เนื่องในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ ให้นึกถึงงานเขียนของ "อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์" ในหนังสือ "ชาติไทย เมืองไทย แบบเรียนและอนุสาวรีย์ว่าด้วยวัฒนธรรมรัฐและรูปการจิตสำนึก" เมื่อปี 2538 ที่ตีความพานแว่นฟ้าว่า

"รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดจากการพระราชทาน เพราะเป็นตัวแทนของประชาชนจะทูลเกล้าฯ ถวายรัฐธรรมนูญให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยต่างหาก จึงต้องทอดรัฐธรรมนูญนั้นลงบนพานแว่นฟ้า จึงหมายถึงรัฐธรรมนูญที่ส่งจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน ไม่ใช่ส่งจากข้างบนลงมาข้างล่าง"

อาจารย์นิธิอธิบายว่า ปกติหากสิ่งที่เป็นของพระมหากษัตริย์ทรงพระราชทานแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพานแว่นฟ้ารองรับ ในทางตรงกันข้าม หากเป็นสิ่งที่ประชาชนทูลเกล้าฯ ถวายขึ้นไปนั้น ถึงจะมีการใช้พานแว่นฟ้ารองรับเสมอ

เพราะฉะนั้น รัฐธรรมนูญที่วางอยู่บนพานแว่นฟ้าจึงหมายถึง รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่เกิดจากคณะราษฎรเป็นผู้ถวายให้แก่พระมหากษัตริย์ มิใช่สิ่งที่ได้รับพระราชทานมาจากเบื้องบน

ส่วนอีกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ คือ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2482 สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2483 เวลา 24.00 น.

แต่ละองค์ประกอบของอนุสาวรีย์ล้วนมีความหมาย

รัศมีและปีกที่สูง 24 เมตร หมายถึงวันที่ 24 มิถุนายน ปืนใหญ่จำนวน 75 กระบอกรอบอนุสาวรีย์ หมายถึง พ.ศ.2475

พานรัฐธรรมนูญสูง 3 เมตร หมายถึงเดือนสาม คือเดือนมิถุนายน

รูปพระขรรค์ 6 เล่ม หมายถึงหลัก 6 ประการของคณะราษฎร คือ "เอกราช ปลอดภัย เศรษฐกิจ เสมอภาค เสรีภาพ การศึกษา"

ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันนี้ เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 20

ถือว่าใช้กันเปลืองจริงๆ สำหรับกฎหมายสูงสุดของประเทศ