
นายเอกกำลังนั่งสมาธิฝึกความชำนาญในการใช้กสิณ10

เขาระลึกไปถึงเมื่อวานย้อนไปเรื่อยๆไปในอดีตเป็น1วัน2วัน
1สัปดาห์1เดือน
1ปี
10ปีจนถึงตอนเด็ก
และข้ามขีดจำกัดระลึกไปอดีตชาติ
มีอยุ่ชาติหนึ่งที่เขาเคยเกิดเป็นแมงป่อง
เอกรู้สึกได้ถึงธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า
สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
ต่อมา
เอกยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในหมู่บ้านของเขา เขายังคงปลอมตัวเป็นสาวสวยเพื่อพยายามจับคนร้ายที่ชอบทำร้ายผู้หญิง
เขาอาศัยที่บ้านเอ็ม เอ็มให้เขานอนห้องเดียวกันเพราะสงสาร
เอกที่ปลอมเป็นผู้หญิงชื่อเอ ปฎิเสธ เพราะเขินอาย
แต่เอ็มก็บังคับ
นี่เป็นผู้หญิงนอนด้วยกันไม่เป็นอะไรหรอก อีกอย่างเราจะได้มีอะไรปรึกษากันด้วยจะได้สนิทกัน เอ็มพูด
เอกจึงจำเป็นต้องนอนห้องเดียวกันกับเอ็ม เขาพยายามนึกถึงคำสอน ที่ว่า โทสะมีโทษ ราคะมีโทษ โมหะมีโทษ
วันหนึ่ง เอกได้รับโทรศัพท์จากเอ็ม เธอบอกว่าเธอมีธุระต้องไปที่อำเภอเลิงนกทา และขอให้เอกไปด้วย
เอกตกลงที่จะไปพร้อมกับเอ็ม พวกเขาออกเดินทางในตอนเช้าและใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงอำเภอเลิงนกทา
พวกเขาไปหาร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นพวกเขาก็เดินเล่น
เอกเห็นผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสออกมาจากหมู่บ้านบ้าง
พวกเขาต้องมีธุระต่อที่ห้างโลตัสยโสธร พวกเขาเข้าไปในห้างและเดินดูสินค้าต่างๆ
เอกเห็นสินค้ามากมายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใหม่ๆ ที่เขาได้เห็น
พวกเขาเดินเล่นอยู่ในห้างเป็นเวลานาน เมื่อรู้สึกเหนื่อย พวกเขาก็ไปหาที่นั่งพัก
พวกเขานั่งพักอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ
เอกและเอ็มรีบวิ่งไปดูต้นเสียง พวกเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกชายคนหนึ่งทำร้าย
เอกใช้วิชากสิณแสงสว่างสร้างภาพลวงตาให้ตัวเองกลายเป็นคนตัวใหญ่ เขาเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้น
ชายคนนั้นตกใจกลัวเมื่อเห็นเอกตัวใหญ่ เขารีบวิ่งหนีไป
ผู้หญิงคนนั้นขอบคุณเอกที่ช่วยเธอไว้ เอกบอกว่าไม่เป็นไร เขายินดีช่วย
ผู้หญิงคนนั้นบังเอิญเป็นนัทนั้นเอง
เอกและนัทพูดคุยกันสักพัก
นัทชวนเอกไปทานอาหารเย็นด้วยกัน เอกตกลงไป
พวกเขาไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
----------------
วันต่อมา
นายเอก ชายหนุ่มผู้ได้รับการสอนการใช้พลังจิตจากพระธุดงค์นิรนาม
กำลังเดินทางจากหมู่บ้านเล็กๆ ไปยังจังหวัดยโสธร เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ชื่อมานะ
ระหว่างทาง เอกได้แวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอเลิงนกทา
เอกนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทดังมาจากโต๊ะข้างๆ
เอกหันไปดู ก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังต่อว่าหญิงสาวคนหนึ่งอย่างรุนแรง
หญิงสาวพยายามอธิบายว่าเธอไม่ได้ทำผิด แต่ชายคนนั้นก็ไม่ฟัง เขายังคงต่อว่าเธออยู่เรื่อยๆ
เอกรู้สึกสงสารหญิงสาว จึงตัดสินใจเข้าไปห้ามปราม
"เฮ้ย! ทำอะไรน่ะ" เอกตะโกน
ชายคนนั้นหันมามองเอกด้วยความโมโห
"เรื่องของข้า ไม่เห็นต้องยุ่ง" ชายคนนั้นพูด
"ก็เรื่องของฉันด้วย" เอกตอบ "แกอย่ารังแกผู้หญิง"
ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ
"แล้วแกจะทำไมล่ะ" ชายคนนั้นถาม
เอกยิ้ม
"ฉันจะจัดการแกเอง" เอกตอบ
เอกใช้กสิณไฟแต่ความชำนาญของเขายังมีไม่มากทำให้พลาดท่า
เกือบโดนต่อยแต่ดีที่เขามีทักษะติดตัวอยู่บ้างทำให้หลบการโจมตีได้ทำให้ชายคนนั้นโดนเขาจับได้
และใช้กสิณน้ำแผ่เมตตาให้เขาจนเขารู้สึกมึนงง ชายคนนั้นพยายามจะสู้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ถูก
เอกจับชายคนนั้นไว้และพาไปส่งตำรวจ ชายคนนั้นถูกจับและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
หญิงสาวรู้สึกขอบคุณเอกที่ช่วยเธอไว้ เธอยกมือไหว้เอกด้วยความขอบคุณ
"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉันไว้" หญิงสาวพูด
"ไม่เป็นไร" เอกตอบ "ฉันแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง"
เอกรับประทานอาหารกลางวันจนเสร็จแล้ว จึงเดินทางต่อไปยังจังหวัดยโสธร
เมื่อเอกมาถึงห้างสรรพสินค้ายโสธร เขาก็เห็นคนจำนวนมากกำลังวิ่งหนีกันไปมา
เขาจึงรีบเข้าไปดู ก็พบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังก่อเหตุใช้ปืนข่มขู่พนักงานและลูกค้าภายในห้างสรรพสินค้า
เอกรู้สึกตกใจและโกรธมาก เขาตัดสินใจใช้พลังจิตของเขาปราบคนร้าย
เอกใช้กสิณดินทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง คนร้ายพยายามจะยิงปืนใส่เอก แต่เอกกลับไม่เป็นอะไร ทุกคนแปลกใจมาก
เอกจับคนร้ายไว้และพาไปมอบตัวกับตำรวจ คนร้ายถูกจับและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย
เอกยังคงเดินทางต่อไปเพื่อเยี่ยมเพื่อนเก่าของเขาที่จังหวัดยโสธร เมื่อเขามาถึงบ้านของมานะ เขาก็พบว่ามานะกำลังรอเขาอยู่
เอกและมานะใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พวกเขาพูดคุยกัน หัวเราะกัน และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน
จบตอนที่4
นิยาย พระธุดงค์ลึกลับคอนนายเอกระลึกชาติ
นายเอกกำลังนั่งสมาธิฝึกความชำนาญในการใช้กสิณ10
เขาระลึกไปถึงเมื่อวานย้อนไปเรื่อยๆไปในอดีตเป็น1วัน2วัน
1สัปดาห์1เดือน
1ปี
10ปีจนถึงตอนเด็ก
และข้ามขีดจำกัดระลึกไปอดีตชาติ
มีอยุ่ชาติหนึ่งที่เขาเคยเกิดเป็นแมงป่อง
เอกรู้สึกได้ถึงธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า
สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
ต่อมา
เอกยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในหมู่บ้านของเขา เขายังคงปลอมตัวเป็นสาวสวยเพื่อพยายามจับคนร้ายที่ชอบทำร้ายผู้หญิง
เขาอาศัยที่บ้านเอ็ม เอ็มให้เขานอนห้องเดียวกันเพราะสงสาร
เอกที่ปลอมเป็นผู้หญิงชื่อเอ ปฎิเสธ เพราะเขินอาย
แต่เอ็มก็บังคับ
นี่เป็นผู้หญิงนอนด้วยกันไม่เป็นอะไรหรอก อีกอย่างเราจะได้มีอะไรปรึกษากันด้วยจะได้สนิทกัน เอ็มพูด
เอกจึงจำเป็นต้องนอนห้องเดียวกันกับเอ็ม เขาพยายามนึกถึงคำสอน ที่ว่า โทสะมีโทษ ราคะมีโทษ โมหะมีโทษ
วันหนึ่ง เอกได้รับโทรศัพท์จากเอ็ม เธอบอกว่าเธอมีธุระต้องไปที่อำเภอเลิงนกทา และขอให้เอกไปด้วย
เอกตกลงที่จะไปพร้อมกับเอ็ม พวกเขาออกเดินทางในตอนเช้าและใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงอำเภอเลิงนกทา
พวกเขาไปหาร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นพวกเขาก็เดินเล่น
เอกเห็นผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสออกมาจากหมู่บ้านบ้าง
พวกเขาต้องมีธุระต่อที่ห้างโลตัสยโสธร พวกเขาเข้าไปในห้างและเดินดูสินค้าต่างๆ
เอกเห็นสินค้ามากมายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใหม่ๆ ที่เขาได้เห็น
พวกเขาเดินเล่นอยู่ในห้างเป็นเวลานาน เมื่อรู้สึกเหนื่อย พวกเขาก็ไปหาที่นั่งพัก
พวกเขานั่งพักอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ
เอกและเอ็มรีบวิ่งไปดูต้นเสียง พวกเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกชายคนหนึ่งทำร้าย
เอกใช้วิชากสิณแสงสว่างสร้างภาพลวงตาให้ตัวเองกลายเป็นคนตัวใหญ่ เขาเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้น
ชายคนนั้นตกใจกลัวเมื่อเห็นเอกตัวใหญ่ เขารีบวิ่งหนีไป
ผู้หญิงคนนั้นขอบคุณเอกที่ช่วยเธอไว้ เอกบอกว่าไม่เป็นไร เขายินดีช่วย
ผู้หญิงคนนั้นบังเอิญเป็นนัทนั้นเอง
เอกและนัทพูดคุยกันสักพัก
นัทชวนเอกไปทานอาหารเย็นด้วยกัน เอกตกลงไป
พวกเขาไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
----------------
วันต่อมา
นายเอก ชายหนุ่มผู้ได้รับการสอนการใช้พลังจิตจากพระธุดงค์นิรนาม
กำลังเดินทางจากหมู่บ้านเล็กๆ ไปยังจังหวัดยโสธร เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ชื่อมานะ
ระหว่างทาง เอกได้แวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอเลิงนกทา
เอกนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทดังมาจากโต๊ะข้างๆ
เอกหันไปดู ก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังต่อว่าหญิงสาวคนหนึ่งอย่างรุนแรง
หญิงสาวพยายามอธิบายว่าเธอไม่ได้ทำผิด แต่ชายคนนั้นก็ไม่ฟัง เขายังคงต่อว่าเธออยู่เรื่อยๆ
เอกรู้สึกสงสารหญิงสาว จึงตัดสินใจเข้าไปห้ามปราม
"เฮ้ย! ทำอะไรน่ะ" เอกตะโกน
ชายคนนั้นหันมามองเอกด้วยความโมโห
"เรื่องของข้า ไม่เห็นต้องยุ่ง" ชายคนนั้นพูด
"ก็เรื่องของฉันด้วย" เอกตอบ "แกอย่ารังแกผู้หญิง"
ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ
"แล้วแกจะทำไมล่ะ" ชายคนนั้นถาม
เอกยิ้ม
"ฉันจะจัดการแกเอง" เอกตอบ
เอกใช้กสิณไฟแต่ความชำนาญของเขายังมีไม่มากทำให้พลาดท่า
เกือบโดนต่อยแต่ดีที่เขามีทักษะติดตัวอยู่บ้างทำให้หลบการโจมตีได้ทำให้ชายคนนั้นโดนเขาจับได้
และใช้กสิณน้ำแผ่เมตตาให้เขาจนเขารู้สึกมึนงง ชายคนนั้นพยายามจะสู้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ถูก
เอกจับชายคนนั้นไว้และพาไปส่งตำรวจ ชายคนนั้นถูกจับและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
หญิงสาวรู้สึกขอบคุณเอกที่ช่วยเธอไว้ เธอยกมือไหว้เอกด้วยความขอบคุณ
"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉันไว้" หญิงสาวพูด
"ไม่เป็นไร" เอกตอบ "ฉันแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง"
เอกรับประทานอาหารกลางวันจนเสร็จแล้ว จึงเดินทางต่อไปยังจังหวัดยโสธร
เมื่อเอกมาถึงห้างสรรพสินค้ายโสธร เขาก็เห็นคนจำนวนมากกำลังวิ่งหนีกันไปมา
เขาจึงรีบเข้าไปดู ก็พบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังก่อเหตุใช้ปืนข่มขู่พนักงานและลูกค้าภายในห้างสรรพสินค้า
เอกรู้สึกตกใจและโกรธมาก เขาตัดสินใจใช้พลังจิตของเขาปราบคนร้าย
เอกใช้กสิณดินทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง คนร้ายพยายามจะยิงปืนใส่เอก แต่เอกกลับไม่เป็นอะไร ทุกคนแปลกใจมาก
เอกจับคนร้ายไว้และพาไปมอบตัวกับตำรวจ คนร้ายถูกจับและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย
เอกยังคงเดินทางต่อไปเพื่อเยี่ยมเพื่อนเก่าของเขาที่จังหวัดยโสธร เมื่อเขามาถึงบ้านของมานะ เขาก็พบว่ามานะกำลังรอเขาอยู่
เอกและมานะใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พวกเขาพูดคุยกัน หัวเราะกัน และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน
จบตอนที่4