อปพส. "BARKING UP THE WRONG TREE"

เรียน อปพส. เราทราบกันดีอยู่แล้ว ว่า ฮามาส อรับมุสลิมพวกนี้มันโหดเหี้ยม บุกรุกอิสราเอล มันผิดชัดๆเป็นต้นเหตุให้เดือดร้อนไปทั่วโลก แทนที่จะเป็น เรื่องสงคราม แต่กลับกลายเป็นเรื่องรื้อฟื้นประวัติศาสตร์ ระหว่างศาสนาอิสลามกับศาสนาจูดาย, แต่อย่างไรก็ตาม เรามีแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มโจรฮามาส  จับไปเป็นตัวประกัน หลายสิบคน ซึ่งภายหลังต่อมา ได้ทยอยกันถูกปลดปล่อยกลับประเทศไทยจนเกือบหมดแล้ว และเป็นการดีมากที่เราชาวไทย ทุกๆ คนมีน้ำใจช่วยเหลือแรงงานไทยที่ตกอยู่ระหว่างสงครามศาสนาของชาวอรับฮามาสเหล่านั้น ไม่ทราบว่า อปพส. จะไปร่วมสงครามศาสนารบกับพวกอรับกัน ทำไม?
อปพส. ยังมีภาระสำคัญที่จะต้องปกป้องพุทธศาสนาอยู่ที่ชายแดนไทยเรานี้เอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์รุนแรงไม่แพ้ สงครามศาสนาระหว่างจูดายกับอิสลามยุคใหม่เลย ปัญหาระหว่าง ชาวพม่ากับชาวไทยเรานั้น ทั้งสองประเทศมีความศรัทธาเดียวกัน ด้วยเหตุใดจึงฆ่าฟันกันไม่หยุดหย่อน ผิดเบ็ญจศีล อย่างครบครัน ที่เห็นชัดๆก็คือ การฆ่าคนและสัตว์, การโกหกหลอกลวง, การค้าประเวณีลักพาหญิงที่มีเจ้าของ, เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ อปพส. จะต้องเห็นความสำคัญมากกว่า สงครามศาสนาที่ยิวและฮามาสกระทำกันมาชั่วชีวิตของพวกเขา กว่า 1400 กว่าปีแล้ว

 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
        การปกป็องพุทธศาสนาไม่ใช่เข้าไปร่วมสงครามศาสนากับฝ่ายอิสราเอล และไม่ใช่โดยวิธีทำลายความศรัทธาของศาสนาอื่นๆ หรือศาสนาอิสลาม หรือหวาดกลัวการขยายตัวของศาสนาอิสลาม ซึ่งประการหลังนี้  อปพส. ไม่อาจจะหยุดยั้งได้, ดังนั้น อปพส. ควรที่จะรักษาหน้าและหน้าที่ในเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นข้างบ้านเราเสียก่อน โดยการประยุกต์เอาหลักธรรมและหลักคุณธรรมที่พระพุทธองค์ทรงพร่ำสังสอนมาฝึกปฏิบัติอย่างเพียรพยายามให้เกิดวินัยภายในตัวเอง, รับรองว่านั้นคือวิธีการปกป้องพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมสิ้นไป ซึ่งเป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างตรงเป้าหมาย คือพุทธศาสนิกชน ทุกๆคนจะต้อง นับถือพุทธศาสนาอย่างมีวินัยที่เข้มงวด:

อปพส. จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจสาเหตุที่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสียก่อน
จึงจะปกป้องพุทธศาสนาได้ มิฉนั้นจะเข้าตำรา,
"พระโปฐิละ ผู้แบกคัมภีร์เปล่า"
"เหตุที่ทำให้พระธรรมวินัยเสื่อมและ "ปัญหา อะไรเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ไมได้นาน?"
 
1. พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว พวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในพระศาสนา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา ในความไม่ประมาท ในปฏิสันถาร ดูก่อนกิมพิละ นี้แลเห็นเหตุเป็นปัจจัย เครื่องให้พระสัทธรรมไม่ดำรงอยู่นาน ในเมื่อตถาคตปรินพพานแล้ว ฯ”
กิมมิลสูตร ฉ. อํ. (๓๑๑)
ตบ. ๒๒ : ๓๗๙-๓๘๐ ตท. ๒๒ : ๓๕๐-๓๕๑
ตอ. G.S. III : ๒๔๐
 
2. ปัญหา มีบางคนกล่าวว่า การมีกฎหมายหรือระเบียบกฎเกณฑ์ มาก ๆ นั้น แสดงว่าศีลธรรมของชุมนุมชนนั้นเสื่อมลง จริงหรือไม่ ? พระผู้มีพระภาคตรัสไว้อย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?
 
พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภัททาลิ ข้อนี้เป็นจริงอย่างนั้น เมื่อสัตว์ทั้งหลายกำลังเสื่อม พระสัทธรรมกำลังอันตรธาน สิกขาบทมีอยู่มากมาย แต่ภิกษุดำรงอยู่ในอรหัตตผลน้อยนัก พระศาสดายังไม่ทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย ตราบเท่าที่อาสวัฏฐานิยธรรม (ธรรมอันก่อให้เกิดอาสวะ) บางเหล่ายังไม่ปรากฏในสงฆ์ในธรรมวินัยนี้ ต่อเมื่อใดอาสวัฏฐานิยธรรมบางเหล่าปรากฏขึ้นในสงฆ์ในธรรมวินัยนี้ เมื่อนั้นพระศาสดาจึงทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดอาสวัฏฐานิยธรรมเหล่านั้น อาสวัฏฐานิยธรรมธรรมบางเหล่ายังไม่ปรากฏในสงฆ์ในพระธรรมวินัยนี้ ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่ถึงความเห็นหมู่ใหญ่..... อาสวัฏฐานิยธรรมบางเหล่ายังไม่ปรากฏในสงฆ์ในพระธรรมวินัยนี้ ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่ถึงความเป็นผู้เลิศ ด้วยลาภ.... ยังไม่ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศ....... ยังไม่ถึงความเป็นพหูสูตร..... ยังไม่ถึงความเป็นรัตตัญญู ต่อเมื่อใดสงฆ์ถึงความเป็นรัตตัญญู เมื่อนั้นอาสวัฏฐานิยธรรมบางเหล่าจึงปรากฏในสงฆ์ ในธรรมวินัยนี้ ครั้งนั้นพระศาสดาจึงทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดอาสวัฏฐานิยธรรมเหล่านั้น ฯ ”
ภัททาลิสูตร ม. ม. (๑๗๒)
ตบ. ๑๓ : ๑๗๔-๑๗๕ ตท.๑๓ : ๑๕๒-๑๕๓
ตอ. MLS. II : ๑๑๖-๑๑๗
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่