วันนี้จะมาแชร์ "ไอเทมสุดโปรดแห่งปี 2023" ค่า หลายๆ ตัวไม่ใช่ตัวออกใหม่เลย แต่เราเพิ่งมีโอกาสได้ลองใช้ในปีนี้ค่ะ ส่วนบางตัวเคยใช้มานานแล้วแต่ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจไม่เปลี่ยนค่ะ
1.คลีนซิ่ง ตอนนี้เราชอบเนื้อบาล์มของ Clean it Zero ค่ะ
ใช้ปริมาณไม่มากแต่สามารถล้างเมคอัพได้ หรือถ้าใครไม่แต่งหน้าก็ใช้เป็นคลีนซิ่งปกติได้เหมือนกันค่ะ หลังล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง ใช้โฟมล้างหน้าต่อได้เลยค่ะ ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้สำลีเช็ดหน้า ประหยัดค่าสำลีแล้วช่วยให้หน้าไม่เหี่ยวด้วยค่ะ
2.โฟมล้างหน้า ยกให้ Cerave SA ค่า
โฟมล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิวอย่างแท้จริงค่ะ มีทั้ง BHA ที่ช่วยลดสิว มี PHA, Niacinamide, กลีเซอริน ที่ช่วยลดการระคายเคือง โดยตัว B3 ช่วยเรื่องปรับผิวกระจ่างใสด้วยค่ะ แล้วยังมีเซราไมด์ที่ช่วยเรื่องการเสริมชั้นผิว กับไฮยาลูรอนที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวค่ะ ส่วนผสมดีๆ แน่นๆ ทั้งนั้น และมีค่า pH เหมาะสม ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึงด้วยค่ะ
3.พรีเซรั่ม กลุ่มเติมน้ำให้ผิว Vichy 69 ค่า
เนื้อเซรั่มดีมากๆ เลยค่ะ เนื้อเบาสบาย ตอนเกลี่ยนเนื้อจะมีความแบบลื่นๆ เลยเกลี่ยง่ายมากค่ะ ลื่นๆ ที่ว่าคือเนื้อสัมผัสนะคะ ส่วนผิวหน้าคือไม่ได้มีความมันหรือเหนอะหนะเลยค่ะ เนื้อซึมไวมากๆ ค่ะ แม้จะเป็นคนผิวมันแต่การเติมน้ำให้ผิวเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะเพราะช่วยปรับสมดุลน้ำกับน้ำมันบนใบหน้าจะทำให้หน้ามันน้อยลงค่ะ
4.มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เน้นการบำรุงและเสริมชั้นผิว Cerave ได้ไปครอบครองอีกแล้วค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นโลชั่นหรือครีม เซราวีทำสกินแคร์ออกมาได้ดีมากๆ ค่ะ ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งลอกได้ดีมากในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย มีเซราไมด์ที่ช่วยเสริมปราการผิว ใครที่ผิวแห้งลอกแตกหรือใครที่ใช้ยาสิวจนผิวลอกแนะนำเลยค่ะ เพราะฟื้นฟูให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้ดีจริงๆ
5.เซรั่ม กลุ่มช่วยแก้ปัญหารอยสิว จุดด่างดำ ปีนี้ได้ใช้ Alphascience เลยต้องให้เขาเลยค่ะ
จริงๆ ตัวช่วยลดจุดด่างดำดีๆ หลายตัวเลยค่ะ แต่ Alphascience เป็นตัวใหม่ที่เราได้ลองใช้ เนื้อออยล์ค่ะ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยสิวและจุดด่างดำได้ดีมาก ใครที่เคยเจอรอยสิวดวงใหญ่เบ้งบนหน้าแล้วอยู่ยาวๆ เป็นปีแบบเราก็อยากให้ลองใช้ค่ะ รอยสิวจางลงเร็วมากๆ ภายในระเวลาแค่ 3-4 เดือนค่ะ
6.กันแดด Her Hyness ค่า
แบรนด์ไทยที่ทำเนื้อออกมาได้ดีมากกกกกกกกกกก มากแบบมากๆๆๆ ค่ะ ทาเหมือนไม่ได้ทาเป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงเลยค่ะ เนื้อน้ำ เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่วอก spf50+ pa++++ ป้องกันรังสีได้ครบ เทสมาแล้วทั้ง in vitro และ in vivo เพราะฉะนั้นมั่นใจในประสิทธิภาพได้แน่นอนค่ะ แต่ตัวนี้ไม่เหมาะกับการออกแดดจัดนะคะ ถ้าถามว่ามีข้อเสียอะไร ส่วนตัวคือแพคเกจค่ะ ตัวฝาปิดคืออ่อนแอแตกง่ายมากเลย แล้วก็ต้องใช้ความพยายามในการแงะหลอดเพื่อเอาออกมาใช้จนหยดสุดท้ายค่ะ วอนแบรนด์ช่วยไปแก้แพคเกจทีค่า
7.โลชั่น Vaseline ค่า
เอาจริงๆ คือชอบโลชั่นวาสลีนหลายตัวมากๆ เลยค่ะ ทั้งกลิ่นทั้งเนื้อคือทำออกมาได้ดีมาก ที่ชอบมากๆ จะเป็นรุ่นเซรั่มสีชมพูกับแบบขวดสีชมพูค่ะ แต่ปีนี้มาลองใช้โลชั่นผสมสารกันแดดค่ะ spf30+ เนื้อดีเหมือนโลชั่นสูตรอื่นๆ เลยค่ะ แต่จะต่างจากเนื้อเซรั่ม แต่ทาแล้วไม่ขาว ไม่วอก ทาง่าย มีผสมสารกันแดดมาด้วย แต่ยังไงก็ต้องทากันแดดตัวเพิ่มอยู่ดีนะค้า โปรดอย่าวางใจแดดนรกเมืองไทยค่ะ
8.แผ่นแปะสิว Olive Young ค่า
เป็นแผ่นแปะสิวของเกาหลี ราคาน่ารัก ได้เยอะ มี 2 ขนาดในซอง ดูดสิวได้ดีมากค่ะ
ไอเทมสุดโปรดแห่งปี 2023
1.คลีนซิ่ง ตอนนี้เราชอบเนื้อบาล์มของ Clean it Zero ค่ะ
ใช้ปริมาณไม่มากแต่สามารถล้างเมคอัพได้ หรือถ้าใครไม่แต่งหน้าก็ใช้เป็นคลีนซิ่งปกติได้เหมือนกันค่ะ หลังล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง ใช้โฟมล้างหน้าต่อได้เลยค่ะ ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้สำลีเช็ดหน้า ประหยัดค่าสำลีแล้วช่วยให้หน้าไม่เหี่ยวด้วยค่ะ
2.โฟมล้างหน้า ยกให้ Cerave SA ค่า
โฟมล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิวอย่างแท้จริงค่ะ มีทั้ง BHA ที่ช่วยลดสิว มี PHA, Niacinamide, กลีเซอริน ที่ช่วยลดการระคายเคือง โดยตัว B3 ช่วยเรื่องปรับผิวกระจ่างใสด้วยค่ะ แล้วยังมีเซราไมด์ที่ช่วยเรื่องการเสริมชั้นผิว กับไฮยาลูรอนที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวค่ะ ส่วนผสมดีๆ แน่นๆ ทั้งนั้น และมีค่า pH เหมาะสม ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึงด้วยค่ะ
3.พรีเซรั่ม กลุ่มเติมน้ำให้ผิว Vichy 69 ค่า
เนื้อเซรั่มดีมากๆ เลยค่ะ เนื้อเบาสบาย ตอนเกลี่ยนเนื้อจะมีความแบบลื่นๆ เลยเกลี่ยง่ายมากค่ะ ลื่นๆ ที่ว่าคือเนื้อสัมผัสนะคะ ส่วนผิวหน้าคือไม่ได้มีความมันหรือเหนอะหนะเลยค่ะ เนื้อซึมไวมากๆ ค่ะ แม้จะเป็นคนผิวมันแต่การเติมน้ำให้ผิวเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะเพราะช่วยปรับสมดุลน้ำกับน้ำมันบนใบหน้าจะทำให้หน้ามันน้อยลงค่ะ
4.มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เน้นการบำรุงและเสริมชั้นผิว Cerave ได้ไปครอบครองอีกแล้วค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นโลชั่นหรือครีม เซราวีทำสกินแคร์ออกมาได้ดีมากๆ ค่ะ ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งลอกได้ดีมากในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย มีเซราไมด์ที่ช่วยเสริมปราการผิว ใครที่ผิวแห้งลอกแตกหรือใครที่ใช้ยาสิวจนผิวลอกแนะนำเลยค่ะ เพราะฟื้นฟูให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้ดีจริงๆ
5.เซรั่ม กลุ่มช่วยแก้ปัญหารอยสิว จุดด่างดำ ปีนี้ได้ใช้ Alphascience เลยต้องให้เขาเลยค่ะ
จริงๆ ตัวช่วยลดจุดด่างดำดีๆ หลายตัวเลยค่ะ แต่ Alphascience เป็นตัวใหม่ที่เราได้ลองใช้ เนื้อออยล์ค่ะ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยสิวและจุดด่างดำได้ดีมาก ใครที่เคยเจอรอยสิวดวงใหญ่เบ้งบนหน้าแล้วอยู่ยาวๆ เป็นปีแบบเราก็อยากให้ลองใช้ค่ะ รอยสิวจางลงเร็วมากๆ ภายในระเวลาแค่ 3-4 เดือนค่ะ
6.กันแดด Her Hyness ค่า
แบรนด์ไทยที่ทำเนื้อออกมาได้ดีมากกกกกกกกกกก มากแบบมากๆๆๆ ค่ะ ทาเหมือนไม่ได้ทาเป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงเลยค่ะ เนื้อน้ำ เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่วอก spf50+ pa++++ ป้องกันรังสีได้ครบ เทสมาแล้วทั้ง in vitro และ in vivo เพราะฉะนั้นมั่นใจในประสิทธิภาพได้แน่นอนค่ะ แต่ตัวนี้ไม่เหมาะกับการออกแดดจัดนะคะ ถ้าถามว่ามีข้อเสียอะไร ส่วนตัวคือแพคเกจค่ะ ตัวฝาปิดคืออ่อนแอแตกง่ายมากเลย แล้วก็ต้องใช้ความพยายามในการแงะหลอดเพื่อเอาออกมาใช้จนหยดสุดท้ายค่ะ วอนแบรนด์ช่วยไปแก้แพคเกจทีค่า
7.โลชั่น Vaseline ค่า
เอาจริงๆ คือชอบโลชั่นวาสลีนหลายตัวมากๆ เลยค่ะ ทั้งกลิ่นทั้งเนื้อคือทำออกมาได้ดีมาก ที่ชอบมากๆ จะเป็นรุ่นเซรั่มสีชมพูกับแบบขวดสีชมพูค่ะ แต่ปีนี้มาลองใช้โลชั่นผสมสารกันแดดค่ะ spf30+ เนื้อดีเหมือนโลชั่นสูตรอื่นๆ เลยค่ะ แต่จะต่างจากเนื้อเซรั่ม แต่ทาแล้วไม่ขาว ไม่วอก ทาง่าย มีผสมสารกันแดดมาด้วย แต่ยังไงก็ต้องทากันแดดตัวเพิ่มอยู่ดีนะค้า โปรดอย่าวางใจแดดนรกเมืองไทยค่ะ
8.แผ่นแปะสิว Olive Young ค่า
เป็นแผ่นแปะสิวของเกาหลี ราคาน่ารัก ได้เยอะ มี 2 ขนาดในซอง ดูดสิวได้ดีมากค่ะ