แชร์ประสบการ์คลอดที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นการแชร์ประสบการณ์คลอดลูกคนแรกของเรา และเป็นความทรงจำที่แย่ที่สุดในชีวิตเลย แทนที่จะได้เก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ แต่กับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

ย้อนไปเมื่อ 6 เดือนก่อน เราตั้งครรภ์ได้ 40 สัปดาห์พอดี ตรงกับวันกำหนดคลอด ที่ทาง รพ กำหนดให้ (เราก็ฝากครรภ์ที่ รพ นี้เหมือนกัน)

เรามีอาการเจ็บท้องและหลังช่วงล่างพร้อมกัน เป็นๆหายๆ ไล่ระดับความเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ จนเรามั่นใจแล้วว่า นี้แหละ คือสัญญาณคลอด

เราเดินทางไปที่โรงพยาบาล เวลาประมาณ 4-5 ทุ่มแจ้งว่ามีเลือดออก ท้องแข็ง และมีอาการเจ็บดังกล่าว
กว่าจะมีพยาบาลและหมอมาตรวจ ว่าเราควรแอดมิดรอคลอดไหม ก็ปาไปแล้ว 1ชม

แต่เราก็เข้าใจ ว่าผู้ป่วยโรงพยาบาลรัฐ ไม่ได้มีแค่เราคนเดียว บวกกับตอนนั้นค่อนข้างดึกมากแล้ว อาจจะเหลือหมอ และพยาบาลที่อยู่เวร แค่ไม่กี่คน และเขาก็ต้องเวียนตรวจคนไข้คนอื่นๆด้วย

หลังจากที่รอมา 1ชม ก็มีพยาบาลมาตรวจปากมดลูกเราว่าเปิดกี่ cm แล้ว และได้บทสรุปว่าให้แอดมินรอคลอดคืนนั้นเลย

เรานอนเจ็บท้องอยู่ 5-6ชม จนคลอด นี้แหละค่ะจุดเริ่มต้นของประสบการณ์คลอดที่แย่ที่สุดในชีวิตของเรา

หลังจากที่เรานอนเจ็บท้องอยู่ 5-6ชม จนไม่ไหว เราจึงขอพยาบาลคลอดเลย มีพี่พยาบาลที่อยู่โต๊ะส่วนด้านหน้าเตียงรอคลอด เข้ามาช่วยล้วงปากมดลูกให้เรา และนํ้าครํ่าก็แตก จึงรีบมีการย้ายเราเข้าไปในห้องคลอดทันที

จังหวะที่ผู้ช่วยพยาบาลเอารถเข็นมารับเรา ตอนนั้นเรารู้สึกว่าหัวลูกกำลังจะโผล่ออกมาแล้ว เราเจ็บปวดมากจนลุกไม่ไหวแล้วร้องออกมา แต่ผู้ช่วยพยาบาลไม่ได้ช่วยพยุงเราเลย และบอกให้เรารีบลุกขึ้นมา

สัญชาตญาณเราตอนนั้นคือถ้าไม่ลุกก็ไม่ได้คลอด กัดฟันฮึบลุกไปนั่งรถเข็น พอถึงเตียงคลอด ผู้ช่วยพยาบาลก็บอกให้เราลุกแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง โดยที่ไม่ช่วยเราเหมือนเดิม

ขออธิบายลักษณะเตียงก่อนนะคะ เตียงจะเป็นเตียงสูง มีที่วางขา และวางแขน 2 ข้าง เหมือนเวลาเราไปตรวจภายใน จะขึ้นเตียง ต้องลุกไปเหยียบบันไดเหล็กเตี้ยๆเล็กๆ 2-3 ขั้นที่เขาวางไว้ให้ก่อน เพื่อที่จะปีนขึ้นไปบนเตียง

ตอนนั้นเราโอดครวญ ทั้งบอกว่าเจ็บและปีนไม่ไหว เพราะหัวเด็กกดลงช่องคลอดเราร้าวไปถึงทวารหนัก ถ้าเราปีนพรวดออกมาแน่ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือผู้ช่วยพยาบาลพูดว่า ‘มันจะอะไรขนาดนั้น ตั้งสติแล้วขึ้นไปนอน‘

เราอยากร้องไห้มากเลยค่ะ แต่ก็ยังคิดว่าที่เขาพูดแบบนี้เพราะเขาอยากให้เราขึ้นไปนอนคลอด เพราะเด็กจะออกมาแล้ว

เหมือนผู้ช่วยพยาบาลเขาจะหงุดหงิดเราไม่ไหว ก็เลยมาจับแขนเราแล้วใช้แรงดันขึ้นไปบนเตียง แล้วก็บอกไว้เรายกขา 2 ข้างวางไว้ แล้วเบ่ง

เราตกใจมาก ห้ะ? ให้เราเบ่งเอง? พยาบาล 3-4 คนในห้องคลอดไม่ทำอะไรเลย คุยกัน แล้วปล่อยให้เรานอนคลอดลูกอยู่คนเดียวโดยที่ไม่ช่วย

ระหว่างที่ตั้งครรภ์ เราศึกษาวิธีการคลอดลูกโดยวิธีคลอดธรรมชาติมาตลอด กลั้นหายใจ คางติดอก ยกหัว เบ่งยาว ห้ามให้ลมหรือเสียงออกปาก ด้วยความเจ็บตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้นอกจากเบ่งตามความรู้ที่มี

เบ่งเองอยู่เกือบ 5-10 นาที จนเราจะร้องไห้แล้วจริงๆเพราะเจ็บปวดมาก เราบอกพยาบาลว่าจะไม่ไหวแล้ว มีพยาบาลคนนึง ค่อนข้างมีอายุ ใส่แว่น เดินผ่านเราแล้วหันมาตะโกนใส่ด้วยนํ้าเสียงรำคาญว่า ‘เงียบหน่อยได้มั้ยคุณแม่ เบ่งแค่นี้เบ่งไม่ได้ ลูกจะขาดอากาศหายใจหมดละ เดี๋ยวลูกไม่รอดละ’

เราโกรธมากตอนนั้น ที่ไม่ช่วยอะไรเราเลยแล้วยังมาด่า ไม่รู้ว่าเพราะตั้งใจจะมาช่วยหรือรำคาญ พยาบาลเตรียมอุปกรณ์ ใส่ถุงมือ มากรีดแผลฝีเย็บให้เรา และมีพยาบาลผู้หญิงอีกคนนึงอายุน้อยกว่ามาช่วยกดท้องเรา และบอกให้เราเบ่งรอบสุดท้าย และลูกเราก็ออกมา

จนลูกเราออกมาพยาบาลก็ยังคุย เม้ามอยเรื่องชีวิตส่วนตัวกันอยู่ตลอด โดยที่ไม่หันมาถามมาคุยกับเราเลยว่าคลอดแล้วนะ ไม่ต้องเบ่งนะ ผลอดภัยแล้วนะ เด็กโอเคมั้ย

ความรู้สึกเราตอนนั้นหนาวมาก หนาวแอร์ก็ส่วนนึงค่ะ เพี้ยนขำหนักมาก แต่มันหนาวแบบสั่น ไม่มีแรง เหมือนจะเป็นลม พยาบาลคนที่พูดจาไม่ดีใส่เรา กำลังจะเย็บแผลให้เราอยู่ ก็พูดขึ้นมาว่า ‘อยู่นิ่งๆไม่เป็นรึไง เป็นอะไร’ เราก็พยายามอยู่นิ่ง แต่ด้วยความที่พึ่งคลอดลูก หมดแรง ไม่มีสามีอยู่ข้างๆ เรากลัว เราแพนิคไปหมด ควบคุมอาการสั่นไม่ได้ พยาบาลก็พูดขึ้นมาอีกว่า ‘สั่นอะไรเยอะแยะเนี่ยคุณแม่ แล้วเมื่อไหร่งานจะเสร็จ ทุกวันนี้พยาบาลก็งานเยอะอยู่แล้วนะ’ สรุปเขาก็เย็บเราสั่นๆแบบนั้นแหละค่ะ ไม่ได้ช่วยเราสงบสติอารมณ์หรือช่วยเอาผ้าห่มมาห่มให้เลย

หลังจากเย็บแผลฝีเย็บเสร็จ พยาบาลก็ฉีดยาให้เรา เปลี่ยนผ้าถุง และให้เรานอนพักรอบนเตียงคลอด เพื่อจะย้ายไปห้องพักฟื้น ไม่ถึง 10 นาที มีเคสคลอดเข้ามาอีก 2 คน แต่รอบนี้มีหมอ เรา งง มาก

ทำไมตอนเราคลอดไม่มีหมอ หมอพูดจาดี ช่วยคนไข้เบ่ง พูดคุยช่วยให้กำลังใจ คลายเครียด 2 เตียงข้างๆอยู่ตลอด รวมถึงพยาบาลที่พูดจาไม่ดีใส่เราด้วย พอหมอมา ช่วยคนไข้เตียงข้างๆ สู้ๆนะคะคุณแม่ อื้บบบ อีกทีนะคะคุณแม่ เขาดูกลายเป็นพยาบาลที่น่ารักขึ้นมาทันที

วันออกโรงพยาบาล เราได้รับสมุดชมพูคืน(สมุดฝากครรภ์) ผู้ทำคลอดในสมุดของเรา ระบุว่าเป็นแพทย์ ….. แต่ความจริงมันไม่ใช่ มีแต่พยาบาลที่คอยบั่นทอนกำลังใจเรา พูดจาไม่ดีใส่เรา และปล่อยให้เราเบ่งคลอดลูกคนเดียว จนฮึบสุดท้าย

บอกตรงๆเราไม่ใช่คนเชียงราย เราย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะธรรมชาติ เมือง และสามี ส่วนตัวเราตั้งแต่คลอดลูก พาลูกขึ้น รพ.เอกชน ฉีดวัคซีนครั้ง 5-6,000++ ตลอด ไม่เคยมีปัญหา เราสามารถซื้อแพ็กเกจฝากครภภ์+คลอด รพ.เอกชนดีๆ ที่มีพยาบาลและหมอที่น่ารัก และสามีเราเข้าห้องคลอดด้วยได้เลย

แต่ที่เราเลือกมาคลอดที่ รพ.นี้ เพราะเป็น รพ.ที่คนท้องถิ่นแนะนำมากที่สุด เรื่องเครื่องมือทางการแพทย์ อาจารย์หมอใหญ่ ถ้าเกิดอะไรฉุกเฉิน รพ.นี้มีแพทย์และเครื่องมือพร้อมทุกอย่าง

แต่แล้วเราก็ต้องมาผิดหวัง และเจอกับประสบการณ์คลอดลูกแย่ๆที่ รพ.นี้ ซึ่งเราตั้งใจจะมีลูกคนเดียว แปชว่าเราจะได้สัมผัสและเก็บเกี่ยวประสบการณ์นี้แค่ครั้งเดียว

ตอนคลอดเราเคยคิดว่าที่เขาพูดก็เพื่อให้เราคลอดลูกได้ แต่ก็มีใครอีกหลายๆคนบอกกับเราว่าเขาใช้คำพูดรุนแรงเกินไป เพราะไม่มีพยาบาลที่ไหนเขาทำกัน

และที่สำคัญ ทำไมตอนเราคลอดไม่มีหมอสักคน ทั้งๆที่คืนนั้นก็มีหมอเวร และพยาบาล ทำไมถึงปล่อยเราคลอดคนเดียว และทำไมถึงลงในสมุดชมพูว่าเราคลอดกับหมอ หมอติดกินข้าวหรอ? ขึ้นวอร์ดตอนตี 5-6 โมงก็ไม่ใช่ เพราะตอนเราพักฟื้นหมอพึ่งเริ่มมาขึ้นวอร์ดตอน 8 โมง (เราคลอด 6:15น. นะคะ ใช้เวลาเบ่งอยู่รวมๆ 10 นาที)

ภาพเตียงข้างๆที่ไม่ได้มีปัญหาครรภ์เป็นพิษ โรคอ้วน หรือคลอดก่อนกำหนด อายครรภ์ก็ไล่ๆกับเรา อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ได้รับการดูแล การคลอดจากหมอ และมีพยาบาลรุม 4-5 คนช่วยเบ่ง

ภาพที่เห็นหมอตอนนั้นคือหัวยุ่งมาเลยไม่รู้หมอรีบลงมาจากวอร์ด พึ่งกินข้าวเสร็จ หรือพึ่งตื่น หรือพึ่งมาถึงโรงบาล

คำพูดและอารมณ์ของพยาบาลที่พูดกับเราตอนนั้นมันรุนแรงมากนะคะ มีคำพูดอีกหลายๆคำที่เราไม่ได้เอามาเผยแพร่ในนี้ แต่บอกเลยว่าการกระทำเขาบั่นทอนผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูกสุดๆ

จะไม่ปรักปรำว่าเป็นเพราะโรงพยาบาลนะคะ แต่เป็นที่บุคลากร หลังจากคลอดลูกวันนั้นก็ไม่กลับไปเหยียบที่นั้นอีกเลยค่ะ

สำหรับคนที่เจอหมอและพยาบาลดี มีประสบการณ์ดีที่ รพ.นี้ เราก็ดีใจด้วยนะคะ ส่วนเรา ทั้งตอนฝากครรภ์และตอนคลอด แย่ไปหมดเลยค่ะ

ขอเลือก รพ.เอกชนดีกว่า สมัยนี้ เอกชนเครื่องมือพร้อมก็มีหลายที่ หมอก็เก่งไม่แพ้กัน

เป็นกำชังใจให้หมอและพยาบาลทุกท่านนะคะ เหนื่อยก็พักค่ะ ไปจัดการอารมณ์ตัวเอง จะได้ไม่ไปสร้างบาดแผลในความทรงจำให้คนอื่นค่ะ be safe ค่ะ

ขอจบการแชร์ประสบการณ์ไว้เท่านี้ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ นานาจบข่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่