เหตุการณ์แรก
ครอบครัวนึงมีลูกสาวคนเดียว ต่อมาลูกสาวแต่งงานออกไป
พยายามมีลูกมาหลายปีไม่สำเร็จ และไม่สามารถมีได้อีกแล้ว
เนื่องจากจำเป็นต้องตัดมดลูกและรังไข่ออก
2-3 ปีหลังมานี่ ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงมาก
เดิมก็ป่วยบ่อยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ป่วยหนักกว่าเดิมเยอะ
เดิมทำงานได้ 5 วัน เวลาปกติ ตอนนี้ต้องลดการทำงานลงเหลือ 3 วันต่ออาทิตย์
เดิมไปเที่ยวได้บ้าง ตอนนี้ไปไหนไม่ได้เลย
หลังแต่งงานพ่อแม่มีการโอนทรัพย์สินใหญ่ให้ลูกสาว
ที่ดินกว่า 10 แห่ง บ้าน 2 หลัง และเงินสดก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
แต่พอทราบว่าไม่สามารถมีทายาทได้ พ่อแม่ก็เป็นห่วงเรื่องทรัพย์สิน
เนื่องจากในครอบครัวพ่อแม่เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้มาก่อน
นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดกับญาติของครอบครัวพ่อแม่ (ญาติ)
ครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่มีมรดกให้ลูกเป็นบ้านและที่ดินหลายแห่ง ลูกแต่งงานแต่ไม่มีลูก
ต่อมาลูกล้มป่วยและเสียชีวิตลง ภรรยาลูกได้ทรัพย์สินไปทั้งหมด และแต่งงานใหม่
ทรัพย์สินส่วนนี้ภรรยาของลูกก็ยกให้สามีใหม่ไป ซึ่งบ้านของพ่อแม่อยู่ติดกับที่ดินนั้น
กลายเป็นสามีใหม่พาพี่น้องและเพื่อนเข้ามาอยู่ในละแวกนั้น จนกลายเป็นชุมชนแออัด
มีทั้งขายยา ขายตัว และอื่นๆ ทำให้ละแวกนั้นกลายเป็นชุมชนที่ไม่ปลอดภัย
และจากทรัพย์สินของครอบครัว ก็เปลี่ยนมือเป็นทรัพย์สินของคนอื่นไป
หลังจากนั้นภรรยาได้เลิกกับสามีใหม่ ภรรยาก็เหลือแต่ตัวเปล่า ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ของอดีตสามีหลงเหลืออยู่เลย
ตอนนี้เหมือนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย พ่อแม่จึงอยากป้องกันเหตุกาณ์นี้
หากไม่มีทายาท กับสามีของลูกสาว ถ้าลูกสาวเสียชีวิตลง จะให้ทรัพย์สินส่วนหนึ่งไปตั้งตัว แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ตอนนี้พ่อแม่มีความคิดที่จะโยกย้ายทรัพย์สินที่เคยโอนให้ลูกสาวไป กลับมาบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
แต่ก็กลัวจะทำร้ายความรู้สึกของทั้งลูกสาวและลูกเขย ตอนนี้เลยยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร
เหตุการณ์ที่ 2
พ่อแม่มีมรดกเป็นบ้าน 1 หลัง ราคาตลาดประมาณ 20-25 ล้าน
โดยบ้านหลังนี้หลังจากที่พ่อแม่ตาย ก็เป็นของพี่น้อง 6 คน โดยใส่ชื่อเป็นเจ้าบ้านร่วมกัน
พี่น้อง 3 คน โสด ไม่ได้แต่งงาน คนนึงแต่งงานมีหลาน 1 คน อีก 1 คน แต่งงานมีลูก 1 คน แต่หย่าแล้ว คนสุดท้ายแต่งงานแต่ไม่มีลูก
ทุกวันนี้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มี 4 คน คือคนที่โสด และคนที่หย่าแล้ว
อีก 2 คน ไปซื้อบ้านอยู่ที่อื่น
ตอนนี้พี่น้องทั้ง 6 คน อายุ 70 กว่ากันหมดแล้ว
ทั้ง 6 คน คุยกันโดยมีทางออกเรื่องบ้านดังนี้
3 คน เห็นด้วยกับการที่จะยกบ้านหลังนี้ให้เป็นของหลาน (ลูกของน้องคนที่แต่งงานมีลูก 1 คน)
โดยคนที่ยังอยู่บ้านนี้ ก็อยู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสียชีวิตไปทั้งหมด แล้วหลานจะย้ายมาอยู่ หรือจะทำอะไรกับบ้านก็ได้
แต่อีก 3 คน ไม่เห็นด้วย โดยไม่อยากจะยกบ้านให้หลานตอนนี้ เพราะจากที่ตัวเองเป็นเจ้าบ้านจะกลายเป็นผู้อาศัยทันที
และกลัวหลานจะไล่คนที่อยู่ออกจากบ้านไป แต่ถ้าเสียชีวิตกันหมดแล้ว หลานก็จะได้บ้านนั่นแหละ
มีเสียงแตกระหว่างพี่น้อง เนื่องจากหากพี่น้องคนใดคนหนึ่งที่เสียชีวิตคนท้ายๆ
อาจจะมีการยกบ้านหลังนี้ให้กับคนนอกครอบครัวได้
พี่น้องคนนึงเคยยกคอนโดและทรัพย์สินส่วนนึงให้กับแฟนที่เด็กกว่ามาก่อน จนทำให้ตัวเองไม่มีที่อยู่
ตอนนี้จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้ ว่าจะทำยังไงกับบ้านหลังนี้ค่ะ
อยากสอบถามความเห็นจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในลุงพันค่ะ
ว่าการจัดการกับทั้งสองเหตุการณ์นี้ ควรจะหาทางออกแบบไหน ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ปล ถ้าถามว่าเราคือใครในเหตุการณ์ทั้งสองนี้
มีเหตุการณ์นึงที่เราเกี่ยวข้องโดยตรง และมีเหตุการณ์นึงที่เราเกี่ยวข้องทางอ้อมค่ะ
แต่คือมีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งสองเหตุการณ์ โดยเราจะไม่ขอลงรายละเอียดในส่วนนี้นะคะ
เรื่องมรดกกับเหตุการณ์แบบนี้ มีทางออกยังไงบ้าง
ครอบครัวนึงมีลูกสาวคนเดียว ต่อมาลูกสาวแต่งงานออกไป
พยายามมีลูกมาหลายปีไม่สำเร็จ และไม่สามารถมีได้อีกแล้ว
เนื่องจากจำเป็นต้องตัดมดลูกและรังไข่ออก
2-3 ปีหลังมานี่ ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงมาก
เดิมก็ป่วยบ่อยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ป่วยหนักกว่าเดิมเยอะ
เดิมทำงานได้ 5 วัน เวลาปกติ ตอนนี้ต้องลดการทำงานลงเหลือ 3 วันต่ออาทิตย์
เดิมไปเที่ยวได้บ้าง ตอนนี้ไปไหนไม่ได้เลย
หลังแต่งงานพ่อแม่มีการโอนทรัพย์สินใหญ่ให้ลูกสาว
ที่ดินกว่า 10 แห่ง บ้าน 2 หลัง และเงินสดก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
แต่พอทราบว่าไม่สามารถมีทายาทได้ พ่อแม่ก็เป็นห่วงเรื่องทรัพย์สิน
เนื่องจากในครอบครัวพ่อแม่เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้มาก่อน
นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดกับญาติของครอบครัวพ่อแม่ (ญาติ)
ครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่มีมรดกให้ลูกเป็นบ้านและที่ดินหลายแห่ง ลูกแต่งงานแต่ไม่มีลูก
ต่อมาลูกล้มป่วยและเสียชีวิตลง ภรรยาลูกได้ทรัพย์สินไปทั้งหมด และแต่งงานใหม่
ทรัพย์สินส่วนนี้ภรรยาของลูกก็ยกให้สามีใหม่ไป ซึ่งบ้านของพ่อแม่อยู่ติดกับที่ดินนั้น
กลายเป็นสามีใหม่พาพี่น้องและเพื่อนเข้ามาอยู่ในละแวกนั้น จนกลายเป็นชุมชนแออัด
มีทั้งขายยา ขายตัว และอื่นๆ ทำให้ละแวกนั้นกลายเป็นชุมชนที่ไม่ปลอดภัย
และจากทรัพย์สินของครอบครัว ก็เปลี่ยนมือเป็นทรัพย์สินของคนอื่นไป
หลังจากนั้นภรรยาได้เลิกกับสามีใหม่ ภรรยาก็เหลือแต่ตัวเปล่า ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ของอดีตสามีหลงเหลืออยู่เลย
ตอนนี้เหมือนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย พ่อแม่จึงอยากป้องกันเหตุกาณ์นี้
หากไม่มีทายาท กับสามีของลูกสาว ถ้าลูกสาวเสียชีวิตลง จะให้ทรัพย์สินส่วนหนึ่งไปตั้งตัว แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ตอนนี้พ่อแม่มีความคิดที่จะโยกย้ายทรัพย์สินที่เคยโอนให้ลูกสาวไป กลับมาบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
แต่ก็กลัวจะทำร้ายความรู้สึกของทั้งลูกสาวและลูกเขย ตอนนี้เลยยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร
เหตุการณ์ที่ 2
พ่อแม่มีมรดกเป็นบ้าน 1 หลัง ราคาตลาดประมาณ 20-25 ล้าน
โดยบ้านหลังนี้หลังจากที่พ่อแม่ตาย ก็เป็นของพี่น้อง 6 คน โดยใส่ชื่อเป็นเจ้าบ้านร่วมกัน
พี่น้อง 3 คน โสด ไม่ได้แต่งงาน คนนึงแต่งงานมีหลาน 1 คน อีก 1 คน แต่งงานมีลูก 1 คน แต่หย่าแล้ว คนสุดท้ายแต่งงานแต่ไม่มีลูก
ทุกวันนี้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มี 4 คน คือคนที่โสด และคนที่หย่าแล้ว
อีก 2 คน ไปซื้อบ้านอยู่ที่อื่น
ตอนนี้พี่น้องทั้ง 6 คน อายุ 70 กว่ากันหมดแล้ว
ทั้ง 6 คน คุยกันโดยมีทางออกเรื่องบ้านดังนี้
3 คน เห็นด้วยกับการที่จะยกบ้านหลังนี้ให้เป็นของหลาน (ลูกของน้องคนที่แต่งงานมีลูก 1 คน)
โดยคนที่ยังอยู่บ้านนี้ ก็อยู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสียชีวิตไปทั้งหมด แล้วหลานจะย้ายมาอยู่ หรือจะทำอะไรกับบ้านก็ได้
แต่อีก 3 คน ไม่เห็นด้วย โดยไม่อยากจะยกบ้านให้หลานตอนนี้ เพราะจากที่ตัวเองเป็นเจ้าบ้านจะกลายเป็นผู้อาศัยทันที
และกลัวหลานจะไล่คนที่อยู่ออกจากบ้านไป แต่ถ้าเสียชีวิตกันหมดแล้ว หลานก็จะได้บ้านนั่นแหละ
มีเสียงแตกระหว่างพี่น้อง เนื่องจากหากพี่น้องคนใดคนหนึ่งที่เสียชีวิตคนท้ายๆ
อาจจะมีการยกบ้านหลังนี้ให้กับคนนอกครอบครัวได้
พี่น้องคนนึงเคยยกคอนโดและทรัพย์สินส่วนนึงให้กับแฟนที่เด็กกว่ามาก่อน จนทำให้ตัวเองไม่มีที่อยู่
ตอนนี้จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้ ว่าจะทำยังไงกับบ้านหลังนี้ค่ะ
อยากสอบถามความเห็นจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในลุงพันค่ะ
ว่าการจัดการกับทั้งสองเหตุการณ์นี้ ควรจะหาทางออกแบบไหน ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ปล ถ้าถามว่าเราคือใครในเหตุการณ์ทั้งสองนี้
มีเหตุการณ์นึงที่เราเกี่ยวข้องโดยตรง และมีเหตุการณ์นึงที่เราเกี่ยวข้องทางอ้อมค่ะ
แต่คือมีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งสองเหตุการณ์ โดยเราจะไม่ขอลงรายละเอียดในส่วนนี้นะคะ