ไทม์ไลน์ของชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ไม่แน่ใจว่า จริงเท็จประการใดนะครับ แต่เป็นมุมมองหนึ่ง ที่อยากให้ลองอ่าน หรือฟังดูครับ

เพราะเป็นมุมมองของคนๆเดียว ที่ได้ศึกษามา
************************************^^**



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ปัจจุบันดินแดนที่เรียกว่า ปาเลสไตน์ (Palestine) และ อิสราเอล (Israel) หรือที่ดินศักดิ์สิทธิ์ (Holy Land) นั้นตั้งอยู่ในดินแดนที่มีชื่อในสมัยโบราณว่า “คานาอัน” (Canaan) ของภูมิภาคตะวันออกกลาง (Middle East) ในพื้นที่ราบตามชายฝั่งด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean) โดยทางทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศเลบานอน (Lebanon) ทิศใต้ติดกับประเทศอียิปต์ (Egypt) ทิศตะวันออกด้านบนคือประเทศซีเรีย (Syria) และด้านล่างคือประเทศจอร์แดน (Jordan)



รัฐปาเลสไตน์ (State of Palestine) มีเนื้อที่ 6,020 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยดินแดนฉนวนกาซ่า (Gaza Strip) และบริเวณเวสต์แบงก์ (West Bank) รัฐปาเลสไตน์ได้รับการรับรองว่าเป็นรัฐเอกราช (Sovereign State) จากองค์การสหประชาชาติ (United Nations) และมีสถานะเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก (Non-Member Observer) ของสหประชาชาติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012



ส่วนรัฐอิสราเอล ซึ่งมีเนื้อที่ 20,770 ตารางกิโลเมตร ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1948 และเป็นสมาชิกลำดับที่ 59 ของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1949

.

เหตุการณ์ที่สรุปในไทม์ไลน์ต่อไปนี้ (ไทม์ไลน์ประมาณ และเหตุการณ์ในดินแดนอิสราเอลและปาเลสไตน์) เป็นการประมาณที่ขึ้นอยู่กับที่มาของหลักฐานที่ใช้ ซึ่งมาจากหลายแหล่งที่ข้อมูลไม่ตรงกันนัก หากข้อมูลที่เสนอมานี้มีความผิดพลาดไปมาก ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง

.

ตอน 1 : สรุปประวัติศาสตร์ของอิสราเอลและปาเลสไตน์
ก่อน 10,000 ปีมาแล้ว มีกลุ่มมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ยุคหินกลาง (Mesolithic) ที่เร่ร่อนเข้ามาอาศัยอยู่ตามถ้ำในดินแดนคานาอัน หรือในปาเลสไตน์ และอิสราเอล ผลิตเครื่องมือหิน กระดูก ไม้ (?) ออกล่าสัตว์ จับปลาและเก็บพืชผักผลไม้

10,000 – 4,000 ปีมาแล้ว เริ่มมีการตั้งชุมชนแบบถาวรในดินแดนคานาอันโดยชาวคานาอัน ในสมัยก่อนที่ชาวอิสราเอล (Israelites) หรือชาวฮีบรู (Hebrews) ได้อพยพเข้ามา เช่นที่เมืองโบราณชื่อเจริโค (Jericho) ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์

เดิมชุมชนนี้มีวัฒนธรรมชื่อนาตูเฟียน (Natufian) ที่รู้จักการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ มีการสร้างกำแพงสูงล้อมเมืองพร้อมป้อม เพื่อป้องกันพลเมืองสองพันกว่าคนจากข้าศึก จนนับได้ว่าเป็นเมืองโบราณที่มีอายุเก่าที่สุดในโลก ที่มีการสร้างกำแพงเพื่อป้องกันศัตรู

อมยิ้ม01
3,500 – 1,100 ปีมาแล้ว บนดินแดนคานาอันมีกลุ่มชนชาวฟิลิสไตน์ (Philistines) ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของดินแดนปาเลสไตน์ปัจจุบัน ในเอกสารอียิปต์โบราณมีการกล่าวถึงชาวฟิลิสไตน์ว่า เป็นชนกลุ่มหนึ่งของ “คนของทะเล” (Peoples of the Sea) เป็นกลุ่มชนที่ไม่พูดภาษากลุ่มเซมิติก (Non-Semitic Language) และมีชนชาวโฟนีเซียน (Phoenicians) นักค้าและนักเดินเรือที่อาศัยอยู่ตามเมืองท่าโบราณของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่นที่เมืองบีบลอส (Byblos) ในประเทศเลบานอน และชื่อนี้เป็นที่มาของคำภีร์ไบเบิล (Bible)

มีนักวิชาการเสนอว่า ชาวฟิลิสไตน์อพยพมาจากทางใต้ของยุโรป เช่น ประเทศกรีซแถวหมู่เกาะครีต (Crete) ซึ่งชื่อกลุ่มชนนี้ก็ได้กลายมาเป็นที่มาของคำว่า “ปาเลสไตน์” หรือชาวกรีกเรียกชาวฟิลิสไตน์ว่า ฟิลิสเตีย (Philistia) มีการขุดค้นทางโบราณคดีของหลุมฝังศพชาวฟิลิสไตน์จำนวนหนึ่ง และผลวิเคราะห์ทาง DNA ปรากฏว่าเหมือนกับ DNA ของกลุ่มคนทดลองชาวเลบานอน (Lebanese) ที่อาศัยอยู่ในประเทศเลบานอนปัจจุบัน ชนชาติที่พูดภาษาเซมิติก (Semitic) มีเช่นชาว อาหรับ ยิว อมอไรต์ อัสสีเรีย อัคคาเดีย เบบีโลเนีย โฟนีเซีย ซีเรีย คานาอัน 

อมยิ้ม04

3,950 – 3,750 ปี มาแล้ว (?) อับราฮัม (Abraham) หัวหน้าชนเผ่าฮีบรู เกิดที่เมืองอูร์ (Ur) ในดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิรัก ที่พระเจ้า (God/Yahweh) ได้มอบให้อับราฮัมนำชนเผ่าฮีบรูออกจากดินแดนเมโสโปเตเมีย ไปตั้งชนชาติใหม่บนที่ดินศักดิ์สิทธิ์ (Holy Land) หรือดินแดนแห่งพันธสัญญา (Promised Land) ที่อยู่ในคานาอัน ซึ่งในคัมภีร์ไบเบิลให้คำอธิบายถึงดินแดนนี้ว่า “ที่ดินของน้ำนมและน้ำผึ้ง” (Land of Milk and Honey)

3,750 ปีมาแล้ว (?) เมื่ออับราฮัมอพยพมาถึงดินแดนคานาอัน ก็พบว่า มีกลุ่มชนท้องถิ่นชาวคานาอัน (Canaanites) อาศัยอยู่บนที่ดินนี้อยู่ก่อนแล้ว ปัจจุบันชาวคานาอันโบราณสันนิษฐานว่าเป็นบรรพบุรุษของกลุ่มชนที่ไม่ใช่ชาวฮีบรูที่อาศัยอยู่ในประเทศ อิสราเอล ปาเลสไตน์ เลบานอน จอร์แดน และบางส่วนของซีเรีย 

3,700 ปีมาแล้ว ในดินแดนคานาอันเกิดภัยพิบัติข้าวยากหมากแพง (Famine) ยากต่อการดำรงชีวิต ทำให้ชาวฮิบรูหรือชาวอิสราเอล (Israelites) ภายใต้ผู้นำชื่อเจคอบ (Jacob) ในคานาอันได้ตัดสินใจละทิ้งดินแดนคานาอัน และมุ่งลงใต้เข้าไปในอียิปต์ที่มีอาหารสมบูรณ์กว่า แต่กลับถูกฟาโรห์ (Pharoh) ผู้นำอียิปต์กักตัวเป็นทาสอยู่นานหลายร้อยปี

3,150 ปีก่อนหรือหลังมาแล้ว โมเสส (Moses) ผู้นำชาวฮีบรูได้ช่วยเหลือ และอพยพชาวฮีบรูออกจากอียิปต์ที่เรียกว่าเอ็กโซดัส (Exodus) มุ่งกลับไปที่ดินแดนคานาอัน ที่โมเสสเสกทะเลแดง (Red Sea) ให้เปิดช่องทางให้ชาวอิสราเอลเดินข้ามไปสำเร็จ เมื่อคณะอียิปต์ตามไล่มาจะนำชาวอิสราเอลกลับ แต่โมเสสได้เสกให้น้ำทะเลกับสู่สภาพเดิม ทำให้กลุ่มทหารอียิปต์จมน้ำตาย

ประมาณสองเดือนหลังจากนั้น พระเจ้าทรงประทานบัญญัติ 10 ประการ (Ten Commandments) บนภูเขาไสไน (Mount Sainai) ให้กับโมเสส เพื่อนำไปใช้สั่งสอนการปฏิบัติตัวรวมทั้งโทราห์ (Torah) ชุดคัมภีร์ชุดแรกของชาวฮีบรู หรือชาวอิสราเอล

3,110 ปีมาแล้ว ในที่สุดหลังเดินทางมา 40 ปี ชาวอิสราเอลภายใต้การนำของโจชัว (Joshua) ได้กลับมาถึงดินแดนคานาอันอีกครั้ง ปรากฏว่า ดินแดนคานาอัน ได้ตกเป็นของชาวฟิลิสไตน์ (Philistines) ความแตกต่างทางศาสนา และวัฒนธรรม ระหว่างชาวอิสราเอลที่นับถือพระเจ้าพระองค์เดียว และชาวฟิลิสไตน์ที่นับถือพระเจ้าหลายพระองค์ ทำให้สองกลุ่มชนนี้ไม่ถูกกัน และเป็นปรปักษ์ทำสงครามต่อกันมา

2,970 ปีมาแล้ว ซาอูล (Saul) ผู้นำของชาวฮีบรูได้ถูกเลือกให้เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของชาวฮีบรูในดินแดนคานาอัน ในช่วงนี้มีเด็กหนุ่มชื่อ เดวิด (David) ได้สร้างวีรกรรมดังไปทั่วชาวฮีบรู ในการสังหารแม่ทัพร่างใหญ่ชื่อ โกไลแอธ (Goliath) ของฟิลิสไตน์

2,960 ปีมาแล้ว เดวิด ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของชาวฮีบรู หรืออิสราเอล และสถาปนาอาณาจักรอิสราเอล (Kingdom of Israel) โดยมีเมืองหลวงที่ เยรูซาเล็ม (Jerusalem) หลังจากนี้ ชาวอิสราเอลได้เอาชนะชาวฟิลิสไตน์อย่างสิ้นเชิง

2,920 – 2,881 ปีมาแล้ว อาณาจักรอิสราเอลได้ถึงจุดรุ่งเรืองที่สุดในสมัยของกษัตริย์โซโลมอน (King Solomon) ที่มีการสร้างมหาวิหารโซโลมอน (Solomon’s Temple) อันเป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวฮิบรูนานถึง 400 ปีได้

2,672 ปีมาแล้ว อาณาจักรอิสราเอลล่มสลาย จากการบุกโจมตีของจักรวรรดิอัสซีเรียน (Assirian Empire)



2,646 ปีมาแล้ว เป็นช่วงของสมัยของพระพุทธเจ้าในอินเดีย 

2,537 ปีมาแล้ว มหาวิหารโซโลมอน (Solomon’s Temple) ถูกทำลายโดยกษัตริย์เนบุชชาเนซซาของบาบิโลน (King Nabuchanezzar of Babylon) ที่บุกมายึดเมืองเยรูซาเล็ม ชาวฮีบรูหรือชาวอิสราเอลถูกกวาดต้อนกลับไปที่กรุงบาบิโลน 

2,480 ปีมาแล้ว จักรวรรดิเปอร์เซีย (Persian Empire) ขยายอำนาจและบุกยึดครองบาบิโลน (Babylon) กษัตริย์เปอร์เซีย พระเจ้าไซรัสมหาราช (Cyrus the Great) ทรงปลดปล่อยชาวฮีบรูหรือชาวอิสราเอลในบาบิโลน ให้เดินทางกลับมายังดินแดนบ้านเกิดที่อิสราเอล เมื่อกลับไปแล้วชาวฮีบรูได้ฟื้นฟูกรุงเยรูซาเล็ม และก่อสร้างมหาวิหารเฮรอด (Herod’s Temple) เพื่อทดแทนมหาวิหารโซโลมอนที่ถูกทำลายไป

2,280 ปีมาแล้ว พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) แห่งจักรวรรดิมาซิโดเนียของกรีซ (Macedonia Empire of Greece) บุคเข้ายึดครองอิสราเอล



2,014 ปีมาแล้ว จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire) ได้ขยายอำนาจผนวกอิสราเอลให้เป็นส่วนหนึ่งของโรมัน ในชื่อแคว้นยูเดีย (Judea) ซึ่งในช่วงนี้เองที่ชาวโรมันเรียกชาวอิสราเอลว่า ชาวยิว (Jews)



ค.ศ. 5 – 30 เป็นช่วงชีวิตของพระเยซู (Jesus) ศาสดาของศาสนาคริสต์ ที่พระองค์เป็นชาวยิวที่อาศัยอยู่ในแคว้นยูเดีย

ที่มา : https://www.silpa-mag.com/history/article_121008
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่