ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเล่าเรื่องนี้ มุมหนึ่งเราคิดว่าเราอาจจะอุปทานไปเอง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์แปลกอีกครั้งในปีถัดมา (ก่อนอื่นต้องบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)
ปีที่แล้วเราทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคมของทุกปี บริษัทจะจัดสัมมนาเป็นประจำยกเว้นปีที่มีโควิดระบาดหนัก สถานที่พักเป็นที่ของผู้ใหญ่คนหนึ่งในตระกูลเจ้าของ เนื้อที่กว้างใหญ่คล้ายรีสอร์ทโบราณ อยู่ในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือตอนบน
ขอเล่าเหตุการณ์ปีที่แล้วก่อน แล้วค่อยมาเหตุการณ์ปีนี้นะคะ
ปีที่แล้ว วันแรกที่ไปถึงที่นั่นด้วยความที่เรากับเพื่อนเราอีก 3 คนเป็นบุคลากรใหม่ไม่เคยไป ลงจากรถก็ปวดฉิ้งฉ่อง ที่จอดรถไม่ได้อยู่ตรงอาคารที่พักนะคะ คือต้องเดินจากลานจอดข้ามสวนหย่อมข้ามสระเลี้ยงปลากว่าจะถึงอาคาร เพื่อนๆ บอกว่าไม่น่าจะทนไปถึง เลยถามรุ่นพี่ว่าแถวๆ นี้มีห้องน้ำหรือไม่ รุ่นพี่บอกว่ามีแล้วชี้มือไป เรากับเพื่อนและมีพนักงานแผนกอื่นเดินไปด้วยกัน ทิ้งกระเป๋าไว้ตรงลานนั้นก่อน เดินไปไม่ไกลก็ถึง ห้องน้ำสะอาดแม้ดูโบราณแต่ไม่ผุพังนะ
หลังจากเราและเพื่อนเสร็จธุระที่ห้องน้ำ ก็เดินกลับมาที่รถเพื่อจะมาลากกระเป๋าตัวเอง แต่ไม่มีกระเป๋าแล้ว ไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีรถด้วย
ระหว่างกำลังยืนงง มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่า "รีบเข้าไปสิ ทุกคนรออยู่" เราไม่เห็นนะว่าใครพูดแต่เพื่อนเราเห็น บอกว่าเป็นแม่บ้านมั้งเดินกลับไปหลังต้นไม้แล้ว ก็เลยตัดสินใจว่ารีบเข้ามาที่อาคารที่พักก่อน คงมีใครเข็นกระเป๋าล้อลากของพวกเราเข้าไปแล้ว ตอนนั้นเวลาประมาณห้าโมงเย็นนิดๆ
จริงตามนั้น คนสวนที่นั่นช่วยเข็นกระเป๋าพวกเราเข้าไปวางกลางโถงใต้อาคาร โถงมีลักษณะโล่งไม่มีผนัง มีเพียงเสาปูนกับบันไดทั้ง 2 ข้าง และห้องใต้บันไดเป็นที่เก็บของ ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ฝ่ายบุคคลแจ้งกำหนดการ พวกเรารีบเอากระเป๋าไปเก็บตามห้องที่เขาจัดให้ ห้องหนึ่งพัก 3 คน แต่เพื่อนเราขออยู่ด้วยกัน ห้องเราเลยพัก 4 คน แม่บ้านนำเบาะที่นอนมาให้เพิ่ม จัดที่นอนกันเสร็จก็ลงมาร่วมกิจกรรม
หลังจากร่วมกิจกรรมเบาๆ ของวันแรก ก็พักรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารพื้นเมืองที่เหมาชุมชนเข้ามาจัดให้ และมีดนตรีไทยบรรเลงสด (ตรงนี้ข้ามไปก่อน)
สักพักเพื่อนเราสมมุติว่าชื่อ อร นะ บอกว่ารู้สึกปวดหัวมาก เพลียๆ เหมือนจะเป็นไข้ ขอขึ้นไปนอนพัก เราแจ้งฝ่ายบุคคลแล้วพาอรขึ้นไปห้องพัก อรขอนอนฝั่งริมผนังทางระเบียงด้านหลังห้อง เพราะไม่โดนแอร์มากนัก พวกเรากลับลงมาร่วมกิจกรรมต่อ อีกไม่นานก็เสร็จกิจกรรมคืนนี้ เขาจะพาไปแหล่งช้อปปิ้งกลางคืน อันนี้ตามความสมัครใจ แต่เราไม่ไปเพราะห่วงอร ให้เพื่อนอีก 2 คนไปมีอะไรน่าสนใจให้ส่งไลน์มาบอก
บนห้อง อรนอนตะแคงอยู่ เราเรียกอรเบาๆ อรไม่ตื่น เราเลยไปอาบน้ำ ระหว่างที่เราอาบน้ำ เหมือนได้ยินเสียงพูดจากนอกห้องน้ำ ตั้งใจฟัง เออ.ไม่ใช่เสียงพูดเหมือนเสียงฮัมเพลง เป็นเสียงผู้หญิง อรคงดีขึ้นแล้วมั้ง เราอาบน้ำต่อ
ออกจากห้องน้ำ ไม่มีอรอยู่ตรงเบาะ นั่นไง! คงตื่นแล้วไปฮัมเพลงระเบียงด้านหลังมั้ง แต่เรานุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกอยู่เลยไม่กล้าเปิดประตูระเบียงด้านหลังไป ต้องแต่งตัวชุดนอนหมีตัวโปรดก่อน
แต่งตัวเสร็จ เราไปเปิดประตูระเบียงด้านหลังซึ่งกว้างนะ กว้างพอๆ กับห้องครัวที่บ้านเรา 'ไม่มีอร' อยู่ตรงนั้น
"อร.. หายไปไหนฟะ"
ไลน์เด้งดึ๊ง เพื่อนส่งรูปของกินมาให้ดู "เอามั้ยๆ" เพิ่งอิ่ม กินได้อีกเนอะ
เราเดินออกมาตามหาอรที่ระเบียงด้านหน้าห้องที่เชื่อมกับทางขึ้นลงอาคาร ไม่มีใคร ทุกคนไปช้อปปิ้งกันอาคารเงียบมาก และ 'ไม่เห็นอร'
ไฟฟ้าที่อาคารเริ่มกระพริบ ไม่แน่ใจว่าเขาใช้เครื่องปั่นไฟหรือเปล่า เราก็ใจแป้วนะ อย่านะ อย่าเหมือนในละคร กลัวเฟ้ย เดินลงไปห้องโถงดีกว่าเผื่อเจอใคร
ที่ห้องโถงยังมีแม่บ้านเคลียร์สถานที่ใกล้เสร็จแล้ว กำลังจะกลับห้องพัก เราเข้าไปถามว่าเห็นเพื่อนเราหรือไม่ ไม่มีใครเห็น แม่บ้านใจดีมากๆ คืออยู่ช่วยเราตามหาเพื่อน แต่ไม่เจอ คนสวนบอกว่าเขาอยู่ที่สระปลากัน มีเวรเฝ้ากันขโมยด้วย ถ้ามีใครผ่านมาเขาต้องเห็น เราจึงกลับขึ้นบนห้องพักอีกครั้งมีแม่บ้านไปเป็นเพื่อน 2 คน แต่ 'ไม่เจออร'
เราตัดสินใจโทรหาเพื่อนทั้ง 2 คนที่ไปช้อปปิ้ง บอกว่าหาอรไม่เจอ
(สักครู่กลับมาเล่าต่อนะคะ ขอไปทำอาหารเย็นก่อน)

มาต่อ เพื่อนเราตอบกลับมาว่าอะไรฟังไม่รู้เรื่อง เสียงแบบกลายเป็นบอท โทรไปอีกครั้งโทรไม่ติด คงแบตหมด ไลน์ไปก็ไม่อ่าน เออ.ก็แบตหมดนี่นา เราเลยโทรไปหาเพื่อนอีกคนที่ไปด้วย โทรไม่ติดไม่มีสัญญาณตอบรับ คงแบตหมดเหมือนกัน เดินทางมาทั้งวัน
ระหว่างกำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรดี ไลน์เด้งดึ๊ง
เป็นไลน์จากอร
"เราเกียรตินะ จัดซื้อ"
อ่อ เกียรติ ฝ่ายจัดซื้อ เราไม่สนิทอ่ะ แล้วทำไมใช้ไลน์ของอร
"อรกลัวจะเป็นห่วง
อรหาหมอเสร็จแล้ว
กำลังจะกลับไปรวมกับรถตู้"
นึกได้ เกียรติเคยมองๆ อรอยู่หลายที ไปจีบกันตอนไหน เราเลยบอกว่าเดี๋ยวโทรไป
เราโทรกลับไปขอคุยกับอรทันที อรรับสายบอกฉีดยาแล้ว กำลังจะกลับไปพัก เสียงไม่ค่อยมี
อ๋อ กลับรวมกับรถตู้ที่พาคนไปช้อปปิ้ง
ไปเจอกันกับรถตู้ได้ยังไง งงเฟ้ย
ใช้รถตู้หลายคัน เพราะคนเยอะะ คงจะเจอกันสักคันล่ะน่า
เราโล่งใจ พูดขอบคุณแม่บ้านที่อยู่เป็นเพื่อน แม่บ้านกลับไปพัก
อรกลับมาถึงก็เวลาเดียวกับที่กลุ่มไปช้อปปิ้งกลับมา เสียงคนเดิน พูดคุย หัวเราะ กลับมาอีกครั้ง
เพื่อน 2 คน หิ้วของกิน ขนมมาเพียบ ส่วนอรหลังจากเข้าห้องน้ำก็ไปนอนพัก
เรารู้สึกเหมือนมีอะไรคาใจอยากถาม แต่อรป่วย เอาไว้ก่อน
รุ่งเช้า อรดีขึ้นนิดหน่อยแต่ยังไม่หายป่วย ลงไปกินข้าวต้มได้
เข้าห้องสัมมนาไปถึงช่วงพักกินกาแฟ อรขอตัวไปนอนพัก เราไปส่ง แล้วถือโอกาสถามอร
"ให้เกียรติพาไปหาหมอตอนไหนเนี่ย"
"ไม่ได้ให้เกียรติพาไป ฝ่ายบุคคลพาไป แล้วเกียรติเขาอาสาดูต่อให้ พี่ฝ่ายบุคคลจะได้ไปดูกลุ่มที่ไปช้อปปิ้ง" อรตอบ
"ตอนไหน ตอนที่เราอยู่ห้องน้ำหรอ" เราถามเพราะงง
อรทำหน้างงกว่าเราอีก "ตอนเขาประกาศจะไปช้อปปิ้งไง ตอนนั้นมีแม่บ้านมาเรียกอร อรลงไปถามพี่ฝ่ายบุคคลจะไปขอยา แต่พี่เขาให้ขึ้นรถไปหาหมอดีกว่า เพราะรถเข้าในเมือง ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ห้องน้ำนะ อรยังเข้าห้องน้ำก่อนออกไปเลย โบกมือให้ (เอ่ยชื่อเพื่อนอีก 2 คน) ด้วยว่าอรอยู่คันนี้นะ"
แม่บ้านคนไหน เมื่อคืนที่เราไปถามหาอร ไม่มีใครพูดถึง ยังช่วยกันหา
มาเรียกอรตอนไหน ทำไมไม่สวนกับเราตอนเรากลับขึ้นอาคาร
เราไม่ปล่อยความสงสัยไว้นาน ช่วงกินอาหารเที่ยง ก่อนจะเข้าห้องสัมมนาต่อ เราไปถามแม่บ้านว่าใครไปเรียกอร จะขอบคุณซะหน่อย
แม่บ้านมองหน้ากัน แล้วบอกว่าไม่มีนะ เมื่อวานก็อยู่กันครบตอนเราไปถามหาเพื่อน
เฮ้ย!
แล้วอรก็ไม่ได้เห็นหน้าแม่บ้านนะ ได้ยินแค่เสียงเรียกหน้าประตู
เออ ช่างมัน คิดซะว่าไม่มีอะไร หลังจากนั้นเราก็อยู่กันเป็นกลุ่มตลอด จนกลับ
................. จบของปีที่แล้ว ......................
**ปีนี้
เราไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้ว ออกมาทำงานอิสระ แต่เพื่อนเรายังทำอยู่
แล้วเพื่อนๆ เพิ่งไปสัมมนา พักที่นั่น ที่เดิม และบังเอิญมั้งเป็นห้องเดิม พัก 3 คน
อร ป่วยอาการเดิมในวันแรกที่ไปถึง เหมือนเหตุการณ์วนรอบอีกครั้ง
แต่ช่วงไปช้อปปิ้ง คนที่ไม่อยากไปมีเยอะ รวมทั้งเพื่อนทั้ง 2 คน ก็ไม่ไป จะเก็บเงินไว้
เราอาจจะเล่าไม่ละเอียดแบบเห็นภาพนะสำหรับปีนี้ เพราะเราไม่ได้ไป
สมมุติว่าเพื่อนเรา 2 คนนี้ชื่อ G1 กับ G2 นะ (เล่าใกล้จะจบแล้วเพิ่งตั้งชื่อให้เพื่อน)
และนี่คือที่ G1 เล่ามา..
"เราเห็น อร เดินออกจากห้องไปกลางดึก ตอนนั้นไฟฟ้าดับ แอร์ดับ รู้สึกตัวเพราะร้อน เราคิดว่าอรคงร้อน นางเดินดุ่ยๆ เราอยากบอกให้ไประเบียงด้านหลังกันมั้ย เพราะลมเย็นสบาย แต่ G2 ไวกว่าเราเว้ย วิ่งไปจับแขนนาง แล้วปล่อยทันที G2 ค่อยๆ ถอยหลังมาหาเรา ทำหน้าแบบตกใจ เราก็หยุดเดินเลยเว้ย เหมือนได้รับรหัสว่าควรถอย เราถอยเว้ย จะบอกว่ากลัวก็กลัว"
เราถามไปอย่างขำๆ ว่าเห็นอรเดินออกไปได้อย่างไร ในเมื่อไฟฟ้าดับ แล้วกลัวอะไร
"มีไฟฉุกเฉินจากเครื่องปั่นไฟข้างนอกโน่น แต่ไม่ใช่หน้าระเบียงนะ ไม่เหมือนปีที่แล้ว ปีนี้ไฟน้อยสถานที่ไม่ค่อยสว่าง ก็พอจะเห็นร่างตะคุ่มๆ แล้วเรากับ G2 ก็ตื่นสะกิดกัน แล้วตอนที่ G2 ไปจับแขนอร G2 บอกว่าแขนอร แข็งมาก และเย็น"
"เฮ้ย! ก็ไม่แปลกหรอก นอนห้องแอร์ก็ตัวเย็นสิ" เราคิดว่างั้น แต่พูดจบก็นึกได้ว่า อรป่วยนี่นา ทำไมตัวเย็น
"ไม่รู้สิ เรากับ G2 เลยถอยเข้าห้อง ใจนึงก็ห่วงอรนะแต่กลัว คิดว่าเดี๋ยวห้องอื่นก็ตื่นออกมาเพราะไฟฟ้าดับ แต่แกรู้มั้ยพอเรากลับเข้าห้องแอร์ก็ทำงานปกติ ห้องเย็น ไม่มีเสียงห้องไหนตื่นเลย"
เออ. มันก็อาจจะปกตินะ ไฟดับแล้วไฟก็ติด ที่คอนโดเราก็ดับบ่อยในหน้าฝน
"แก................................." ลากเสียงยาวมาก
"ไฟในห้องเปิดเว้ย แล้วคนที่เปิดคือ .....................อร"
"อรมองหน้าเรา 2 คน แล้วถามว่าจะไปไหนกันดึกๆ"
"แล้วแก...........................อรยืนอยู่ข้างที่นอนนาง แก........................."
จุดที่เปิดไฟได้ในห้องจะมีจากทางเข้าประตูด้านหน้าเข้ามา และตรงใกล้ประตูด้านหลัง อรเปิดไฟจากจุดผนังด้านหลัง
ส่วนที่นอนไม่มีเตียงนะคะ เป็นเบาะนอนหุ้มด้วยผ้าสีขาววางบนพื้น
"คนบุกรุกเข้ามาหรือเปล่า" เราถามไปเพราะเป็นไปได้ แต่คิดอีกที ยากนะ สถานที่ปิดแบบนี้ แต่ไม่ตัดทิ้ง อาจเป็นไปได้
"แล้วแกไม่ได้เห็นหน้าคนที่แกคิดว่าเป็นอรตอนแรกใช่มั้ย เพราะไฟดับ"
G1: "ก็เห็นในความสลัวๆ นั่นล่ะเรามั่นใจว่าเป็นอร แกคิดดู ตอนพวกเราจะไปดึงนางกลับ เรา 2 คน 4 ตานะเว้ยเห็นนางใส่ชุดนอนที่อรใส่อยู่ จะไม่ใช่ได้ยังไง"
"แล้วแกทำยังไงกันต่อ" เราถามไป
"ก็ไม่หลับต่อ รุ่งเช้าเราขอย้ายห้อง เราเล่าให้พี่ฝ่ายบุคคลว่าเราเจอ.. นั่นล่ะ แต่ไม่มีห้องแล้ว ถ้าไปห้องอื่นต้องแยกกันไปคนละห้อง ไม่งั้นเราขอไปเช่าห้องข้างนอกอยู่เอง เลยได้ไปพักที่บ้านรับรองอีกหลัง แต่อยู่นอกบริเวณนี้ ไปกันทั้ง 3 คน"
----- ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี คนไม่เคยเจอก็ไม่เจอ คนเจอก็เจอ แต่ยังไงเพื่อนเรารอดปลอดภัย เราก็สบายใจแล้ว ----
ใครมีประสบการณ์คล้ายกันบ้างคะ ?
**เป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่อนุญาตให้นำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้ค่ะ นำมาลงในนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังเท่านั้น"
ใครอยู่ในห้องพัก - ประสบการณ์เรื่องหลอน
ปีที่แล้วเราทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคมของทุกปี บริษัทจะจัดสัมมนาเป็นประจำยกเว้นปีที่มีโควิดระบาดหนัก สถานที่พักเป็นที่ของผู้ใหญ่คนหนึ่งในตระกูลเจ้าของ เนื้อที่กว้างใหญ่คล้ายรีสอร์ทโบราณ อยู่ในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือตอนบน
ขอเล่าเหตุการณ์ปีที่แล้วก่อน แล้วค่อยมาเหตุการณ์ปีนี้นะคะ
ปีที่แล้ว วันแรกที่ไปถึงที่นั่นด้วยความที่เรากับเพื่อนเราอีก 3 คนเป็นบุคลากรใหม่ไม่เคยไป ลงจากรถก็ปวดฉิ้งฉ่อง ที่จอดรถไม่ได้อยู่ตรงอาคารที่พักนะคะ คือต้องเดินจากลานจอดข้ามสวนหย่อมข้ามสระเลี้ยงปลากว่าจะถึงอาคาร เพื่อนๆ บอกว่าไม่น่าจะทนไปถึง เลยถามรุ่นพี่ว่าแถวๆ นี้มีห้องน้ำหรือไม่ รุ่นพี่บอกว่ามีแล้วชี้มือไป เรากับเพื่อนและมีพนักงานแผนกอื่นเดินไปด้วยกัน ทิ้งกระเป๋าไว้ตรงลานนั้นก่อน เดินไปไม่ไกลก็ถึง ห้องน้ำสะอาดแม้ดูโบราณแต่ไม่ผุพังนะ
หลังจากเราและเพื่อนเสร็จธุระที่ห้องน้ำ ก็เดินกลับมาที่รถเพื่อจะมาลากกระเป๋าตัวเอง แต่ไม่มีกระเป๋าแล้ว ไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีรถด้วย
ระหว่างกำลังยืนงง มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่า "รีบเข้าไปสิ ทุกคนรออยู่" เราไม่เห็นนะว่าใครพูดแต่เพื่อนเราเห็น บอกว่าเป็นแม่บ้านมั้งเดินกลับไปหลังต้นไม้แล้ว ก็เลยตัดสินใจว่ารีบเข้ามาที่อาคารที่พักก่อน คงมีใครเข็นกระเป๋าล้อลากของพวกเราเข้าไปแล้ว ตอนนั้นเวลาประมาณห้าโมงเย็นนิดๆ
จริงตามนั้น คนสวนที่นั่นช่วยเข็นกระเป๋าพวกเราเข้าไปวางกลางโถงใต้อาคาร โถงมีลักษณะโล่งไม่มีผนัง มีเพียงเสาปูนกับบันไดทั้ง 2 ข้าง และห้องใต้บันไดเป็นที่เก็บของ ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ฝ่ายบุคคลแจ้งกำหนดการ พวกเรารีบเอากระเป๋าไปเก็บตามห้องที่เขาจัดให้ ห้องหนึ่งพัก 3 คน แต่เพื่อนเราขออยู่ด้วยกัน ห้องเราเลยพัก 4 คน แม่บ้านนำเบาะที่นอนมาให้เพิ่ม จัดที่นอนกันเสร็จก็ลงมาร่วมกิจกรรม
หลังจากร่วมกิจกรรมเบาๆ ของวันแรก ก็พักรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารพื้นเมืองที่เหมาชุมชนเข้ามาจัดให้ และมีดนตรีไทยบรรเลงสด (ตรงนี้ข้ามไปก่อน)
สักพักเพื่อนเราสมมุติว่าชื่อ อร นะ บอกว่ารู้สึกปวดหัวมาก เพลียๆ เหมือนจะเป็นไข้ ขอขึ้นไปนอนพัก เราแจ้งฝ่ายบุคคลแล้วพาอรขึ้นไปห้องพัก อรขอนอนฝั่งริมผนังทางระเบียงด้านหลังห้อง เพราะไม่โดนแอร์มากนัก พวกเรากลับลงมาร่วมกิจกรรมต่อ อีกไม่นานก็เสร็จกิจกรรมคืนนี้ เขาจะพาไปแหล่งช้อปปิ้งกลางคืน อันนี้ตามความสมัครใจ แต่เราไม่ไปเพราะห่วงอร ให้เพื่อนอีก 2 คนไปมีอะไรน่าสนใจให้ส่งไลน์มาบอก
บนห้อง อรนอนตะแคงอยู่ เราเรียกอรเบาๆ อรไม่ตื่น เราเลยไปอาบน้ำ ระหว่างที่เราอาบน้ำ เหมือนได้ยินเสียงพูดจากนอกห้องน้ำ ตั้งใจฟัง เออ.ไม่ใช่เสียงพูดเหมือนเสียงฮัมเพลง เป็นเสียงผู้หญิง อรคงดีขึ้นแล้วมั้ง เราอาบน้ำต่อ
ออกจากห้องน้ำ ไม่มีอรอยู่ตรงเบาะ นั่นไง! คงตื่นแล้วไปฮัมเพลงระเบียงด้านหลังมั้ง แต่เรานุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกอยู่เลยไม่กล้าเปิดประตูระเบียงด้านหลังไป ต้องแต่งตัวชุดนอนหมีตัวโปรดก่อน
แต่งตัวเสร็จ เราไปเปิดประตูระเบียงด้านหลังซึ่งกว้างนะ กว้างพอๆ กับห้องครัวที่บ้านเรา 'ไม่มีอร' อยู่ตรงนั้น
"อร.. หายไปไหนฟะ"
ไลน์เด้งดึ๊ง เพื่อนส่งรูปของกินมาให้ดู "เอามั้ยๆ" เพิ่งอิ่ม กินได้อีกเนอะ
เราเดินออกมาตามหาอรที่ระเบียงด้านหน้าห้องที่เชื่อมกับทางขึ้นลงอาคาร ไม่มีใคร ทุกคนไปช้อปปิ้งกันอาคารเงียบมาก และ 'ไม่เห็นอร'
ไฟฟ้าที่อาคารเริ่มกระพริบ ไม่แน่ใจว่าเขาใช้เครื่องปั่นไฟหรือเปล่า เราก็ใจแป้วนะ อย่านะ อย่าเหมือนในละคร กลัวเฟ้ย เดินลงไปห้องโถงดีกว่าเผื่อเจอใคร
ที่ห้องโถงยังมีแม่บ้านเคลียร์สถานที่ใกล้เสร็จแล้ว กำลังจะกลับห้องพัก เราเข้าไปถามว่าเห็นเพื่อนเราหรือไม่ ไม่มีใครเห็น แม่บ้านใจดีมากๆ คืออยู่ช่วยเราตามหาเพื่อน แต่ไม่เจอ คนสวนบอกว่าเขาอยู่ที่สระปลากัน มีเวรเฝ้ากันขโมยด้วย ถ้ามีใครผ่านมาเขาต้องเห็น เราจึงกลับขึ้นบนห้องพักอีกครั้งมีแม่บ้านไปเป็นเพื่อน 2 คน แต่ 'ไม่เจออร'
เราตัดสินใจโทรหาเพื่อนทั้ง 2 คนที่ไปช้อปปิ้ง บอกว่าหาอรไม่เจอ
(สักครู่กลับมาเล่าต่อนะคะ ขอไปทำอาหารเย็นก่อน)
มาต่อ เพื่อนเราตอบกลับมาว่าอะไรฟังไม่รู้เรื่อง เสียงแบบกลายเป็นบอท โทรไปอีกครั้งโทรไม่ติด คงแบตหมด ไลน์ไปก็ไม่อ่าน เออ.ก็แบตหมดนี่นา เราเลยโทรไปหาเพื่อนอีกคนที่ไปด้วย โทรไม่ติดไม่มีสัญญาณตอบรับ คงแบตหมดเหมือนกัน เดินทางมาทั้งวัน
ระหว่างกำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรดี ไลน์เด้งดึ๊ง
เป็นไลน์จากอร
"เราเกียรตินะ จัดซื้อ"
อ่อ เกียรติ ฝ่ายจัดซื้อ เราไม่สนิทอ่ะ แล้วทำไมใช้ไลน์ของอร
"อรกลัวจะเป็นห่วง
อรหาหมอเสร็จแล้ว
กำลังจะกลับไปรวมกับรถตู้"
นึกได้ เกียรติเคยมองๆ อรอยู่หลายที ไปจีบกันตอนไหน เราเลยบอกว่าเดี๋ยวโทรไป
เราโทรกลับไปขอคุยกับอรทันที อรรับสายบอกฉีดยาแล้ว กำลังจะกลับไปพัก เสียงไม่ค่อยมี
อ๋อ กลับรวมกับรถตู้ที่พาคนไปช้อปปิ้ง
ไปเจอกันกับรถตู้ได้ยังไง งงเฟ้ย
ใช้รถตู้หลายคัน เพราะคนเยอะะ คงจะเจอกันสักคันล่ะน่า
เราโล่งใจ พูดขอบคุณแม่บ้านที่อยู่เป็นเพื่อน แม่บ้านกลับไปพัก
อรกลับมาถึงก็เวลาเดียวกับที่กลุ่มไปช้อปปิ้งกลับมา เสียงคนเดิน พูดคุย หัวเราะ กลับมาอีกครั้ง
เพื่อน 2 คน หิ้วของกิน ขนมมาเพียบ ส่วนอรหลังจากเข้าห้องน้ำก็ไปนอนพัก
เรารู้สึกเหมือนมีอะไรคาใจอยากถาม แต่อรป่วย เอาไว้ก่อน
รุ่งเช้า อรดีขึ้นนิดหน่อยแต่ยังไม่หายป่วย ลงไปกินข้าวต้มได้
เข้าห้องสัมมนาไปถึงช่วงพักกินกาแฟ อรขอตัวไปนอนพัก เราไปส่ง แล้วถือโอกาสถามอร
"ให้เกียรติพาไปหาหมอตอนไหนเนี่ย"
"ไม่ได้ให้เกียรติพาไป ฝ่ายบุคคลพาไป แล้วเกียรติเขาอาสาดูต่อให้ พี่ฝ่ายบุคคลจะได้ไปดูกลุ่มที่ไปช้อปปิ้ง" อรตอบ
"ตอนไหน ตอนที่เราอยู่ห้องน้ำหรอ" เราถามเพราะงง
อรทำหน้างงกว่าเราอีก "ตอนเขาประกาศจะไปช้อปปิ้งไง ตอนนั้นมีแม่บ้านมาเรียกอร อรลงไปถามพี่ฝ่ายบุคคลจะไปขอยา แต่พี่เขาให้ขึ้นรถไปหาหมอดีกว่า เพราะรถเข้าในเมือง ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ห้องน้ำนะ อรยังเข้าห้องน้ำก่อนออกไปเลย โบกมือให้ (เอ่ยชื่อเพื่อนอีก 2 คน) ด้วยว่าอรอยู่คันนี้นะ"
แม่บ้านคนไหน เมื่อคืนที่เราไปถามหาอร ไม่มีใครพูดถึง ยังช่วยกันหา
มาเรียกอรตอนไหน ทำไมไม่สวนกับเราตอนเรากลับขึ้นอาคาร
เราไม่ปล่อยความสงสัยไว้นาน ช่วงกินอาหารเที่ยง ก่อนจะเข้าห้องสัมมนาต่อ เราไปถามแม่บ้านว่าใครไปเรียกอร จะขอบคุณซะหน่อย
แม่บ้านมองหน้ากัน แล้วบอกว่าไม่มีนะ เมื่อวานก็อยู่กันครบตอนเราไปถามหาเพื่อน
เฮ้ย!
แล้วอรก็ไม่ได้เห็นหน้าแม่บ้านนะ ได้ยินแค่เสียงเรียกหน้าประตู
เออ ช่างมัน คิดซะว่าไม่มีอะไร หลังจากนั้นเราก็อยู่กันเป็นกลุ่มตลอด จนกลับ
................. จบของปีที่แล้ว ......................
**ปีนี้
เราไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้ว ออกมาทำงานอิสระ แต่เพื่อนเรายังทำอยู่
แล้วเพื่อนๆ เพิ่งไปสัมมนา พักที่นั่น ที่เดิม และบังเอิญมั้งเป็นห้องเดิม พัก 3 คน
อร ป่วยอาการเดิมในวันแรกที่ไปถึง เหมือนเหตุการณ์วนรอบอีกครั้ง
แต่ช่วงไปช้อปปิ้ง คนที่ไม่อยากไปมีเยอะ รวมทั้งเพื่อนทั้ง 2 คน ก็ไม่ไป จะเก็บเงินไว้
เราอาจจะเล่าไม่ละเอียดแบบเห็นภาพนะสำหรับปีนี้ เพราะเราไม่ได้ไป
สมมุติว่าเพื่อนเรา 2 คนนี้ชื่อ G1 กับ G2 นะ (เล่าใกล้จะจบแล้วเพิ่งตั้งชื่อให้เพื่อน)
และนี่คือที่ G1 เล่ามา..
"เราเห็น อร เดินออกจากห้องไปกลางดึก ตอนนั้นไฟฟ้าดับ แอร์ดับ รู้สึกตัวเพราะร้อน เราคิดว่าอรคงร้อน นางเดินดุ่ยๆ เราอยากบอกให้ไประเบียงด้านหลังกันมั้ย เพราะลมเย็นสบาย แต่ G2 ไวกว่าเราเว้ย วิ่งไปจับแขนนาง แล้วปล่อยทันที G2 ค่อยๆ ถอยหลังมาหาเรา ทำหน้าแบบตกใจ เราก็หยุดเดินเลยเว้ย เหมือนได้รับรหัสว่าควรถอย เราถอยเว้ย จะบอกว่ากลัวก็กลัว"
เราถามไปอย่างขำๆ ว่าเห็นอรเดินออกไปได้อย่างไร ในเมื่อไฟฟ้าดับ แล้วกลัวอะไร
"มีไฟฉุกเฉินจากเครื่องปั่นไฟข้างนอกโน่น แต่ไม่ใช่หน้าระเบียงนะ ไม่เหมือนปีที่แล้ว ปีนี้ไฟน้อยสถานที่ไม่ค่อยสว่าง ก็พอจะเห็นร่างตะคุ่มๆ แล้วเรากับ G2 ก็ตื่นสะกิดกัน แล้วตอนที่ G2 ไปจับแขนอร G2 บอกว่าแขนอร แข็งมาก และเย็น"
"เฮ้ย! ก็ไม่แปลกหรอก นอนห้องแอร์ก็ตัวเย็นสิ" เราคิดว่างั้น แต่พูดจบก็นึกได้ว่า อรป่วยนี่นา ทำไมตัวเย็น
"ไม่รู้สิ เรากับ G2 เลยถอยเข้าห้อง ใจนึงก็ห่วงอรนะแต่กลัว คิดว่าเดี๋ยวห้องอื่นก็ตื่นออกมาเพราะไฟฟ้าดับ แต่แกรู้มั้ยพอเรากลับเข้าห้องแอร์ก็ทำงานปกติ ห้องเย็น ไม่มีเสียงห้องไหนตื่นเลย"
เออ. มันก็อาจจะปกตินะ ไฟดับแล้วไฟก็ติด ที่คอนโดเราก็ดับบ่อยในหน้าฝน
"แก................................." ลากเสียงยาวมาก
"ไฟในห้องเปิดเว้ย แล้วคนที่เปิดคือ .....................อร"
"อรมองหน้าเรา 2 คน แล้วถามว่าจะไปไหนกันดึกๆ"
"แล้วแก...........................อรยืนอยู่ข้างที่นอนนาง แก........................."
จุดที่เปิดไฟได้ในห้องจะมีจากทางเข้าประตูด้านหน้าเข้ามา และตรงใกล้ประตูด้านหลัง อรเปิดไฟจากจุดผนังด้านหลัง
ส่วนที่นอนไม่มีเตียงนะคะ เป็นเบาะนอนหุ้มด้วยผ้าสีขาววางบนพื้น
"คนบุกรุกเข้ามาหรือเปล่า" เราถามไปเพราะเป็นไปได้ แต่คิดอีกที ยากนะ สถานที่ปิดแบบนี้ แต่ไม่ตัดทิ้ง อาจเป็นไปได้
"แล้วแกไม่ได้เห็นหน้าคนที่แกคิดว่าเป็นอรตอนแรกใช่มั้ย เพราะไฟดับ"
G1: "ก็เห็นในความสลัวๆ นั่นล่ะเรามั่นใจว่าเป็นอร แกคิดดู ตอนพวกเราจะไปดึงนางกลับ เรา 2 คน 4 ตานะเว้ยเห็นนางใส่ชุดนอนที่อรใส่อยู่ จะไม่ใช่ได้ยังไง"
"แล้วแกทำยังไงกันต่อ" เราถามไป
"ก็ไม่หลับต่อ รุ่งเช้าเราขอย้ายห้อง เราเล่าให้พี่ฝ่ายบุคคลว่าเราเจอ.. นั่นล่ะ แต่ไม่มีห้องแล้ว ถ้าไปห้องอื่นต้องแยกกันไปคนละห้อง ไม่งั้นเราขอไปเช่าห้องข้างนอกอยู่เอง เลยได้ไปพักที่บ้านรับรองอีกหลัง แต่อยู่นอกบริเวณนี้ ไปกันทั้ง 3 คน"
----- ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี คนไม่เคยเจอก็ไม่เจอ คนเจอก็เจอ แต่ยังไงเพื่อนเรารอดปลอดภัย เราก็สบายใจแล้ว ----
ใครมีประสบการณ์คล้ายกันบ้างคะ ?
**เป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่อนุญาตให้นำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้ค่ะ นำมาลงในนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังเท่านั้น"