เนื่องจากผมให้ความสำคัญกับเรื่องการกิน พอผมย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ก็เลยลงทุนกับการทำครัวไปไม่น้อย และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องกรองน้ำดีๆ สักเครื่อง ซึ่ง
Philips Water AUT1211 เป็นเครื่องกรองน้ำดื่มที่น่าสนใจ ทั้งด้านความสวยงาม กะทัดรัด ความง่ายในการติดตั้ง และเปลี่ยนไส้กรอง เมื่อเทียบกับราคา 4,990 บาท และถ้าสั่งซื้อกับทางร้านในช่วงโปรโมชั่น ราคาอาจไม่ถึง 3,500 บาท อีกด้วย ผมคิดว่าคุ้มค่าและเป็นเครื่องกรองน้ำที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
เหตุผลที่ทุกบ้านควรมีเครื่องกรองน้ำ
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเครื่องกรองน้ำช่วยให้น้ำสะอาดขึ้น แต่คำถามคือมันจำเป็นแค่ไหน?
เรื่องนี้ผมขอเอาประสบการณ์ตัวเองมาเล่าละกันครับ ด้วยความที่ผมเป็นคนต่างจังหวัดและมาทำงานที่กรุงเทพ ผมเคยคิดว่าน้ำประปาในกรุงเทพมันต้องสะอาดสินะ แต่ปรากฎว่าพอย้ายเข้าบ้านใหม่ ฝักบัวอาบน้ำก็ตันเร็วมาก อาบน้ำก็รู้สึกเหนียวตัว สระผมก็รู้สึกกระด้าง ต้องใช้สบู่และยาสระผมเยอะกว่าจะรู้สึกสะอาด เวลาล้างจานเสร็จพอแห้งแล้วก็เป็นคราบสีขาว และอื่นๆ อีกสารพัดสิ่ง ทำให้คิดว่าปัญหาต้องมาจากน้ำแน่ๆ
เลยติดเครื่องกรองน้ำใช้ และผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้งานเพียงแค่ 2 เดือน ก็เปลี่ยนไส้กรองสีขาวประดุจปุยนุ่น ให้กลายเป็นไส้กรองสีโคลน ถ้าลองเอานิ้วไปปาดก็คือดินโคลนนั่นแหละครับ …และใช่ครับ นี่แหละคือน้ำประปาที่เรากินเราใช้
ซึ่งถ้าเราไม่มีเครื่องกรองน้ำ สิ่งแปลกปลอมเช่น คลอรีน, ตะกอน, สนิม, สารตกค้าง ก็จะส่งผลให้เกิดคราบหินปูนหรือตะกรันตามของใช้ต่างๆ และแน่นอนว่าเป็นอันตรายต่อตัวเราโดยตรง ถ้าเรานำไปล้างอาหาร ผัก ผลไม้ หรือกินน้ำก๊อก
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมหยิบมาเล่าให้เห็นภาพมากขึ้น ว่าเครื่องกรองน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากแค่ไหน
ความน่าสนใจของ Philips Water AUT1211
โดยทั่วไปแล้วเครื่องกรองน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือเครื่องกรองน้ำใช้และเครื่องกรองน้ำดื่ม จุดต่างหลักคือเครื่องกรองน้ำดื่มจะกรองน้ำได้สะอาดกว่า ซึ่ง
Philips Water AUT1211 จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องกรองน้ำดื่มแบบ UF ครับ
เหตุผลที่ผมชอบเครื่องกรองน้ำแบบ UF มากกว่าแบบ RO ก็เพราะดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องเสียบปลั๊ก ไม่ต้องต่อท่อน้ำทิ้ง แค่ต่อท่อน้ำดีเข้าตัวเครื่องกรอง
Philips Water AUT1211 และต่อออกไปยังก๊อกก็ใช้งานได้ทันที ทำให้เราได้น้ำที่สะอาดในระดับที่นำมากินได้ โดยยังคงมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ด้วย
หลายคนมักจะล้างผัก ผลไม้ หรืออาหาร ด้วยน้ำก๊อก โดยอาจลืมไปว่าน้ำก๊อกที่ไม่สะอาดเพียงพอสำหรับการกิน อาจทิ้งสิ่งแปลกปลอมไว้บนอาหารด้วย ดังนั้นวิธีที่ดีคือควรล้างผัก ผลไม้ หรืออาหาร ด้วยน้ำที่ผ่านเครื่องกรอง ซึ่ง
Philips Water AUT1211 สามารถกรองเอา คลอรีน, ตะกอน, สนิม, สารตกค้างต่างๆ และแบคทีเรียออกไปได้มากถึง 99.9% ด้วยการกรองแบบ 3 ขั้นตอน
ถัดมาคือเรื่องของดีไซน์ที่
Philips Water AUT1211 ออกแบบมาดูเรียบ เข้ากับชุดครัวได้เป็นอย่างดี จะวางตั้งบนโต๊ะก็สวยงามและไม่เกะกะ
หรือถ้าเดินระบบท่อน้ำไว้ใต้อ่างจ้างจาน การเลือกใช้
Philips Water AUT1211 ก็ทำให้เหลือพื้นที่ในการจัดเก็บของเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากเรื่องประสิทธิภาพการกรองน้ำและเรื่องของดีไซน์ สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาคืออัตราการไหลของน้ำ ซึ่ง
Philips Water AUT1211 สามารถผลิตน้ำได้ 2.5 ลิตรต่อนาที ถือว่าไหลได้แรงเลย
การติดตั้ง Philips Water AUT1211
ในกรณีที่เราเคยติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มไว้ก่อนหน้านี้ หรือโครงการบ้านมีการเดินท่อเตรียมไว้ให้ เราสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เลย เพราะภายในกล่องมีอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องใช้ แต่ถ้ายังไม่เดินท่อน้ำไว้รอหรือติดตั้งเองไม่เป็น ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะทางแบรนด์มีบริการติดตั้งฟรีในกรุงเทพและปริมณฑล
นอกจากตัวเครื่องกรองน้ำแล้ว ในกล่องมีสายยาง ประแจ ข้อต่อท่อ เทปพันเกลียว ก๊อกน้ำ และชุดน็อตสำหรับยึดก๊อกน้ำเข้ากับผนัง ก็คือครบทุกอย่างที่จำเป็นแล้ว
ในการติดตั้งครั้งแรก ถ้าต่อท่อน้ำเข้ากับตัวเครื่องกรองไม่ได้ก็ไม่ต้องตกใจครับ เพราะเราต้องถอดจุกปิดท่อออกก่อน โดยใช้ประแจที่ให้มาในชุดงัดจุกออก
จากนั้นให้ต่อท่อน้ำดีเข้ากับช่อง Water inlet และต่อท่อ Filtered water ไปยังก๊อกน้ำ
เนื่องด้วยชุดอ่างล้างจานของผมมีก๊อกน้ำดื่มมาให้แล้ว เลยต่อสายยางเข้ากับก๊อกที่มากับชุดครัว ไม่ได้ใช้ก๊อกที่มากับในกล่อง
แต่ถ้าชุดครัวไม่ได้ออกแบบมาเพื่อติดตั้งก๊อก ก็สามารถยึดเข้ากับผนังโดยใช้อุปกรณ์ในกล่องได้ครับ
…เสร็จแล้ว!!! ง่ายๆ แค่นี้เลยครับ แต่ถ้าหากใครไม่สะดวกติดตั้งเอง ทางแบรนด์มีให้บริการติดตั้งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลด้วย
การเปลี่ยนไส้กรอง Philips Water AUT1211
การเปลี่ยนไส้กรองเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้ผมชอบเครื่องกรองรุ่นนี้ เนื่องจากเปลี่ยนไส้กรองง่ายมาก ไม่ต้องมีเครื่องมือหรือประแจใดๆ แค่ใช้มือหมุนก็จบ
เริ่มจากเปิดฝาครอบด้านหน้าออกก็จะพบไส้กรองทั้ง 3 ชุด ได้แก่ CP, UF, CB
- ไส้กรอง AUT810 CP ทำหน้าที่ช่วยกรองสนิม ทราย คลอรีน และกลิ่น
- ไส้กรอง AUT840 UF ทำหน้าที่ลดฝุ่น แบคทีเรีย และจุลินทรีย์
- ไส้กรอง AUT811 CB ทำหน้าที่ปรับปรุงรสชาติของน้ำ
เมื่อไส้กรองทั้ง 3 ทำงานร่วมกัน ก็จะช่วยกำจัดตะกอน สนิม คลอรีน สารตกค้าง สารอินทรีย์ แบคทีเรีย และจุลินทรีย์ได้ถึง 99.9% กรองได้ละเอียดในระดับ 0.01 ไมครอน ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังดีต่อข้าวของด้วย โดยเฉพาะคราบตะกรันตามเครื่องใช้อย่างกาน้ำร้อน หรือจานชามต่างๆ
วิธีการถอดและใส่ไส้กรองให้ทำการหมุนตามลูกศรได้เลย อาจจะตึงๆ หมุนยากนิดๆ เนื่องจากออกแบบให้กระชับหนาแน่นป้องกันน้ำรั่ว แต่ก็หมุนได้ไม่ยากเกินไปครับ
งานบริการและอะไหล่
โดยเฉลี่ยแล้วชุดไส้กรองทั้ง 3 มีอายุการใช้งานสูงสุด 2 ปี หรือคิดเป็นปริมาณ 3650 ลิตร ขึ้นอยู่กับสภาพของแหล่งน้ำ
- ไส้กรอง AUT810 CP มีอายุใช้งานสูงสุด 12 เดือน ราคา 690 บาท
- ไส้กรอง AUT840 UF มีอายุใช้งานสูงสุด 24 เดือน ราคา 1,590 บาท
- ไส้กรอง AUT811 CB มีอายุใช้งานสูงสุด 12 เดือน ราคา 690 บาท
ความน่าสนใจก็คือบนหน้าร้านมีระบุไว้ว่า
“จะไม่มีการขาดแคลนไส้กรองภายใน 10 ปี หากไส้กรองเลิกผลิต คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในราคาของไส้กรอง”
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะบางรุ่นหาซื้อไส้กรองยากมาก สุดท้ายเราก็ต้องจำใจทิ้งแล้วซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้นการที่ทาง
Philips Water AUT1211 ให้ความสบายใจว่าจะมีไส้กรองอย่างแน่นอนในระยะ 10 ปีนี้ หรือถ้าเลิกผลิตแล้วก็จะให้ซื้อรุ่นใหม่ได้ในราคาของไส้กรอง จึงถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นมาก
ช่องทางการสั่งซื้อ
ถ้าสนใจเครื่องกรองน้ำ Philips Water AUT1211 สามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์
Shopee และ
Lazada กันได้เลยครับ
บทสรุป
ถ้าว่ากันตามตรงแล้วเครื่องกรองน้ำ UF ก็มีตัวเลือกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ผมสนใจ
Philips Water AUT1211 เป็นพิเศษก็คือดีไซน์ที่สวยงาม กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ และยังดูแลรักษาเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย ชนิดที่ว่าแฟนผมก็หมุนเปลี่ยนเองได้ ที่สำคัญคือการให้ความมั่นใจว่าในระยะ 10 ปีนี้จะมีไส้กรองให้ซื้อเปลี่ยนได้อย่างแน่นอน ถ้าเทียบกับราคา 4,990 บาท และหากซื้อในช่วงที่มีโปรโมชั่น ราคาไม่ถึง 3,500 บาทด้วยซ้ำ ผมคิดว่าคุ้มค่ามากครับ
[BR] รีวิว Philips Water AUT1211 เครื่องกรองน้ำเล็กกะทัดรัด เปลี่ยนไส้กรองง่าย ดื่มน้ำได้อย่างสบายใจ
เนื่องจากผมให้ความสำคัญกับเรื่องการกิน พอผมย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ก็เลยลงทุนกับการทำครัวไปไม่น้อย และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องกรองน้ำดีๆ สักเครื่อง ซึ่ง Philips Water AUT1211 เป็นเครื่องกรองน้ำดื่มที่น่าสนใจ ทั้งด้านความสวยงาม กะทัดรัด ความง่ายในการติดตั้ง และเปลี่ยนไส้กรอง เมื่อเทียบกับราคา 4,990 บาท และถ้าสั่งซื้อกับทางร้านในช่วงโปรโมชั่น ราคาอาจไม่ถึง 3,500 บาท อีกด้วย ผมคิดว่าคุ้มค่าและเป็นเครื่องกรองน้ำที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
เหตุผลที่ทุกบ้านควรมีเครื่องกรองน้ำ
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเครื่องกรองน้ำช่วยให้น้ำสะอาดขึ้น แต่คำถามคือมันจำเป็นแค่ไหน?
เรื่องนี้ผมขอเอาประสบการณ์ตัวเองมาเล่าละกันครับ ด้วยความที่ผมเป็นคนต่างจังหวัดและมาทำงานที่กรุงเทพ ผมเคยคิดว่าน้ำประปาในกรุงเทพมันต้องสะอาดสินะ แต่ปรากฎว่าพอย้ายเข้าบ้านใหม่ ฝักบัวอาบน้ำก็ตันเร็วมาก อาบน้ำก็รู้สึกเหนียวตัว สระผมก็รู้สึกกระด้าง ต้องใช้สบู่และยาสระผมเยอะกว่าจะรู้สึกสะอาด เวลาล้างจานเสร็จพอแห้งแล้วก็เป็นคราบสีขาว และอื่นๆ อีกสารพัดสิ่ง ทำให้คิดว่าปัญหาต้องมาจากน้ำแน่ๆ
เลยติดเครื่องกรองน้ำใช้ และผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้งานเพียงแค่ 2 เดือน ก็เปลี่ยนไส้กรองสีขาวประดุจปุยนุ่น ให้กลายเป็นไส้กรองสีโคลน ถ้าลองเอานิ้วไปปาดก็คือดินโคลนนั่นแหละครับ …และใช่ครับ นี่แหละคือน้ำประปาที่เรากินเราใช้
ซึ่งถ้าเราไม่มีเครื่องกรองน้ำ สิ่งแปลกปลอมเช่น คลอรีน, ตะกอน, สนิม, สารตกค้าง ก็จะส่งผลให้เกิดคราบหินปูนหรือตะกรันตามของใช้ต่างๆ และแน่นอนว่าเป็นอันตรายต่อตัวเราโดยตรง ถ้าเรานำไปล้างอาหาร ผัก ผลไม้ หรือกินน้ำก๊อก
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมหยิบมาเล่าให้เห็นภาพมากขึ้น ว่าเครื่องกรองน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากแค่ไหน
ความน่าสนใจของ Philips Water AUT1211
โดยทั่วไปแล้วเครื่องกรองน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือเครื่องกรองน้ำใช้และเครื่องกรองน้ำดื่ม จุดต่างหลักคือเครื่องกรองน้ำดื่มจะกรองน้ำได้สะอาดกว่า ซึ่ง Philips Water AUT1211 จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องกรองน้ำดื่มแบบ UF ครับ
เหตุผลที่ผมชอบเครื่องกรองน้ำแบบ UF มากกว่าแบบ RO ก็เพราะดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องเสียบปลั๊ก ไม่ต้องต่อท่อน้ำทิ้ง แค่ต่อท่อน้ำดีเข้าตัวเครื่องกรอง Philips Water AUT1211 และต่อออกไปยังก๊อกก็ใช้งานได้ทันที ทำให้เราได้น้ำที่สะอาดในระดับที่นำมากินได้ โดยยังคงมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ด้วย
หลายคนมักจะล้างผัก ผลไม้ หรืออาหาร ด้วยน้ำก๊อก โดยอาจลืมไปว่าน้ำก๊อกที่ไม่สะอาดเพียงพอสำหรับการกิน อาจทิ้งสิ่งแปลกปลอมไว้บนอาหารด้วย ดังนั้นวิธีที่ดีคือควรล้างผัก ผลไม้ หรืออาหาร ด้วยน้ำที่ผ่านเครื่องกรอง ซึ่ง Philips Water AUT1211 สามารถกรองเอา คลอรีน, ตะกอน, สนิม, สารตกค้างต่างๆ และแบคทีเรียออกไปได้มากถึง 99.9% ด้วยการกรองแบบ 3 ขั้นตอน
ถัดมาคือเรื่องของดีไซน์ที่ Philips Water AUT1211 ออกแบบมาดูเรียบ เข้ากับชุดครัวได้เป็นอย่างดี จะวางตั้งบนโต๊ะก็สวยงามและไม่เกะกะ
หรือถ้าเดินระบบท่อน้ำไว้ใต้อ่างจ้างจาน การเลือกใช้ Philips Water AUT1211 ก็ทำให้เหลือพื้นที่ในการจัดเก็บของเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากเรื่องประสิทธิภาพการกรองน้ำและเรื่องของดีไซน์ สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาคืออัตราการไหลของน้ำ ซึ่ง Philips Water AUT1211 สามารถผลิตน้ำได้ 2.5 ลิตรต่อนาที ถือว่าไหลได้แรงเลย
การติดตั้ง Philips Water AUT1211
ในกรณีที่เราเคยติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มไว้ก่อนหน้านี้ หรือโครงการบ้านมีการเดินท่อเตรียมไว้ให้ เราสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เลย เพราะภายในกล่องมีอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องใช้ แต่ถ้ายังไม่เดินท่อน้ำไว้รอหรือติดตั้งเองไม่เป็น ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะทางแบรนด์มีบริการติดตั้งฟรีในกรุงเทพและปริมณฑล
นอกจากตัวเครื่องกรองน้ำแล้ว ในกล่องมีสายยาง ประแจ ข้อต่อท่อ เทปพันเกลียว ก๊อกน้ำ และชุดน็อตสำหรับยึดก๊อกน้ำเข้ากับผนัง ก็คือครบทุกอย่างที่จำเป็นแล้ว
ในการติดตั้งครั้งแรก ถ้าต่อท่อน้ำเข้ากับตัวเครื่องกรองไม่ได้ก็ไม่ต้องตกใจครับ เพราะเราต้องถอดจุกปิดท่อออกก่อน โดยใช้ประแจที่ให้มาในชุดงัดจุกออก
จากนั้นให้ต่อท่อน้ำดีเข้ากับช่อง Water inlet และต่อท่อ Filtered water ไปยังก๊อกน้ำ
เนื่องด้วยชุดอ่างล้างจานของผมมีก๊อกน้ำดื่มมาให้แล้ว เลยต่อสายยางเข้ากับก๊อกที่มากับชุดครัว ไม่ได้ใช้ก๊อกที่มากับในกล่อง
แต่ถ้าชุดครัวไม่ได้ออกแบบมาเพื่อติดตั้งก๊อก ก็สามารถยึดเข้ากับผนังโดยใช้อุปกรณ์ในกล่องได้ครับ
…เสร็จแล้ว!!! ง่ายๆ แค่นี้เลยครับ แต่ถ้าหากใครไม่สะดวกติดตั้งเอง ทางแบรนด์มีให้บริการติดตั้งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลด้วย
การเปลี่ยนไส้กรอง Philips Water AUT1211
การเปลี่ยนไส้กรองเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้ผมชอบเครื่องกรองรุ่นนี้ เนื่องจากเปลี่ยนไส้กรองง่ายมาก ไม่ต้องมีเครื่องมือหรือประแจใดๆ แค่ใช้มือหมุนก็จบ
เริ่มจากเปิดฝาครอบด้านหน้าออกก็จะพบไส้กรองทั้ง 3 ชุด ได้แก่ CP, UF, CB
- ไส้กรอง AUT810 CP ทำหน้าที่ช่วยกรองสนิม ทราย คลอรีน และกลิ่น
- ไส้กรอง AUT840 UF ทำหน้าที่ลดฝุ่น แบคทีเรีย และจุลินทรีย์
- ไส้กรอง AUT811 CB ทำหน้าที่ปรับปรุงรสชาติของน้ำ
เมื่อไส้กรองทั้ง 3 ทำงานร่วมกัน ก็จะช่วยกำจัดตะกอน สนิม คลอรีน สารตกค้าง สารอินทรีย์ แบคทีเรีย และจุลินทรีย์ได้ถึง 99.9% กรองได้ละเอียดในระดับ 0.01 ไมครอน ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังดีต่อข้าวของด้วย โดยเฉพาะคราบตะกรันตามเครื่องใช้อย่างกาน้ำร้อน หรือจานชามต่างๆ
วิธีการถอดและใส่ไส้กรองให้ทำการหมุนตามลูกศรได้เลย อาจจะตึงๆ หมุนยากนิดๆ เนื่องจากออกแบบให้กระชับหนาแน่นป้องกันน้ำรั่ว แต่ก็หมุนได้ไม่ยากเกินไปครับ
งานบริการและอะไหล่
โดยเฉลี่ยแล้วชุดไส้กรองทั้ง 3 มีอายุการใช้งานสูงสุด 2 ปี หรือคิดเป็นปริมาณ 3650 ลิตร ขึ้นอยู่กับสภาพของแหล่งน้ำ
- ไส้กรอง AUT810 CP มีอายุใช้งานสูงสุด 12 เดือน ราคา 690 บาท
- ไส้กรอง AUT840 UF มีอายุใช้งานสูงสุด 24 เดือน ราคา 1,590 บาท
- ไส้กรอง AUT811 CB มีอายุใช้งานสูงสุด 12 เดือน ราคา 690 บาท
ความน่าสนใจก็คือบนหน้าร้านมีระบุไว้ว่า “จะไม่มีการขาดแคลนไส้กรองภายใน 10 ปี หากไส้กรองเลิกผลิต คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในราคาของไส้กรอง”
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะบางรุ่นหาซื้อไส้กรองยากมาก สุดท้ายเราก็ต้องจำใจทิ้งแล้วซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้นการที่ทาง Philips Water AUT1211 ให้ความสบายใจว่าจะมีไส้กรองอย่างแน่นอนในระยะ 10 ปีนี้ หรือถ้าเลิกผลิตแล้วก็จะให้ซื้อรุ่นใหม่ได้ในราคาของไส้กรอง จึงถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นมาก
ช่องทางการสั่งซื้อ
ถ้าสนใจเครื่องกรองน้ำ Philips Water AUT1211 สามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ Shopee และ Lazada กันได้เลยครับ
บทสรุป
ถ้าว่ากันตามตรงแล้วเครื่องกรองน้ำ UF ก็มีตัวเลือกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ผมสนใจ Philips Water AUT1211 เป็นพิเศษก็คือดีไซน์ที่สวยงาม กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ และยังดูแลรักษาเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย ชนิดที่ว่าแฟนผมก็หมุนเปลี่ยนเองได้ ที่สำคัญคือการให้ความมั่นใจว่าในระยะ 10 ปีนี้จะมีไส้กรองให้ซื้อเปลี่ยนได้อย่างแน่นอน ถ้าเทียบกับราคา 4,990 บาท และหากซื้อในช่วงที่มีโปรโมชั่น ราคาไม่ถึง 3,500 บาทด้วยซ้ำ ผมคิดว่าคุ้มค่ามากครับ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน