ผมเป็นลูกชายคนเดียวของที่บ้าน อาศัยอยู่ด้วยกันกับแม่สองคนมาตั้งแต่จำความได้
ผมทำเรื่องผิดพลาดอย่างนึงจนทำให้เงินเก็บของที่บ้านสูญเสียไปราวสองแสนบาท
ผมถูกไล่ออกไปนอนนอกบ้านหนึ่งคืนในคืนที่เกิดเรื่อง และอาการทางจิตกำเริบขึ้นมาอย่างรุนแรง
ไม่ขอลงรายละเอียดอะไรมากมายตรงนี้นะครับ เพราะคงต้องอธิบายยาว..........
*แก้ไขเพิ่มวงเล็บ
(ไม่ใช่การพนัน ไม่ใช่สันทนาการ แต่เกี่ยวกับความผิดพลาดในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินเชื่อธนาคาร ซึ่งเลือกที่จะไม่เล่าตรงนี้ เพราะมันต้องใส่รายละเอียดจำเพาะหลายอย่างถึงจะเข้าใจ ซึ่งจะทำให้กระทู้ผมถูกหาเจอจากคนใกล้ตัวได้โดยง่าย ไม่ใช่มีเจตนาปิดบังครับ หลายๆคนคงคิดอย่างนั้น ผมไม่ได้มาหาหนทางหลีกเลี่ยงความผิดไม่ชดใช้ แต่ผมแค่ไม่กล้าที่จะชดใช้ด้วยเงินก้อนด้วยวิธีที่แม่พยายามเสนอผม )
แต่มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมามีผลลัพธ์แบบนี้
ผมยอมรับในความผิดพลาดที่สร้างความเสียหายต่อครอบครัวทุกๆอย่างครับ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ
ผมตั้งใจว่าหลังได้งานจะผ่อนจ่ายแม่ด้วยเงินงวดหลักพันบาทต่อเดือน โดยเริ่มจากเดือนแรกที่ได้รับเงินเดือนเลย
ตอนนี้แม่กำลังจ่อเอาผิดผมทั้งทางอาญาและทางแพ่งอยู่
ซึ่งผมกำลังเร่งหางานให้เร็วที่สุด ตอนนี้ผมตกงาน ผมเลยขอเวลาไปก่อน แต่เรื่องของเรื่องแม่ไม่ได้ได้อยากได้เงินผ่อน
อยากให้ผมไปหามายังไงก็ได้เพื่อชดใช้เป็นก้อนเลย
แม่ผมเสนอทางออกมาให้ผมสามครั้งด้วยกัน คือภายในปีนี้ถ้าหาเงินมาคืนแม่ไม่ได้เป็นจำนวนก้อนที่ว่า
ผมจะถูกดำเนินคดีอาญาและรวมไปถึงฟ้องแพ่งด้วย ส่วนทางออกอีกทางนึง คือให้ผมฆ่าตัวตายซะ(แบบที่คนภายนอกคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ)
แล้วเงินที่ได้จากประกันอุบัติเหตุจะได้ชดใช้มูลค่าความเสียหายที่เสียไป
สรุปผมมีทางเลือกทางออกอยู่สามทาง ในเมื่อแม่ไม่ยอมรับเงินชดใช้เป็นการผ่อนจ่าย
1. ผมหาเงินมาชดใช้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ผมไม่ต้องติดคุกและอาจจะไม่ต้องตายด้วย (ซึ่งแน่นอนว่าผมหาไม่ทันแน่ๆ เดือนเศษๆจะถึงสิ้นปีแล้ว)
2. ผมหาเงินมาชดใช้ไม่ได้ ผมต้องถูกดำเนินคดีอาญา ไม่แน่ใจว่าจะคาบเกี่ยวคดีอะไรบ้าง และยังต้องชดใช้ทางแพ่ง (อันนี้แล้วแต่ศาลจะสั่ง)
3. ผมหาเงินมาชดใช้ได้ด้วยการที่ผมตายแล้วประกันชดใช้จากการเสียชีวิตของผม ซึ่งทางเลอกนี้ผมจะหมดพันธะทุกอย่าง แต่แม่ยืนยันว่ายังไงก็จะตามสาปแช่งตามจองกรรมผมไปตลอด
ผมป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคไบโพลาร์ ความคิดผมไหลไปง่ายๆมากๆครับ เคยมีประวัติพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหนึ่งครั้ง
ผมกลัวความคิดตัวเองที่ถูกพูดกรอกหูแบบนี้ทุกวัน ที่สำคัญคือมันไม่ใช่คำพูดที่พูดเล่นๆเพราะแม่ขอร้องให้ผมเลือกทางเลือกที่สามมาถึงสามครั้งด้วยกันแล้ว
ปล. ตัวแม่เองก็เป็นผู้ป่วยทางจิตเวชที่รับประทานยาต่อเนื่องอยู่เหมือนกันครับ
แม่พูดย้ำๆให้ผมไปตายเพื่อชดใช้ความผิด ผมควรเลือกทางไหนดี
ผมทำเรื่องผิดพลาดอย่างนึงจนทำให้เงินเก็บของที่บ้านสูญเสียไปราวสองแสนบาท
ผมถูกไล่ออกไปนอนนอกบ้านหนึ่งคืนในคืนที่เกิดเรื่อง และอาการทางจิตกำเริบขึ้นมาอย่างรุนแรง
ไม่ขอลงรายละเอียดอะไรมากมายตรงนี้นะครับ เพราะคงต้องอธิบายยาว..........
*แก้ไขเพิ่มวงเล็บ
(ไม่ใช่การพนัน ไม่ใช่สันทนาการ แต่เกี่ยวกับความผิดพลาดในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินเชื่อธนาคาร ซึ่งเลือกที่จะไม่เล่าตรงนี้ เพราะมันต้องใส่รายละเอียดจำเพาะหลายอย่างถึงจะเข้าใจ ซึ่งจะทำให้กระทู้ผมถูกหาเจอจากคนใกล้ตัวได้โดยง่าย ไม่ใช่มีเจตนาปิดบังครับ หลายๆคนคงคิดอย่างนั้น ผมไม่ได้มาหาหนทางหลีกเลี่ยงความผิดไม่ชดใช้ แต่ผมแค่ไม่กล้าที่จะชดใช้ด้วยเงินก้อนด้วยวิธีที่แม่พยายามเสนอผม )
แต่มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมามีผลลัพธ์แบบนี้
ผมยอมรับในความผิดพลาดที่สร้างความเสียหายต่อครอบครัวทุกๆอย่างครับ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ
ผมตั้งใจว่าหลังได้งานจะผ่อนจ่ายแม่ด้วยเงินงวดหลักพันบาทต่อเดือน โดยเริ่มจากเดือนแรกที่ได้รับเงินเดือนเลย
ตอนนี้แม่กำลังจ่อเอาผิดผมทั้งทางอาญาและทางแพ่งอยู่
ซึ่งผมกำลังเร่งหางานให้เร็วที่สุด ตอนนี้ผมตกงาน ผมเลยขอเวลาไปก่อน แต่เรื่องของเรื่องแม่ไม่ได้ได้อยากได้เงินผ่อน
อยากให้ผมไปหามายังไงก็ได้เพื่อชดใช้เป็นก้อนเลย
แม่ผมเสนอทางออกมาให้ผมสามครั้งด้วยกัน คือภายในปีนี้ถ้าหาเงินมาคืนแม่ไม่ได้เป็นจำนวนก้อนที่ว่า
ผมจะถูกดำเนินคดีอาญาและรวมไปถึงฟ้องแพ่งด้วย ส่วนทางออกอีกทางนึง คือให้ผมฆ่าตัวตายซะ(แบบที่คนภายนอกคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ)
แล้วเงินที่ได้จากประกันอุบัติเหตุจะได้ชดใช้มูลค่าความเสียหายที่เสียไป
สรุปผมมีทางเลือกทางออกอยู่สามทาง ในเมื่อแม่ไม่ยอมรับเงินชดใช้เป็นการผ่อนจ่าย
1. ผมหาเงินมาชดใช้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ผมไม่ต้องติดคุกและอาจจะไม่ต้องตายด้วย (ซึ่งแน่นอนว่าผมหาไม่ทันแน่ๆ เดือนเศษๆจะถึงสิ้นปีแล้ว)
2. ผมหาเงินมาชดใช้ไม่ได้ ผมต้องถูกดำเนินคดีอาญา ไม่แน่ใจว่าจะคาบเกี่ยวคดีอะไรบ้าง และยังต้องชดใช้ทางแพ่ง (อันนี้แล้วแต่ศาลจะสั่ง)
3. ผมหาเงินมาชดใช้ได้ด้วยการที่ผมตายแล้วประกันชดใช้จากการเสียชีวิตของผม ซึ่งทางเลอกนี้ผมจะหมดพันธะทุกอย่าง แต่แม่ยืนยันว่ายังไงก็จะตามสาปแช่งตามจองกรรมผมไปตลอด
ผมป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคไบโพลาร์ ความคิดผมไหลไปง่ายๆมากๆครับ เคยมีประวัติพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหนึ่งครั้ง
ผมกลัวความคิดตัวเองที่ถูกพูดกรอกหูแบบนี้ทุกวัน ที่สำคัญคือมันไม่ใช่คำพูดที่พูดเล่นๆเพราะแม่ขอร้องให้ผมเลือกทางเลือกที่สามมาถึงสามครั้งด้วยกันแล้ว
ปล. ตัวแม่เองก็เป็นผู้ป่วยทางจิตเวชที่รับประทานยาต่อเนื่องอยู่เหมือนกันครับ