สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
1. ถ้าถามผม ผมไม่เอา
2. ขนาดว่า น้องชายผมไปซื้อมา โดยไม่มาปรึกษาผมซักคำ ผมยังด่ามัน จนทะเลาะกันอยู่ 3-4 วันเลย ..
3. ซื้อไปได้ยังไง ??
3.1 ระยะช่องว่างจากพื้น ถึงท้องรถ สูงแค่ 11x มม. (คือ สูงไม่ถึง 12 ซม.) แล้วแบตเตอรี่ก็อยู่ใต้ท้อง ถ้าขับไม่ดี ไปคร่อมของแข็งอะไรเข้า แบตพัง / เสียหาย .. รู้มั้ยว่า แพงแค่ไหน ?
3.2 รถรุ่นนี้ มันเอามอเตอร์วางล้อหลัง ขับล้อหลัง .. ไม่รู้คนออกแบบผลิต มันคิดได้ไง เหมือนสอบตกวิชากลศาสตร์ / วิศวะ ...
ของหนักๆ เค้ามีแต่จะออกแบบลากมวลหนักๆ แต่รถคันนี้ ดันขับล้อหลัง ดันมวลหนักๆ (รถทั้งคัน+แบตเตอรี่หนักๆ กลางรถ)
*** อย่าเอาไปเทียบกับรถบรรทุกนะ มันคนละเรื่อง ถ้ารถบรรทุก บรรทุกหนักเป็นตันๆ อันนี้ ต้องขับล้อหลัง ถูกต้อง
แต่รถเก๋งใช้งานทั่วไป ขับล้อหน้าดีกว่าครับ จะยิ่งดีคือ ขับ 4 ล้อ .. คิดง่ายๆ ว่า ถ้าขับล้อหลังดีสุด เค้าจะออกแบบระบบขับ 4 มาทำไม ? ***
ที่สำคัญ มันเป็นรถไฟฟ้า แรงบิดมันสูงมาก ตั้งแต่ออกตัว โอกาสที่รถจะเสียหลัก ไถลออกข้าง มีเยอะกว่าขับล้อหน้าครับ
4. ข้อดีของรุ่นนี้ ที่ผมนึกออก มีอย่างเดียว คือ เพลาขับล้อคู่หลัง ไม่พังง่ายๆ แบบเพลาขับล้อรถขับหน้าแน่ๆ เพราะมันหักเลี้ยวไม่ได้ มันหมุนตรงๆ มันสามารถแข็งแรงได้ไม่แพ้เพลาขับล้อหลังรถกระบะ
5. ถ้าคุณจะซื้อรถไฟฟ้าไปใช้นะ .. ผมมีข้อแนะนำชนิด "ห้ามมีข้อยกเว้น" เลยครับ คือ .. ควรเป็นรถยกสูง เท่านั้น อย่าซื้อรถเก๋งเตี้ยๆ ครับ
แบตเตอรี่ มันวางที่พื้นรถ / ใต้ท้องรถ มันเสี่ยงกับทั้ง
- น้ำท่วม .. ใน กทม.มีน้ำท่วมทุกปี (จากนี้ไป โอกาสเกิดจะสูงขึ้นเข้าไปอีก) แล้วคุณต้องใช้รถคันนี้อีกเกือบ 10 ปีนะ คงไม่ใช่แค่ 3-4 ปีหรอก
พอรถมันเริ่มเก่า คิดว่าซีลกันน้ำเข้าแบตจะยังคงสภาพดี 100% ได้นานแค่ไหน
- มีอะไรขวางถนน เช่น ก้อนปูน เหล็ก ฯลฯ ที่แข็งมากๆ แล้วคุณขับคร่อมมัน (จริงๆ ไม่อยากคร่อม แต่เพราะมันวิ่งตามรถคันหน้า
มาเห็นตอนลอดใต้คันหน้ามาแล้ว หักหลบไม่ทัน จะเบรคตัวโก่ง ก็ไม่กล้าเบรคเพราะเดี๋ยวโดนชนท้าย)
ชัดเจนมั้ย ???
2. ขนาดว่า น้องชายผมไปซื้อมา โดยไม่มาปรึกษาผมซักคำ ผมยังด่ามัน จนทะเลาะกันอยู่ 3-4 วันเลย ..
3. ซื้อไปได้ยังไง ??
3.1 ระยะช่องว่างจากพื้น ถึงท้องรถ สูงแค่ 11x มม. (คือ สูงไม่ถึง 12 ซม.) แล้วแบตเตอรี่ก็อยู่ใต้ท้อง ถ้าขับไม่ดี ไปคร่อมของแข็งอะไรเข้า แบตพัง / เสียหาย .. รู้มั้ยว่า แพงแค่ไหน ?
3.2 รถรุ่นนี้ มันเอามอเตอร์วางล้อหลัง ขับล้อหลัง .. ไม่รู้คนออกแบบผลิต มันคิดได้ไง เหมือนสอบตกวิชากลศาสตร์ / วิศวะ ...
ของหนักๆ เค้ามีแต่จะออกแบบลากมวลหนักๆ แต่รถคันนี้ ดันขับล้อหลัง ดันมวลหนักๆ (รถทั้งคัน+แบตเตอรี่หนักๆ กลางรถ)
*** อย่าเอาไปเทียบกับรถบรรทุกนะ มันคนละเรื่อง ถ้ารถบรรทุก บรรทุกหนักเป็นตันๆ อันนี้ ต้องขับล้อหลัง ถูกต้อง
แต่รถเก๋งใช้งานทั่วไป ขับล้อหน้าดีกว่าครับ จะยิ่งดีคือ ขับ 4 ล้อ .. คิดง่ายๆ ว่า ถ้าขับล้อหลังดีสุด เค้าจะออกแบบระบบขับ 4 มาทำไม ? ***
ที่สำคัญ มันเป็นรถไฟฟ้า แรงบิดมันสูงมาก ตั้งแต่ออกตัว โอกาสที่รถจะเสียหลัก ไถลออกข้าง มีเยอะกว่าขับล้อหน้าครับ
4. ข้อดีของรุ่นนี้ ที่ผมนึกออก มีอย่างเดียว คือ เพลาขับล้อคู่หลัง ไม่พังง่ายๆ แบบเพลาขับล้อรถขับหน้าแน่ๆ เพราะมันหักเลี้ยวไม่ได้ มันหมุนตรงๆ มันสามารถแข็งแรงได้ไม่แพ้เพลาขับล้อหลังรถกระบะ
5. ถ้าคุณจะซื้อรถไฟฟ้าไปใช้นะ .. ผมมีข้อแนะนำชนิด "ห้ามมีข้อยกเว้น" เลยครับ คือ .. ควรเป็นรถยกสูง เท่านั้น อย่าซื้อรถเก๋งเตี้ยๆ ครับ
แบตเตอรี่ มันวางที่พื้นรถ / ใต้ท้องรถ มันเสี่ยงกับทั้ง
- น้ำท่วม .. ใน กทม.มีน้ำท่วมทุกปี (จากนี้ไป โอกาสเกิดจะสูงขึ้นเข้าไปอีก) แล้วคุณต้องใช้รถคันนี้อีกเกือบ 10 ปีนะ คงไม่ใช่แค่ 3-4 ปีหรอก
พอรถมันเริ่มเก่า คิดว่าซีลกันน้ำเข้าแบตจะยังคงสภาพดี 100% ได้นานแค่ไหน
- มีอะไรขวางถนน เช่น ก้อนปูน เหล็ก ฯลฯ ที่แข็งมากๆ แล้วคุณขับคร่อมมัน (จริงๆ ไม่อยากคร่อม แต่เพราะมันวิ่งตามรถคันหน้า
มาเห็นตอนลอดใต้คันหน้ามาแล้ว หักหลบไม่ทัน จะเบรคตัวโก่ง ก็ไม่กล้าเบรคเพราะเดี๋ยวโดนชนท้าย)
ชัดเจนมั้ย ???
แสดงความคิดเห็น
กำลังหาข้อมูลรถไฟฟ้า 100% MG4 ควรหนีไป! หรือจัดไป!
ใช้เป็นรถสำรอง ใช้วันละไม่เกิน 50 กม. แฟนใช้รับ-ส่งลูก
ถ้าใช้ดี อาจจะใช้เที่ยวเสาร์-อาทิตย์วันละไม่เกิน 400 กม.
คิดว่าจะใช้ได้เกิน 5 ปีไหมนะ อาจจะส่งต่อให้ลูกตอนเข้ามหาลัย
ปล. MG EP ES ทรงมันไม่สวยถูกใจ