ประมาณว่าเปลี่ยนนิดๆหน่อยๆ ไม่กี่หมื่นบาท ก็ขับได้หลายสิบปี
ถ้ารถทุกวันนี้ เครื่องยนต์ตัวเดิมยังอยู่กับรถ
เข้าศูนย์ เปลี่ยนแค่บางส่วนก้ใช้ได้นานมาก
1 ปี 20,000 km
10 ปี 200,000 km
20 ปี 400,000 km (ปัจจุบันใช้อยู่ ที่ 20 ปี 4 แสนนิดๆ ตอนนี้ที่เปลี่ยนหนักสุดคือ พวกลูกปืนปีกนกต่างๆ ซึ่งก็ยังไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ เป็นที่โครงสร้างรถ EV ก็คงแบบเดียวกัน)
แต่ไม่รู้ว่าคนอื่น ขับรถน้ำมันไปกี่แสนโล ถึงจะ overhaul เครื่อง
เพราะคิดอยู่ว่า ถ้ารถไฟฟ้า ทำไม่ได้เท่ารถน้ำมัน
ก็คงไม่ซื้อ
เพราะไม่คุ้มเท่าไหร่
กลัวว่าขับไปได้ 10-15 ปี 200,000-300,000 km
แล้วต้องเปลี่ยนแบต ยกชุดเกือบเท่าราคาตัวรถ ก็ไม่ไหว
เช่น จากเดิม 500 km ต่อการชาร์จ ใช้ไป 10 ปี แบตเสื่อมไป 10% เหลือ 450 km
ใช้ไป 15 ปี แบตเสื่อม 20% เหลือ 400 km ต่อการชาร์จ
แล้วต้องมาเปลี่ยนใหม่
พอคิดไปคิดมา รถน้ำมันดั้งเดิม กลับคุ้มกว่า เพราะใช้ได้นานกว่า โดยไม่ต้องลงทุนเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ (เทียบเท่าเปลี่ยนแบต)
โอกาสที่ EV จะขับได้ 4แสน km ขึ้น ถึง ล้าน km เหมือนรถสันดาป เป็นไปได้หรือไม่
ถ้ารถทุกวันนี้ เครื่องยนต์ตัวเดิมยังอยู่กับรถ
เข้าศูนย์ เปลี่ยนแค่บางส่วนก้ใช้ได้นานมาก
1 ปี 20,000 km
10 ปี 200,000 km
20 ปี 400,000 km (ปัจจุบันใช้อยู่ ที่ 20 ปี 4 แสนนิดๆ ตอนนี้ที่เปลี่ยนหนักสุดคือ พวกลูกปืนปีกนกต่างๆ ซึ่งก็ยังไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ เป็นที่โครงสร้างรถ EV ก็คงแบบเดียวกัน)
แต่ไม่รู้ว่าคนอื่น ขับรถน้ำมันไปกี่แสนโล ถึงจะ overhaul เครื่อง
เพราะคิดอยู่ว่า ถ้ารถไฟฟ้า ทำไม่ได้เท่ารถน้ำมัน
ก็คงไม่ซื้อ
เพราะไม่คุ้มเท่าไหร่
กลัวว่าขับไปได้ 10-15 ปี 200,000-300,000 km
แล้วต้องเปลี่ยนแบต ยกชุดเกือบเท่าราคาตัวรถ ก็ไม่ไหว
เช่น จากเดิม 500 km ต่อการชาร์จ ใช้ไป 10 ปี แบตเสื่อมไป 10% เหลือ 450 km
ใช้ไป 15 ปี แบตเสื่อม 20% เหลือ 400 km ต่อการชาร์จ
แล้วต้องมาเปลี่ยนใหม่
พอคิดไปคิดมา รถน้ำมันดั้งเดิม กลับคุ้มกว่า เพราะใช้ได้นานกว่า โดยไม่ต้องลงทุนเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ (เทียบเท่าเปลี่ยนแบต)