ใครฟ้องก็ได้ ในความเป็นจริงแล้ว สถานะทางกฎหมายของการกล่าวโทษ คือการ “แจ้งตำรวจ” เท่านั้น

“การกล่าวโทษ” หรือการแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีนี้ จึงมักถูกเรียกต่อๆ กันมาว่า “ใครฟ้องก็ได้” ซึ่งเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว และถูกนำไปบิดเบือนความหมาย เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดว่า คดี ม.112 นั้น สามารถกลั่นแกล้งกันได้ง่าย ใครๆ ก็สามารถยื่นฟ้อง ม.112 ได้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว สถานะทางกฎหมายของการกล่าวโทษ คือการ “แจ้งตำรวจ” เท่านั้น 

ในคดีอาญาแผ่นดิน แม้พนักงานอัยการจะเป็นโจทก์ในคดีก็ตาม แต่ถ้าประชาชนได้รับความเสียหายโดยตรง ก็สามารถแต่งตั้งทนายความของตนเองให้เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการได้ เพื่อใช้สิทธิในการอุทธรณ์-ฎีกา 

ในส่วนของการแจ้งความ ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปแจ้งความได้เลย แต่เราจะต้องมีการแสดงหลักฐานเบื้องต้นให้ตำรวจทราบด้วย ซึ่งการแจ้งความในคดีความผิด ม.112 จะต้องมีการระบุข้อเท็จจริงอย่างน้อย ดังนี้

ชื่อ-สกุล ผู้ก่อเหตุ หากเป็นการหมิ่นฯ โดยใช้ Account ปลอม ทำให้ไม่ทราบ ชื่อ-นามสกุล จริง จะต้องมีการ copy URL ของหน้า Account นั้นๆ ส่งให้ตำรวจประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญในการหาพิกัด IP Address เพื่อหาความเชื่อมโยงกับผู้ก่อเหตุ 

ข้อความหมิ่นฯ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินคดี จะต้องถือว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย เพราะถ้าไม่เข้าข่าย 3 อย่างนี้ การดำเนินคดี ม.112 ในชั้นศาลก็จะถูกยกฟ้องนั่นเอง 

วิธีการรวบรวมสำนวนการสอบสวน จะต้องมีความชัดเจนเป็นระบบ ข้อความหมิ่นฯ ที่เป็นหลักฐานไม่ว่าจะเป็นไฟล์คลิป ไฟล์เสียง รูปภาพ หรือข้อความ ต้องมีการ Download ออกมา แล้วทำการ Print out หน้าเว็บที่แสดงผลออกมาในรูปแบบกระดาษทั้งหน้าในลักษณะที่ติด URL มาด้วย จากหน้าโปรแกรม WEB BROWSER นั้นๆ ทำสำเนาไฟล์ภาพ ไฟล์เสียงลงแผ่น CD หรือ Save ลง USB หรือ CD เพื่อส่งมอบแก่พนักงานสอบสวนด้วย 

เมื่อมีการแจ้งความเกิดขึ้นแล้ว โดยปกติการดำเนินคดีในชั้นตำรวจ พนักงานสอบสวนในฐานะเจ้าของสำนวน มีดุลยพินิจอย่างอิสระในการสั่งฟ้อง/ไม่ฟ้องผู้ต้องหา เช่นเดียวกับในชั้นพนักงานอัยการ ที่พนักงานอัยการก็มีดุลยพินิจในการสั่งฟ้อง/ไม่ฟ้องผู้ต้องหาในความผิดที่ถูกกล่าวหาเช่นกัน แต่เนื่องจากความผิด ม.112 เป็นคดีสำคัญ มีประชาชนให้ความสนใจในวงกว้าง การสั่งคดีจะต้องมีความรอบคอบเกินกว่าที่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนเพียงคนเดียวจะรับผิดชอบได้ 

กรณีนี้ จึงมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติราชการออกมา เพื่อทำการกลั่นกรอง ไม่ให้เกิดการดำเนินคดีที่มีลักษณะเป็นการกลั่นแกล้งกัน โดยมีระเบียบปฏิบัติแยกออกมาต่างหาก นอกเหนือจากกฎหมายฉบับหลักที่กล่าวไปข้างต้น เช่น

อ่านต่อได้ที่ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่