ซื้อบ้าน แบงค์ผ่าน เซลส์โทรมานัดวันเข้าไปวางเงิน แล้วปล่อยอีกคนขายตัดหน้า แย่มากๆ

เป็นแบรนด์ที่ชื่อเสียงเรื่องคุณภาพบ้านดีมาก ติด Top3 เลย ดีจนคิดว่าไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้
บ้านราคาราวๆ  15 ล้าน (ถ้าโครงการนี้ทำเล Topๆ หลังนี้ 20 ล้าน+)
ที่กล่าวไป คือไม่คิดเลยว่าจะเจอวิธีการขายที่เหมือนเราไปขอเช่าห้องรูหนูเดือนละ 1000 อยู่แบบนั้น

คุยกันมา 25 วัน ตั้งกะเริ่มก้าวเท้าเข้าหมู่บ้าน จนวันที่แบงค์ผ่าน ดูหมู่บ้านเดียว คุย 3 วันยื่นไฟแนนซ์เลย
รอมา 3 อาทิตย์ แบงค์ผ่าน สมมุตินับวันเซลส์โทรมาบอกแบงค์ผ่านตอนกลางคืนเป็นวันที่ 1
เซลนัดเข้าไปคุย Final และวางจองทำสัญญาวันที่ 4-5 (มีแชทเป็นหลักฐาน)

ซึ่งจริงๆ เราจะเข้าไปล่วงหน้าวันที่ 2 ด้วยแต่ว่าแฟนติดงานจนมืด เราโทรถามวันที่ 3 เรื่องบ้าน
เซลส์ตัดบท บอกเซลส์อีกคนขายบ้านไปแล้ว ซึ่งขายไปสายๆ เราโทรถามบ่าย ซึ่งถ้าไม่โทรไป ก็ไม่คิดจะโทรบอกเราสักคำ
แถมถามเราใสๆ เอาหลังอื่นแทนไหม (ห่างกัน 300 เมตร ทำเลคนละแบบเลย) แล้วก็แบบ ถ้าไม่ถูกใจ ไม่เอาไม่เป็นไร
จังหวะนี้อยากด่ามากว่า กรูเหนื่อยกับการเทียวไปดูบ้าน 3 รอบระหว่างยื่นเอกสารอยู่เป็นเดือน ผิดนัดเรา แล้วพูดแบบนี้อ่านะ?

1.แล้วการขอราคา Final ต้องผ่าน ผจก. ทุกครั้ง ผจก ต้องเห็นว่าลูกทีมคนไหน ถือลูกค้ารายไหน Potential เท่าไร
บ้านแปลงไหน แล้วความคืบหน้ากับลูกค้านัดหมายไปถึงไหน ทำไม ปล่อยอีกคนขายตัด
2.มากกว่านั้น ลูกค้าคนนั้น ไม่ได้จงใจมาดูหลังเดียวกับเรา เค้าดีลหลังอื่นไว้ (ทำให้เซลส์เราไม่รู้ตัวที่จะแก้สถานการณ์)
ซึ่งเค้าสนใจหลังเล็กกว่า แถวๆหลังใหญ่ที่เซลส์ไล่เราไปซื้อแทนนั่นแหล่ะ (ทำไม ผจก.ไม่เชียร์เค้าซื้อหลังที่เค้าสนใจอยู่แล้ว??)
แล้วก็ขายหลังของเราให้เรา ได้ขาย 2 หลังเลยหวานๆสวยๆ งง ประสาท drag ป่ะ.. 
3.พีคกว่านั้นคือ ลูกค้ารายนั้นไฟแนนซ์ผ่านต่ำกว่ามูลค่าบ้านที่ตัดหน้าเราไปเป็นล้าน (เราผ่านเกิน 100% ราคาที่คุยกัน)
ดันเละเทะ แบบต้องลดราคามากกว่าที่เสนอเราเกือบ 1 ล้าน นี่แบบเอ้า! แถมต้องให้ลูกค้าดาวน์เพิ่มอีกเปนล้านด้วย โอะ...
ซึ่งเป็นการดันขายตัดหน้าที่อุตลุดมาก นี่แปลกใจมาก คิดอะไรอยู่? คือถ้าขายได้แพงกว่าไม่ว่าเลยนะ 

กลายว่าจากขายได้ 2 หลังเงียบๆ ชิลๆ 
ตอนนี้ได้ขาย 1 หลัง +ถูกร้องเรียนอีก 1 หลังแทน
จะไม่โกรธเลย ถ้าเราแค่คุยๆ ยังไม่ยื่นกู้ ยังชอปปิ้งหลายหมู่บ้าน ผิดนัด หรือกระทั่งว่า รอผลแบงค์อยู่แล้วบ้านตัดขายไปก่อน
อันนั้นก็ไม่โกรธ ถือว่าเรากระบวนการเรายังไม่จบ หรือแม้แต่ไม่ได้คุยมาก่อน อยู่ๆ walk in เข้าไปพร้อมกันแล้วเค้าวางเงินก่อน
ก็ถือว่าเข้าไปพร้อมกัน และนี่ไม่ใช่ลูกค้าจรที่ผ่านมาดูเล่นๆ แล้ววางจองขำๆ แล้วต้องไปลุ้นผลสินเชื่ออีกด้วยนะ
ดำเนินการรวดเร็วมาตลอด จนแบงค์ผ่านจนนัดวันจะวางเงินแสนแล้วอ่ะ ถึงเวลาทำแบบนี้ แย่แบบ 0/100

เป็นเรื่องปกติที่วงการนี้(ขายบ้าน)ทำกันแบบนี้หรอ?
ส่วนตัวอยู่วงการเซลส์มาหลายปีก่อนจะมาเปิดบริษัทไม่เคยไร้สัจจะ จริยธรรม ทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกแบบนี้เลย
(ไม่งั้นคงไม่เจริญมาจนทุกวันนี้) มันไม่ใช่ของแบบ ผลิตไม่จำกัด ชิ้นไหนก็เหมือนกัน บ้านมันหลังไหนหลังนั้น
นัดแล้ว แบงค์ผ่านแล้ว ระยะเวลาแค่ 2 วัน มันจะหิวกระหายอะไรขนาดนั้น 

**เซลส์ไม่ได้พูดเรื่องโอนจองใดๆ จอง = ขับรถไปสนง.ขาย**
ที่ไม่จองก่อนคือ กลัวไม่ผ่านแล้วโดนยึดเงิน เซลส์ก็ไม่ได้แจ้งด้วยว่าคืนได้
แถมเซลส์ก็กังวลด้วยว่าอยากให้ผลแบงค์ออกก่อนค่อยวางเงินจอง แสดงว่ามันต้องมีอะไร
แต่ ผจก.มาว่าเราตอนเถียงกันอีกว่า ก่อนแบงค์ผ่านไม่จองเองนี่ใครๆ เค้าก็รู้กันนะว่าคืนเงินจอง อ่ะความผิดกูอีก..
ซึ่งไม่จริงด้วย กฏหมายไม่ได้บังคับให้คืนนะ  แหมอยากถามกลับ ผจก.ว่า เอ็งรู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ไหม
เอ็งเป็นคนขาย เอ็งไม่เสนอทางเลือกอะไรเลยถึงเวลามาถากหน้า ถามลูกค้าไม่รู้หรอ อันนี้ก่อนพูดใช้สมองหรือหัวแม่เท้าคิด
และพนักงานแบงค์ที่รู้จักกันบอกว่า การทำขอเงินจองคืน เป็นไรที่วุ่นวายมาก เงื่อนไขการคืนก็เป็นโยบายส่วนตัวของบริษัทผู้ขายด้วย
เห็นลูกค้ามาขอเอกสารจากแบงค์บ่อยๆเวลาเกิดเหตุถอนจอง

เป็นอุทธาหรณ์เลยว่า ซื้อบ้านเหมือนวิ่งแข่ง เหมือนเค้าแจกให้เราฟรี ต้องแย่งกันเหมือนโรงทาน
ปสก.ครั้งนี้ ทำให้รู้สึกว่าการจะเปนหนี้ซื้อบ้าน 15 ล้านนี่ดูไร้ค่ามากๆ แบบท้อ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่