Wonka (2023) - ฟันฝ่าอุปสรรคมุ่งสู่ความสำเร็จไปกับ "วิลลี่ วองก้า"

Wonka: วองก้า

สวัสดีครับทุกท่าน! ตอนแรกว่าจะไม่เอ่ยถึง แต่ก็แอบเสียดาย สุดท้ายขอเขียนรีวิวพูดถึง Wonka (2023) หน่อยละกันในฐานะหนังดีส่งท้ายปี

เรื่องย่อ
เรื่องราวโฟกัสที่จุดเริ่มต้นของ "วิลลี่ วองก้า" (Timothée Chalamet) ชายหนุ่มที่ฝันอยากสร้างช็อคโกแลตที่ดีที่สุดในโลก 

"วองก้า" ได้เดินทางมาถึงเมืองหนึ่ง เขาเป็นคตที่ดูแล้วน่าจะประสบความสำเร็จในการขายช็อคโกแลตในไม่ช้า เนื่องด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยมของเขา

อย่างไรก็ตาม เขาต้องประสบกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะระบบทุนนิยมในเมืองที่เล่นงานเขาแสนสาหัส

ความรู้สึกหลังชม
ถ้าเทียบกันระหว่าง 2 เรื่อง ทั้งสองมีเพลงและดนตรีประกอบมิวสิคัลที่ไพเราะและน่าจดจำเช่นเดียวกัน แต่หากพิจารณาดูในด้านบท กลับรู้สึกว่า "Wonka ทำได้ดีกว่า"  เรื่องราวโดยรวมของหนังยังทำออกมาได้สนุกกลมกล่อม ไม่ขาดไม่เกิน
 
นอกจากนี้ แม้ Wonka จะดูแฟนตาซีเหมือนหนังสำหรับเด็ก แต่เนื้อหาข้างในกลับเป็นเรื่องราวของผู้ใหญ่ที่โหดและน่าสนใจ อย่างประเด็นเรื่องของระบบทุนนิยมสุดขั้ว ซึ่งต้องมีหลายคนกำลังเผชิญปัญหาแบบนี้อยู่แน่ ณ ที่แห่งใดในโลก

น่าสนใจว่า เราไม่เคยเห็นความสิ้นหวังของ "วองก้า" และทำให้เรารู้ว่า อุปสรรคนานับประการไม่ใช่ปัญหา สิ่งสำคัญกว่า คือ การไม่ย่อท้อและหาวิธีจัดการที่เหมาะสม

ทำเช่นนี้ได้ท้ายที่สุด เราย่อมประสบความสำเร็จ !

- จุดถัดมา "ความสร้างสรรค์" 

ชอบในความสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเรื่อง เช่น ดีไซน์เสื้อผ้า ตัวละคร ฉากมิวสิคัล และเพลง ที่เติมเต็มจินตนาการเราอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่ในพาร์ทดราม่าก็ทำได้น่าประทับใจ 

เชื่อว่า ในช่วงท้ายเรื่อง น่าจะมีผู้ชมไม่น้อยที่น้ำตาคลออิ่มเอมไปกับความรู้สึกดี ๆ จนไม่อยากให้หนังจบลง

- ในพาร์ทการแสดง รู้สึกสนุกไปกับการแสดงของ Timothée Chalamet แต่ที่กลับเตะตาและเซอร์ไพร์สเป็นพิเศษ ดันเป็นการแสดงของ Hugh Grant ในบท Oompa Loompa ที่สร้างเสียงหัวเราะได้ในทุกซีน

- ในหนังมีเพลงเพราะ ๆ เพียบ เช่น Pure Imagination, A World of Your Own และ Oompa Looper

สรุป - ถือเป็นหนังครอบครัวคลีน ๆ ฮีลหัวใจช่วงส่งท้ายปีที่มอบความสุขให้กับทุกคน ยิ่งถ้าไปดูกับคนที่เรารัก ไม่รู้จะมีความสุขขนาดไหน

ไม่น่าเชื่อว่า Warner Bros. จะทำหนังฟีลลิ่งดิสนีย์มิวสิคัลได้ดีกว่าหนังที่มาจากดิสนีย์เองเสียอีก !