บอกแล้วอย่าให้ว่าง  

หนาวปุ๊บก็เที่ยวปั๊บเลย นี่แน่ะ! 

สำหรับมื้อนี่นกอีก๋อยสิจะมารีวิวทริปต้นหนาวของปี 66 (แบบย่อๆ) ณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก  

 

/// ว่าแต่ออเจ้าเคยมากันหรือเปล่า..พิษณุโลกหรือเมืองสองแคว เมืองโบราณที่มีสถานที่เที่ยวครบรสไม่แพ้จังหวัดใดในไทยทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม วัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน และพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ../// 

 

++ พูดแล้วก็นึกถึงละครพรหมลิขิตที่นางเอกก็เป็นลูกพระยานาหมื่นอยู่ที่เมืองสองแควนี่แหละ และเนื้อเรื่องตอนนี้กำลังเข้มข้นสุดๆ..++ 

     

 

/// ที่มาของทริปนั้นเริ่มจากหน้าหนาวนี้ตั้งโจทย์กับเพื่อนๆ ที่ออฟฟิสว่าเราไปเที่ยวด้วยกันสักครั้งดีมั้ย..เอาแบบเที่ยวป่าเที่ยวเขาแถวๆ บ้านเรานี่แหละ ในลิสต์ก็มีรีสอร์ทที่นครไทยซึ่งเป็นของเพื่อน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งมีด้วยกันถึง 2 แห่งคือส่วนสะพานสลิงที่อำเภอนครไทย กับส่วนหนองแม่นาซึ่งพื้นที่คาบเกี่ยวถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ จนมาจบที่อุทานแห่งชาติภูหินร่องกล้า..ทำไมน่ะเหรอ ก็ไม่รู้เหมือนกัน 555 อาจเพราะอยู่ไม่ไกลใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชม. และมีแรงจูงใจเรื่องความสวยงามของลานสนกับกิจกรรมเดินป่าที่พอจะชวนให้เยาวรุ่นสนใจกันบ้าง /// 

 

+++ และพูดแบบไม่ได้อวยเลยนะ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าบรรยากาศดีมากเว่อร์ คนจังหวัดอื่นมาเที่ยวกันเยอะนักหนาโดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวเช่นนี้ บ้านพักของอุทยานฯ ถ้าไม่จองมาแต่เนิ่นๆ มีอันต้องอดกันได้นะจ๊ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกเพราะไฮไลท์อยู่ที่การนอนบนลานกางเต๊นท์ใต้ต้นสนที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ป่าสนเมืองนอกมากกว่า +++   

ปล. รอบนี้เนื่องจากเรามากันเป็นหมู่และมีเด็กน้อย จึงลงความเห็นว่ารอบปฐมฤกษ์นอนบ้านพักของอุทยานฯ กันเนาะ ซึ่งก็ต้องจองล่วงหน้า 45 วันตามระเบียบของกรมอุทยานฯ  

 

+++ และแล้วพรหมลิขิตก็นำพาให้เราได้มาพักที่บ้าน “กล้าสู้” ดุดันตั้งแต่ชื่อบ้านเลยทีเดียว...เอ้า! ลุยเลยพวกเรา!!! 555 +++ 

  

/// ว่าแล้วขอรีวิวบ้านพักสักหน่อยนึงแบบสั้นๆ (ไม่มีเวลาได้ถ่ายภาพมาประกอบก๋อยต้องขออภัยด้วยน้าาาา) และขอเรทคะแนนให้คนที่กำลังมองหาบ้านพักของอุทยานฯ พิจารณา ///

/// บ้านที่จองได้หลังนี้ไม่มีแอร์แต่มีพัดลมติดผนัง ในบ้านแบ่งออกเป็นห้องนอนขนาดต่างๆ 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง โดยเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ 1 และห้องน้ำแบบ Connect อีก 1 ห้อง ห้องนอนใหญ่สุดสามารถนอนได้ 4-5 คนหรืออาจได้ถึง 6 คนถ้านอนเบียดๆ กัน เตียงนอนใหญ่แข็งแรง ผ้าปูผ้าห่มนุ่มหนาหอมชื่นใจ หมอนขนาดกำลังดี เรียกได้ว่าหลับเต็มตื่นผื่นไม่ขึ้นละกันจ้า เอาไป 9/10 หัก 1 คะแนนกลัวคนจะหาว่าก๋อยเว่อร์ 555 ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัว..การบริหารจัดการบ้านพักดีมาก ความสะอาดภายในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่จอดรถหน้าบ้านจอดได้ถึง 6 คัน ลานทำกิจกรรมนั่งเล่นนั่งกินก็กว้างขวางสมราคา การจัดระเบียบเรื่องขยะดีเหมาะสมไม่รบกวนธรรมชาติจ้า /// 

++ มาว่ากันเรื่องกิจกรรมทั่วไปๆ แต่เป็นที่นิยมสำหรับการมาเที่ยวภูหินร่องกล้าคือเดินป่าศึกษาธรรมชาติ จุดเที่ยวที่สามารถเดินเที่ยวได้อย่างเช่น สุสานนักรบ ลานหินปุ่ม ผาชูธง ลานอเนกประสงค์ สำนักอำนาจรัฐ และที่หลบภัยทางอากาศ ลานหินแตก เป็นต้น หรือถ้ามีเวลาและมีกำลังก็สามารถไปเดินเล่นตามน้ำตกอย่างน้ำตกร่มเกล้าภราดร น้ำตกหมันแดง (อันนี้ก็ยังไม่เคยได้ไปสักที..แหะแหะ) +++ 

 

 

/// และเนื่องจากกลุ่มของก๋อยมีเด็กน้อย และเรากำลังมองหากิจกรรมที่พอจะฆ่าเวลาช่วงบ่ายให้เกิดประโยชน์ได้จึงชวนกันไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ปักหมุดที่ “ผาชูธง” ก็มีภาพมาประกอบเล็กน้อยมาให้ชมกัน /// 

 

+++ ระหว่างทางก็ชี้ชวนกันดูต้นไม้ดอกไม้ริมธารน้ำตกบ้างตามหุบตามไหล่เขาบ้าง บางทีเด็กๆ ก็จะชวนกันปีนผาหินรูปร่างแปลกๆ ที่พบรายทาง..ก็สนุกไปอีกแบบ ก่อนไปผาชูธงแวะถ่ายรูปที่ลานหินปุ่ม ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้อีกจุดหนึ่ง +++  

 

/// เคล็ดลับในการดึงลูกๆ หลานๆ ให้ห่างจากมือถือหรือแท็ปเล็ตบ้าง แม้จะเป็นช่วงเวลาแค่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงก็ถือว่าคุ้มค่า /// 

 

/// และแล้วเราก็เดินมาถึงจุดหมายของเรา “ผาชูธง” วันที่ไปมีฝนตกโปรยปรายเป็นระยะ กลับถึงบ้านพักต้องจัดยาพารากันเหนียวคนละ 1 เม็ดจ้า /// 

 

/// การเที่ยวป่าเที่ยวเขาช่วงหน้าหนาว ถ้าจะพูดถึงของกินที่สามารถทำได้เล็กๆ น้อยๆ ที่อุทยานแบบอนุโลมก็อย่างพวกจิ้มจุ่มที่จะไม่ก่อให้เกิดกลิ่นรุนแรงรบกวนจนเกินไป..แถมอาหารมื้อเช้ายังได้นำผักและวัตถุดิบที่กินไม่หมดจากคืนวานมาปรุงอาหารไว้กินกันง่ายๆ ///  

 

+++ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองอันดับต้นๆ ของไทย..กล่าวคือเคยมีการสู้รบที่เคยสูญเสียเลือดเนื้อของคนไทยกันเองเมื่อครั้งเกิดความขัดแย้งทางด้านความคิดทางการปกครองเมื่อราว พ.ศ. 2511-2525 ทั้งยังเคยเป็นฐานที่มั่นในการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในไทย จนในที่สุดเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายลงจึงได้ถูกจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 48 +++

 

+++ สภาพภูมิอากาศโดยรวมล่ะ??? ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีสัณฐานและระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลคล้ายกับภูกระดึงและภูหลวง อากาศจึงหนาวเย็นเกือบตลอดปีโดยเฉพาะในฤดูหนาว อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 0-4 องศา ส่วนฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย และจะมีฝนตกชุกในฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 18-25 องศาเซลเซียส +++ 

// น่าเที่ยวใช่มั้ยล่ะ // 

++ และก่อนจะจบ ขอปิดท้ายด้วยรูปที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มของสมาชิกผู้ร่วมเดินทาง..นี่แหละที่ก๋อยว่ามันสำคัญยิ่งกว่าจุดหมายปลายทางนั่นคือการที่เราได้ท่องเที่ยวไปกับคนที่เรารักอ่ะ ว่าป่ะ..ฮิ้วววว ++ 

 

--- สำหรับใครผ่านมาเที่ยวพิษณุโลกอยากได้พิกัดของกินอร่อยๆ ถามก๋อยได้นะ..เดี๋ยวก๋อยจะไปถามเพื่อนให้อีกต่อนึง 555 ---

--- บายบาย ---