การพิสุจน์ และให้ข้อสรุปสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ต้องมี ผู้สังเกตุ หรือเครื่องมือที่ไปส้งเกต หรืออย่างน้อยต้องเริ่มต้นจากเครื่องมือนั้น
การพิสูน์ทางคณิตศาสตร์ ต้องมีปริมาณ หรือตัววัดปริมาณ หรืออย่างน้อยต้องเริ่มจากตรงนั้น
การพิสูจน์ทางตรรกศาสตร์เกี่ยวกับพระเจ้า ต้องจบโดยไม่มีข้อโตแย้ง หรืออย่างน้อยต้องเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ไม่ใช่คำตอบของทางเลือก
ซึ่งทั้งสามข้อนี้ ยังไม่มีข้อใดพิสูจน์สถานะการมีตัวตนของพระเจ้า หรือผู้สร้างได้

นั่นเป็นเหตุผลหลักๆที่เรายังไม่สามาถรเอาวิชาการเหล่นี้ไปรับรองการมีอยู่ของพระเจ้าได้

ทฤษฏีต่างๆที่อ้างถึงกัน นั้นยังอยู่ในขั้น ตอนของ เรื่อง ความเป็นระเบียบ โดยสมบูรณ์
หรือ การ พูดถึงภาวะอนันต์และไม่ภาวะที่มีขอบเขตเช่น

พระเจ้า อยุ่ในภาะวอนันต์ 
สังสารวัฏก็สามารถวางไว้ในภาวะอนันต์ได้
การเกิดดับไม่สิ้นสุดของจักวาล ก็ถูกจัดวางในภาวะอนันต์
หรือถ้าจะมีน้องเอทิสสักคน เติมว่า ฟาสต้าฟาเรียน หรือมนุษย์ต่างดาวอยู่ในภาวะอนันต์นั้นก็ย่อมทำได้
ได้เป็นต้น

ข้อโต้แย้งด้านตรรกศาสตร์ หรือ ความเป็นระเบียบที่น้องๆดำเนินกันอยู่นั้น
ถูกล้มล้างง่ายมาก และ ทำให้คนเชื่อได้ในสังคมเล็กๆที่เราอยู่ ซึ่งวันหนึ่ง
เมื่อมันขยายขึ้นจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดี 

เหมือนตอนที่เจ้าหน้าที่มุสลิมเราท่านหนึ่งเรียก น้ำแดงในเนื้อไก่ตามตลาดว่าเลือด เพียงเพราะ
จะไปตำหนิเรื่องไม่ขอตราฮาลาลของ ร้านขายไก่ทอดเชนใหญ่ 

แนวคิดที่ผูกโยงวิทยาศาสตร์ ที่ครึ่งๆกลางๆ ของ หนุ่มสาวมุสลิมในยุคปัจจุบัน
นอกจากจะมีพื้นฐานทางศาสนาที่ไม่มั่นคงแล้ว
ความก้าวร้าวทางวิชาการ  ที่เพราะคิดว่า เรามีความแม่นยำด้านความรู้ทางวิชาการประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์
แล้วไปเอาความมั่นใจนี้ ไปปฏิบัติกับศาสนาอื่น หรือ ลัทธิความเชื่ออื่นในอิสลามด้วยความก้วร้าวทางวิชากรนั้น
ก็ยิ่งทำให้สังคมมุสลิมไทยน่าเป็นห่วง

อยากให้น้องๆสายนี้ลองทบทวนแนวทางดูนะครับ