีเว้นท์ที่น่าจับตามองที่สุดอีกรายการในวงการดนตรีแต่ละปี ด้วยการรวมศิลปินมากหน้าหลายตาไว้ด้วยกัน และอาจจะเป็นประตูสำคัญในการเริ่มต้นตีตลาดญี่ปุ่นของศิลปินเกาหลีในปัจจุบันด้วยเช่นกัน
แต่ปีนี้งานขาวแดงก็มีจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง กับการตัดสินใจไม่ให้ศิลปินค่ายจอห์นนี่เดิมทั้งหมดขึ้นเวทีในปีนี้ จากปัญหาข่าวฉาวในกรณีการคุกคามทางเพศในค่าย ซึ่งแต่เดิมศิลปินค่ายจอห์นนี่เองก็ครองหน้าจอในงานขาวแดงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุค 80 จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นศิลปินหน้าใหม่มากหน้าหลายตาในปีนี้ (ตอนไลน์อัพออกผมเลือกทีมแดงแบบไม่คิดเลยนะ ศิลปินหญิงที่ชอบทั้งนั้นเลย Aimyon Yoasobi Perfume NiziU Nogizaka46 แถมยังมีเจไลน์ของ Twice มาอีก)
-------------------------
แน่นอนว่าศิลปินที่ถูกจับตามองที่สุดในงานปีนี้อีกคน ย่อมคงหนีไม่พ้นแอนิซองที่ได้รับความนิยมที่สุดในยุคนี้อย่าง Yoasobi ที่ปีนี้ฟอร์มแรงด้วยเพลงคุณภาพอย่าง Idol ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ถูกเสิร์ซหาในกูเกิ้ลมากที่สุดในปีนี้ และเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลกด้วยยอดวิวกว่า 400 ล้านวิวในยูทูปมาแล้ว
ด้านตัวเพลงก็เต็มไปด้วยชั้นเชิงในการเล่าเรื่องของวงการไอดอล (ซึ่งดาร์กและสะท้อนความจริงของวงการนี้ได้อย่างเจ็บแสบ จน Japan Record Awards ไม่ยอมใส่ชื่อในการชิงรางวัล Song Of The Year จนเป็นกระแสถูกวิจารณ์อย่างหนัก) ภายใต้การแต่งของ Ayase-Chan นอกจากนั้นงานซาวด์ของเพลงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งก็เป็นฝีมือของเขาด้วยเช่นกัน เมื่อรวมกับเทคนิคของ Ikura-Chan ที่เพลงนี้จัดเต็มทั้งร้อง ไฮโน้ต ท่อนบริดจ์ชั้นเยี่ยม การแร๊ปในสไตล์เคป๊อป รวมถึงการปรับโทนการร้องให้ออกไปในแนวเพลงไอดอล เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อเพลงที่ต้องการสื่อ จนทำให้เป็นอีกเพลงคุณภาพของยุคนี้ได้ไม่ยาก
และพวกเขาก็ยังขึ้นชื่อว่าเมื่อไหร่ที่เล่นสด Yoasobi ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แถมพวกเขาตัดสินใจไม่เล่นสดเพลงนี้ออกทีวีญี่ปุ่นเลยจนมาถึงงานขาวแดงครั้งนี้
เมื่อเพลงเริ่ม พวกเขาได้ทีม Dance Performance อย่าง Avantgardey ที่สร้างชื่อในรายการ American Got Talent มาแล้วด้วยเพลง Idol นี่แหละมาร่วมแสดง ซึ่งส่วนตัวก็ว้าวแล้วกับเพิร์ฟของพวกเขา ก่อนจะได้ทีม Real Akiba Boyz ที่แต่เดิมก็ร้องแบ็คอัพในเพลงอยู่แล้วมาโชว์ลีลา B-Boyz เท่ๆประกอบเพลง
-------------------------
หลังจากนั้นเซอร์ไพรส์ก็ค่อยๆทยอยตามมา เริ่มจาก Seventeen บอยแบนด์เกาหลีที่ออกมาโชว์ลีลาได้เข้ากับเนื้อเพลงไม่น้อย จนส่วนตัวผมเองก็ยังประทับใจกับพวกเขาไปด้วย ก่อนจะตามมาด้วย Nogizaka46 พี่ใหญ่ของไอดอลหญิงญี่ปุ่นในชั่วโมงนี้ที่ส่งเมมตัวท๊อปมาแจมด้วยเช่นกัน NiziU วงลูกครึ่งจากตึกฟ้า Be:First บอยแบนด์ยอดฮิตของฝั่งเกาะ
ก่อนเข้าท่อนฮุคด้วยการมาของออนนี่ไลน์แห่ง NewJeans ตัวท๊อปจากเจน 4 ที่ดูทรงแล้วมินจีน่าจะอินจนอาจจะอยากแย่งอิคุระซังร้องแทนแล้วมั้ยนั่น 555 และ JO1 บอยแบนด์จากรายการ Produce 101 ของญี่ปุ่น ตามมาด้วย Stray Kids บอยแบนด์เกาหลีอีกวงที่น่าจับตามองไม่น้อยในยุคนี้ และ Sakurazaka46 วงน้องของโนกิที่ทั้งคู่มาชุดอย่างเท่ ถัดมาเป็น Le Sserafim อีกดาวโรจน์จากเจน 4 และปิดจ๊อบฝั่งไอดอลด้วย MiSaMo จาก Twice
แน่นอนว่าทั้งหมดคงไม่น่ามีเวทีไหนในเกาหลีจับขึ้นสเตจพร้อมกันขนาดนี้เป็นแน่ 55
ยังๆๆๆ ยังไม่จบ ยังมีเซอร์ไพรส์ต่อจาก Ano และพิธีกรรายการอย่างคันนะ ฮาชิโมโตะ ที่กลับมาสวมวิญญาณไอดอลอีกครั้งออกมาเต้นและโพสต์ท่าสร้างชื่อของเจ้าตัวจนกลายเป็นไวรัลไปอีกดอก ก่อนจบด้วยการแพนกล้องออกและเต้นรวมเป็นอันจบ
-------------------------
ซึ่งทั้งหมด แม้จะมีไอดอลตัวจริงมาแจมมากมาย แต่ทั้งนั้น Yoasobi ก็ยังคงคุณภาพในการทำโชว์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกคนได้โอกาสเท่าๆกันในการโชว์ของ ภายใต้การออกแบบโชว์และท่าเต้นของ GANMI Choreographer ตัวท๊อปของวงการ และบาลานซ์ให้เจ้าของเพลงแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ และยังคงเป็นโชว์ในรูปแบบของพวกเขาอยู่ดี จนออกมาเป็นโชว์ประวัติศาสตร์ของทั้งวงการ J และ K-Pop ในที่สุด
แต่ในมุมมองส่วนตัวผมเอง ผมอาจจะคิดได้อีก 2 มุมใหญ่ๆที่อาจจะซ่อนอยู่หลังโชว์นี้ก็เป็นได้
ประการแรก อาจจะเป็นการประกาศทางอ้อมของเหล่าไอดอลที่มักจะถูกมองว่าเป็นชนชั้นต่ำสุดของวงการบันเทิงในทั้งสองประเทศก็เป็นได้ว่า ถ้าให้พวกเขาโชว์ของได้เต็มที่ พวกเขาก็สร้างอิมแพคในวงการเพลงได้ไม่ยากไม่ต่างจากศิลปินในอิมเมจของผู้คนในสังคม เพราะครั้งนี้ก็เป็นการที่ไอดอลจากทั้งสองฝั่งได้โชว์ของร่วมกันเสียที แถมยังทำได้น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งเสียด้วย ทุกคนต่างเสริมออร่าของกันและกันไปหมด
ส่วน Yoasobi เองนั้นก็อาจจะเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า พวกเขาคือศิลปินคุณภาพในวงการบันเทิงญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแต่สายแอนิซองที่พวกเขาถนัด และอาจจะกลายเป็นศิลปินระดับโลกถัดไปของญี่ปุ่นก็เป็นได้
อีกประการคือการก้าวข้ามผ่านยุคสมัยใหม่บางอย่างของวงการเพลงญี่ปุ่น เพราะจากเดิมศิลปินค่ายจอห์นนี่แทบจะยึดพื้นที่ได้อย่างเหนียวแน่น แต่พอมาเจอกับศิลปินที่พร้อมทำเพลงฉีกแนวคิดเดิมๆ เล่นกับสังคมอย่างตรงไปตรงมา แถมเพลงยังออกมามีคุณภาพและได้รับการยอมรับในเมนสตรีม แม้จะโดนกระแสค้านอะไร พวกเขาก็กำลังจะกลายเป็นกระแสหลักที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงวงการเพลงญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคใหม่ได้เสียที
เมื่อไอดอลขอทวงศรัทธาวงการเพลงญี่ปุ่นอีกครั้ง (หรือไม่): แชร์เรื่องราวของ Yoasobi จากงานขาวแดง
แต่ปีนี้งานขาวแดงก็มีจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง กับการตัดสินใจไม่ให้ศิลปินค่ายจอห์นนี่เดิมทั้งหมดขึ้นเวทีในปีนี้ จากปัญหาข่าวฉาวในกรณีการคุกคามทางเพศในค่าย ซึ่งแต่เดิมศิลปินค่ายจอห์นนี่เองก็ครองหน้าจอในงานขาวแดงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุค 80 จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นศิลปินหน้าใหม่มากหน้าหลายตาในปีนี้ (ตอนไลน์อัพออกผมเลือกทีมแดงแบบไม่คิดเลยนะ ศิลปินหญิงที่ชอบทั้งนั้นเลย Aimyon Yoasobi Perfume NiziU Nogizaka46 แถมยังมีเจไลน์ของ Twice มาอีก)
-------------------------
แน่นอนว่าศิลปินที่ถูกจับตามองที่สุดในงานปีนี้อีกคน ย่อมคงหนีไม่พ้นแอนิซองที่ได้รับความนิยมที่สุดในยุคนี้อย่าง Yoasobi ที่ปีนี้ฟอร์มแรงด้วยเพลงคุณภาพอย่าง Idol ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ถูกเสิร์ซหาในกูเกิ้ลมากที่สุดในปีนี้ และเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลกด้วยยอดวิวกว่า 400 ล้านวิวในยูทูปมาแล้ว
ด้านตัวเพลงก็เต็มไปด้วยชั้นเชิงในการเล่าเรื่องของวงการไอดอล (ซึ่งดาร์กและสะท้อนความจริงของวงการนี้ได้อย่างเจ็บแสบ จน Japan Record Awards ไม่ยอมใส่ชื่อในการชิงรางวัล Song Of The Year จนเป็นกระแสถูกวิจารณ์อย่างหนัก) ภายใต้การแต่งของ Ayase-Chan นอกจากนั้นงานซาวด์ของเพลงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งก็เป็นฝีมือของเขาด้วยเช่นกัน เมื่อรวมกับเทคนิคของ Ikura-Chan ที่เพลงนี้จัดเต็มทั้งร้อง ไฮโน้ต ท่อนบริดจ์ชั้นเยี่ยม การแร๊ปในสไตล์เคป๊อป รวมถึงการปรับโทนการร้องให้ออกไปในแนวเพลงไอดอล เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อเพลงที่ต้องการสื่อ จนทำให้เป็นอีกเพลงคุณภาพของยุคนี้ได้ไม่ยาก
และพวกเขาก็ยังขึ้นชื่อว่าเมื่อไหร่ที่เล่นสด Yoasobi ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แถมพวกเขาตัดสินใจไม่เล่นสดเพลงนี้ออกทีวีญี่ปุ่นเลยจนมาถึงงานขาวแดงครั้งนี้
เมื่อเพลงเริ่ม พวกเขาได้ทีม Dance Performance อย่าง Avantgardey ที่สร้างชื่อในรายการ American Got Talent มาแล้วด้วยเพลง Idol นี่แหละมาร่วมแสดง ซึ่งส่วนตัวก็ว้าวแล้วกับเพิร์ฟของพวกเขา ก่อนจะได้ทีม Real Akiba Boyz ที่แต่เดิมก็ร้องแบ็คอัพในเพลงอยู่แล้วมาโชว์ลีลา B-Boyz เท่ๆประกอบเพลง
-------------------------
หลังจากนั้นเซอร์ไพรส์ก็ค่อยๆทยอยตามมา เริ่มจาก Seventeen บอยแบนด์เกาหลีที่ออกมาโชว์ลีลาได้เข้ากับเนื้อเพลงไม่น้อย จนส่วนตัวผมเองก็ยังประทับใจกับพวกเขาไปด้วย ก่อนจะตามมาด้วย Nogizaka46 พี่ใหญ่ของไอดอลหญิงญี่ปุ่นในชั่วโมงนี้ที่ส่งเมมตัวท๊อปมาแจมด้วยเช่นกัน NiziU วงลูกครึ่งจากตึกฟ้า Be:First บอยแบนด์ยอดฮิตของฝั่งเกาะ
ก่อนเข้าท่อนฮุคด้วยการมาของออนนี่ไลน์แห่ง NewJeans ตัวท๊อปจากเจน 4 ที่ดูทรงแล้วมินจีน่าจะอินจนอาจจะอยากแย่งอิคุระซังร้องแทนแล้วมั้ยนั่น 555 และ JO1 บอยแบนด์จากรายการ Produce 101 ของญี่ปุ่น ตามมาด้วย Stray Kids บอยแบนด์เกาหลีอีกวงที่น่าจับตามองไม่น้อยในยุคนี้ และ Sakurazaka46 วงน้องของโนกิที่ทั้งคู่มาชุดอย่างเท่ ถัดมาเป็น Le Sserafim อีกดาวโรจน์จากเจน 4 และปิดจ๊อบฝั่งไอดอลด้วย MiSaMo จาก Twice
แน่นอนว่าทั้งหมดคงไม่น่ามีเวทีไหนในเกาหลีจับขึ้นสเตจพร้อมกันขนาดนี้เป็นแน่ 55
ยังๆๆๆ ยังไม่จบ ยังมีเซอร์ไพรส์ต่อจาก Ano และพิธีกรรายการอย่างคันนะ ฮาชิโมโตะ ที่กลับมาสวมวิญญาณไอดอลอีกครั้งออกมาเต้นและโพสต์ท่าสร้างชื่อของเจ้าตัวจนกลายเป็นไวรัลไปอีกดอก ก่อนจบด้วยการแพนกล้องออกและเต้นรวมเป็นอันจบ
-------------------------
ซึ่งทั้งหมด แม้จะมีไอดอลตัวจริงมาแจมมากมาย แต่ทั้งนั้น Yoasobi ก็ยังคงคุณภาพในการทำโชว์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกคนได้โอกาสเท่าๆกันในการโชว์ของ ภายใต้การออกแบบโชว์และท่าเต้นของ GANMI Choreographer ตัวท๊อปของวงการ และบาลานซ์ให้เจ้าของเพลงแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ และยังคงเป็นโชว์ในรูปแบบของพวกเขาอยู่ดี จนออกมาเป็นโชว์ประวัติศาสตร์ของทั้งวงการ J และ K-Pop ในที่สุด
แต่ในมุมมองส่วนตัวผมเอง ผมอาจจะคิดได้อีก 2 มุมใหญ่ๆที่อาจจะซ่อนอยู่หลังโชว์นี้ก็เป็นได้
ประการแรก อาจจะเป็นการประกาศทางอ้อมของเหล่าไอดอลที่มักจะถูกมองว่าเป็นชนชั้นต่ำสุดของวงการบันเทิงในทั้งสองประเทศก็เป็นได้ว่า ถ้าให้พวกเขาโชว์ของได้เต็มที่ พวกเขาก็สร้างอิมแพคในวงการเพลงได้ไม่ยากไม่ต่างจากศิลปินในอิมเมจของผู้คนในสังคม เพราะครั้งนี้ก็เป็นการที่ไอดอลจากทั้งสองฝั่งได้โชว์ของร่วมกันเสียที แถมยังทำได้น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งเสียด้วย ทุกคนต่างเสริมออร่าของกันและกันไปหมด
ส่วน Yoasobi เองนั้นก็อาจจะเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า พวกเขาคือศิลปินคุณภาพในวงการบันเทิงญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแต่สายแอนิซองที่พวกเขาถนัด และอาจจะกลายเป็นศิลปินระดับโลกถัดไปของญี่ปุ่นก็เป็นได้
อีกประการคือการก้าวข้ามผ่านยุคสมัยใหม่บางอย่างของวงการเพลงญี่ปุ่น เพราะจากเดิมศิลปินค่ายจอห์นนี่แทบจะยึดพื้นที่ได้อย่างเหนียวแน่น แต่พอมาเจอกับศิลปินที่พร้อมทำเพลงฉีกแนวคิดเดิมๆ เล่นกับสังคมอย่างตรงไปตรงมา แถมเพลงยังออกมามีคุณภาพและได้รับการยอมรับในเมนสตรีม แม้จะโดนกระแสค้านอะไร พวกเขาก็กำลังจะกลายเป็นกระแสหลักที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงวงการเพลงญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคใหม่ได้เสียที