ช็อก! หนี้ครัวเรือนพุ่ง 16.07 ล้านล้านบาท ห่วงกลุ่มเปราะบางจ่ายคืนหนี้ไม่ได้
https://www.dailynews.co.th/news/2982478/
หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง 16.07 ล้านล้านบาท แบงก์ชาติห่วงกลุ่มเปราะบางจ่ายหนี้คืนไม่ได้ เครดิตบูโรเปิดข้อมูลมี 5 ล้านบัญชี เป็นหนี้เสียโควิดรหัส 21
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ได้เปิดข้อมูลหนี้ครัวเรือนไทย ณ ไตรมาส 2 ปี 2566 มีทั้งสิ้น 16.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.7% ต่อจีดีพี อยู่ระดับทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่หนี้อยู่ระดับสูงจนน่ากังวล
ก่อนหน้านี้ น.ส.
อัจจนา ล่ำซำ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบแบบจำลองและวิเคราะห์สถาบันการเงิน ธปท. ได้แสดงความเป็นห่วงการชำระหนี้คืนของครัวเรือนในกลุ่มคนเปราะบาง มีรายได้น้อย รายได้ฟื้นตัวช้า โดยยังเชื่อมั่นธนาคารพาณิชย์มีวิธีบริหารจัดการคุณภาพหนี้ต่อเนื่อง แม้หนี้เอ็นพีแอล หรือค้างชำระเกิน 90 วันขึ้นไปปรับเพิ่มทุกพอร์ตสินเชื่อทั้งบ้าน รถ บัตรเครดิต
ด้านนาย
สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้ให้ข้อมูลหนี้ที่น่ากังวลและต้องเร่งแก้ไขคือ ลูกหนี้เอ็นพีแอลที่เกิดจากโควิด หรือลูกหนี้บัญชีรหัส 21 ซึ่งมีทั้งสิ้น 3.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 3.5 ล้านคน รวม 5 ล้านบัญชี ห่วงที่สุดคือหนี้รถยนต์ 3.9 หมื่นล้านบาท จำนวน 8.8 หมื่นบัญชี และหนี้บุคคล 9.2 หมื่นล้านบาท จำนวน 3.18 ล้านบัญชี เป็นต้น โดยหนี้รหัส 21 นี้ส่วนใหญ่อยู่กับแบงก์รัฐ 2.96 ล้านบัญชี คิดเป็น 1.89 แสนล้านบาท และธนาคารพาณิชย์ 5.23 แสนบัญชี คิดเป็น 1.1 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ จากข้อมูลเครดิตบูโรในไตรมาส 3 ปี 66 พบว่าหนี้เอ็นพีแอลมีมากถึง 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.7% ของสินเชื่อรวม คิดเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล 10 ล้านบัญชี โดยหนี้เสียน่ากังวลมากที่สุดเป็นหนี้เสียรถยนต์ที่มีมากถึง 6.94 แสนบัญชี เพิ่มขึ้น 8.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 2.07 แสนล้านบาท
เช่นเดียวกับหนี้ที่ใกล้เป็นหนี้เสียเอ็นพีแอลหรือค้างชำระ 30-90 วัน (เอสเอ็ม) น่ากังวลคือหนี้รถยนต์มีหนี้เอสเอ็มมากถึง 2.13 แสนล้านบาท จำนวน 5.6 แสนบัญชี และหนี้บ้าน 1.36 แสนล้านบาท จำนวน 1.05 แสนบัญชี ซึ่งหนี้รถยนต์มีปัญหาทั้งเป็นหนี้เสียและกำลังจะเป็นหนี้เสีย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเจนวาย
นาย
ผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมแถลงแก้หนี้ในระบบวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ทางธนาคารและสมาคมธนาคารไทยพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมธนาคารไทยได้ทำงานร่วมกับธปท.มาต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาหนี้ เช่น การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ แก้หนี้นอกระบบ หนี้เสียเอ็นพีแอล หนี้เรื้อรัง หนี้ใหม่ ให้ความรู้กับผู้ก่อหนี้ และไม่กระตุ้นให้ก่อหนี้เกินความจำเป็น
เอกชนชี้ขึ้นค่าแรงคกก.ค่าจ้างพิจารณาตามกม.
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_652557/
ภาคเอกชน มองปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดูตามหลักการ ชี้คณะกรรมการค่าจ้างพิจารณาตามกฎหมาย ย้ำไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง
นาย
ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าสำหรับเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่จะเสนอเข้า ครม. ในวันนี้นั้น มองว่าเราเป็นเอกชนก็คงทำอะไรไม่ได้หากรัฐบาลจะทำอะไร ก็คงดูหลักการเท่านั้นเอง เรื่องค่าจ้างนั้นเป็นเรื่องของคณะกรรมการค่าจ้าง ไตรภาคี ซึ่งกฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้างที่จะพิจารณา โดยผ่านคณะกรรมการกว่า 77 จังหวัด ซึ่งมีหลักการอยู่ในกรอบกฎหมาย มีสูตรการคำนวณอย่างชัดเจน เมื่อกฎหมายบัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้าง โดยกฎหมายพิจารณาแล้วส่งเข้าครม. ให้รับทราบ ตั้งแต่ในอดีตก็ยังไม่เคยเจอรัฐบาลไหนสั่งทบทวนบอร์ดค่าจ้าง และไม่อยากให้ค่าจ้างขั้นต่ำกลายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ปลอดการเมือง การเมืองอย่าเข้าไปยุ่งควรให้เขามีบอร์ดค่าจ้าง ครั้งนี้กกต. ควรจะไปศึกษากฎหมาย ถ้าเรื่องค่าจ้างห้ามพรรคการเมืองไปใช้หาเสียงก็จะได้ไม่เกิดการได้เสียกัน
PM2.5 โหด ทั่วประเทศแดงทะลุ 15 จังหวัด ส่วน กทม. แดงเถือกทุกเขต แต่บางกอกใหญ่สูงสุด
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4326415
PM2.5 โหด ทั่วประเทศแดงทะลุ 15 จังหวัด ส่วน กทม. แดงเถือกทุกเขตแต่บางกอกใหญ่ทะลุ 146.1
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” (เวลา 07.00 น. ของวันที่ 12 ธันวาคม 2566) พบ 15 จังหวัดของประเทศไทย มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีแดง โดยฉะเชิงเทรา สูงสุด 134.8 ไมโครกรัม ตามด้วย
อ่างทอง สมุทรสาคร นนทบุรี สิงห์บุรี ชลบุรี ปทุมธานี กทม. ลพบุรี นครปฐม สระบุรี อยุธยา สมุทรปราการ สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี ในขณะที่อีก 32 จังหวัด เกินค่ามาตรฐานระดับสีส้มที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพ
ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีแดงทุกเขต สูงสุดที่บางกอกใหญ่ ตามด้วยธนบุรี คลองสาน หลักสี่ ดอนเมือง บางกอกน้อย ภาษีเจริญ พระนคร เป็นต้น
ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่ยังคงมีค่าคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานในระดับสีแดง
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 เพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”
JJNY : ช็อก! หนี้ครัวเรือนพุ่ง│เอกชนชี้ขึ้นค่าแรง│PM2.5 โหดทั่วประเทศทะลุ 15จว.│“ลิซ่า”ชี้ คนภาคใต้ต้องการการเมืองที่ดี
https://www.dailynews.co.th/news/2982478/
หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง 16.07 ล้านล้านบาท แบงก์ชาติห่วงกลุ่มเปราะบางจ่ายหนี้คืนไม่ได้ เครดิตบูโรเปิดข้อมูลมี 5 ล้านบัญชี เป็นหนี้เสียโควิดรหัส 21
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ได้เปิดข้อมูลหนี้ครัวเรือนไทย ณ ไตรมาส 2 ปี 2566 มีทั้งสิ้น 16.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.7% ต่อจีดีพี อยู่ระดับทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่หนี้อยู่ระดับสูงจนน่ากังวล
ก่อนหน้านี้ น.ส.อัจจนา ล่ำซำ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบแบบจำลองและวิเคราะห์สถาบันการเงิน ธปท. ได้แสดงความเป็นห่วงการชำระหนี้คืนของครัวเรือนในกลุ่มคนเปราะบาง มีรายได้น้อย รายได้ฟื้นตัวช้า โดยยังเชื่อมั่นธนาคารพาณิชย์มีวิธีบริหารจัดการคุณภาพหนี้ต่อเนื่อง แม้หนี้เอ็นพีแอล หรือค้างชำระเกิน 90 วันขึ้นไปปรับเพิ่มทุกพอร์ตสินเชื่อทั้งบ้าน รถ บัตรเครดิต
ด้านนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้ให้ข้อมูลหนี้ที่น่ากังวลและต้องเร่งแก้ไขคือ ลูกหนี้เอ็นพีแอลที่เกิดจากโควิด หรือลูกหนี้บัญชีรหัส 21 ซึ่งมีทั้งสิ้น 3.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 3.5 ล้านคน รวม 5 ล้านบัญชี ห่วงที่สุดคือหนี้รถยนต์ 3.9 หมื่นล้านบาท จำนวน 8.8 หมื่นบัญชี และหนี้บุคคล 9.2 หมื่นล้านบาท จำนวน 3.18 ล้านบัญชี เป็นต้น โดยหนี้รหัส 21 นี้ส่วนใหญ่อยู่กับแบงก์รัฐ 2.96 ล้านบัญชี คิดเป็น 1.89 แสนล้านบาท และธนาคารพาณิชย์ 5.23 แสนบัญชี คิดเป็น 1.1 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ จากข้อมูลเครดิตบูโรในไตรมาส 3 ปี 66 พบว่าหนี้เอ็นพีแอลมีมากถึง 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.7% ของสินเชื่อรวม คิดเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล 10 ล้านบัญชี โดยหนี้เสียน่ากังวลมากที่สุดเป็นหนี้เสียรถยนต์ที่มีมากถึง 6.94 แสนบัญชี เพิ่มขึ้น 8.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 2.07 แสนล้านบาท
เช่นเดียวกับหนี้ที่ใกล้เป็นหนี้เสียเอ็นพีแอลหรือค้างชำระ 30-90 วัน (เอสเอ็ม) น่ากังวลคือหนี้รถยนต์มีหนี้เอสเอ็มมากถึง 2.13 แสนล้านบาท จำนวน 5.6 แสนบัญชี และหนี้บ้าน 1.36 แสนล้านบาท จำนวน 1.05 แสนบัญชี ซึ่งหนี้รถยนต์มีปัญหาทั้งเป็นหนี้เสียและกำลังจะเป็นหนี้เสีย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเจนวาย
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมแถลงแก้หนี้ในระบบวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ทางธนาคารและสมาคมธนาคารไทยพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมธนาคารไทยได้ทำงานร่วมกับธปท.มาต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาหนี้ เช่น การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ แก้หนี้นอกระบบ หนี้เสียเอ็นพีแอล หนี้เรื้อรัง หนี้ใหม่ ให้ความรู้กับผู้ก่อหนี้ และไม่กระตุ้นให้ก่อหนี้เกินความจำเป็น
เอกชนชี้ขึ้นค่าแรงคกก.ค่าจ้างพิจารณาตามกม.
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_652557/
ภาคเอกชน มองปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดูตามหลักการ ชี้คณะกรรมการค่าจ้างพิจารณาตามกฎหมาย ย้ำไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าสำหรับเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่จะเสนอเข้า ครม. ในวันนี้นั้น มองว่าเราเป็นเอกชนก็คงทำอะไรไม่ได้หากรัฐบาลจะทำอะไร ก็คงดูหลักการเท่านั้นเอง เรื่องค่าจ้างนั้นเป็นเรื่องของคณะกรรมการค่าจ้าง ไตรภาคี ซึ่งกฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้างที่จะพิจารณา โดยผ่านคณะกรรมการกว่า 77 จังหวัด ซึ่งมีหลักการอยู่ในกรอบกฎหมาย มีสูตรการคำนวณอย่างชัดเจน เมื่อกฎหมายบัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้าง โดยกฎหมายพิจารณาแล้วส่งเข้าครม. ให้รับทราบ ตั้งแต่ในอดีตก็ยังไม่เคยเจอรัฐบาลไหนสั่งทบทวนบอร์ดค่าจ้าง และไม่อยากให้ค่าจ้างขั้นต่ำกลายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ปลอดการเมือง การเมืองอย่าเข้าไปยุ่งควรให้เขามีบอร์ดค่าจ้าง ครั้งนี้กกต. ควรจะไปศึกษากฎหมาย ถ้าเรื่องค่าจ้างห้ามพรรคการเมืองไปใช้หาเสียงก็จะได้ไม่เกิดการได้เสียกัน
PM2.5 โหด ทั่วประเทศแดงทะลุ 15 จังหวัด ส่วน กทม. แดงเถือกทุกเขต แต่บางกอกใหญ่สูงสุด
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4326415
PM2.5 โหด ทั่วประเทศแดงทะลุ 15 จังหวัด ส่วน กทม. แดงเถือกทุกเขตแต่บางกอกใหญ่ทะลุ 146.1
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” (เวลา 07.00 น. ของวันที่ 12 ธันวาคม 2566) พบ 15 จังหวัดของประเทศไทย มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีแดง โดยฉะเชิงเทรา สูงสุด 134.8 ไมโครกรัม ตามด้วย
อ่างทอง สมุทรสาคร นนทบุรี สิงห์บุรี ชลบุรี ปทุมธานี กทม. ลพบุรี นครปฐม สระบุรี อยุธยา สมุทรปราการ สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี ในขณะที่อีก 32 จังหวัด เกินค่ามาตรฐานระดับสีส้มที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพ
ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีแดงทุกเขต สูงสุดที่บางกอกใหญ่ ตามด้วยธนบุรี คลองสาน หลักสี่ ดอนเมือง บางกอกน้อย ภาษีเจริญ พระนคร เป็นต้น
ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่ยังคงมีค่าคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานในระดับสีแดง
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 เพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”