อายุหกสิบกว่าแล้ว แต่งงานตอน 42 เมียทิ้งตอนเกษียณ เพราะไม่มีรายได้ให้เธอไปหมกมุ่นกับการพนัน

ตอนแต่งงานกันใหม่ๆ เงินเดือนผมจะให้เธอเป็นคนเก็บออมเกือบหมด เหลือแค่พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน   มาทราบภายหลังว่าเธอใช้เงินไปกับการเล่นหวย เล่นไพ่ ผมเองก็ไม่เคยขอดูยอดเงินในบัญชีว่ามีเท่าไหร่แล้ว เพราะความไว้วางใจเธอ แม้เพื่อนร่วมงานจะเตือนก่อนแต่งว่าเมียผมนั้นชอบเล่นหวยเล่นไพ่ เพราะเพื่อนก็พอรู้จักกับเมียผมเพราะบ้านใกล้กัน ผมเองก็เคยขอให้เมียเลิกเล่นการพนันเพื่อช่วยกันสร้างครอบครัว เก็บเงินเพื่อซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เธอก็รับปากอย่างแข็งขันจนผมสบายใจว่าเธอสามารถกลับใจไม่ยุ่งการพนัน พอผมย่างเข้าอายุ 58 ผมก็ถามถึงเงินเก็บเพื่อจะไปซื้อบ้านหลังเล็กๆประมาณ ล้านกว่าบาท เธอกลับตกใจร้องไห้และยอมรับว่าเงินในบัญชีมีเหลือไม่ถึงแสน ผมก็ยืนเบลออยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพียงแค่ขอเงินที่เหลือมาเก็บเอง เพราะอายุก็ใกล้เกษียณแล้ว และเงินเดือนที่เคยให้เธอเก็บ ผมก็ให้เธอพอใช้จ่ายต่อเดือนเท่านั้น พออยู่ด้วยกันต่อมาอีกปีกว่า เธอก็หนีไปจากชีวิตผม เพราะผมเกษียณและไม่มีรายได้ ไม่มีบ้าน มีเงินหลังเกษียณไม่กี่แสนบาท มีเบี้ยยังชีพคนชราอีกหกร้อยบาท นี่ผมจะอยู่ได้อีกกี่ปีกับเงินที่เหลือ เพราะร่อยหรอลงไปกับค่าเช่าและค่ากิน คำนวณแล้วคงอยู่ต่อได้เพียง 2-3ปี ส่วนแฟนผมก็ไม่เคยคิดตามหา เพราะลำพังตัวคนเดียว ก็ยังต้องประหยัดแบบไม่กล้าซื้อของไม่จำเป็น

เห็นคู่ชีวิตหนุ่ม นักแสดง ผมเข้าใจเลยว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจเลิกกับเมียที่ติดการพนันทั้งที่มีลูกด้วยกัน เพราะขืนยังดันทุลังชีวิตพังทั้งครอบครัว จะมีแต่หนี้ ผมเองตัดสินใจผิด ทั้งที่เพื่อนก็เตือนแล้ว