อิสราเอลเผย ฮามาสส่งรายชื่อตัวประกันชุดสอง เตรียมปล่อยตัว 25 พ.ย.นี้
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211148
ทางการอิสราเอลเผยว่า กลุ่มฮามาสได้ส่งรายชื่อตัวประกันชาวอิสราเอลชุดที่สอง ที่เตรียมจะปล่อยตัวในวันนี้แล้ว (25 พ.ย. 66) หลังตัวประกันชุดแรก รวมแรงงานไทย 10 คนได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
เช้าวันที่ 25 พ.ย. 66 ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าว CNN รายงานว่า สำนักนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล เผยว่า หน่วยข่าวกรองอิสราเอล หรือมอสซาด (Mossad) และกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ได้รับรายชื่อตัวประกันชาวอิสราเอลชุดที่สอง ซึ่งจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้แล้ว (25 พ.ย. 66) แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนตัวประกันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงของสำนักนายกฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล กำลังตรวจสอบรายชื่อที่ได้รับจากกลุ่มฮามาส พร้อมแจ้งครอบครัวตัวประกันให้ทราบ
ทั้งนี้ ทางการอิสราเอลจะยังไม่เผยแพร่รายชื่อตัวประกัน ที่จะได้รับการปล่อยตัวต่อสาธารณชน จนกว่าตัวประกันเหล่านี้จะถึงอิสราเอลอย่างปลอดภัย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว 4 วัน โดยกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวเด็กและผู้หญิงรวม 50 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวประกัน 240 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้ในฉนวนกาซา เป็นเวลานาน 7 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่เปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่อิสราเอลก็ต้องปล่อยตัวประกันชาวปาเลสไตน์ 150 คนเป็นการแลกเปลี่ยน
ในส่วนของการปล่อยตัวประกันชุดแรก มีรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 21.00 น. ของเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 ตามเวลาประเทศไทย กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันทั้งหมด 24 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า ตัวประกันชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัว เป็นชาวอิสราเอล 13 คน ชาวไทย 10 คน และชาวฟิลิปปินส์ 1 คน ซึ่งทั้งหมดได้เดินทางออกจากฉนวนกาซา พร้อมกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับตัวประกัน
ส่วนประเทศไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติม โดยปรับยอดตัวประกันไทยที่ถูกปล่อยตัวจากเดิม 12 คน เป็น 10 คน ซึ่งตอนนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลในอิสราเอล และจะพักตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 48 ชั่วโมง จากนั้นรัฐบาลไทยจะดำเนินการเพื่อรับชาวไทยทั้ง 10 คน กลับประเทศต่อไป
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศยังเปิดเผยด้วยว่า คาดว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวที่เป็นชาวไทยอีก 20 คน จากเดิม 26 คน และย้ำว่ารัฐบาลไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือชาวไทยกลุ่มนี้ต่อไป
ส่วนฝั่งของอิสราเอล ก็ได้ปล่อยตัวผู้หญิงและเด็กชาวปาเลสไตน์ 39 คนที่ถูกคุมขังในเรือนจำอิสราเอลเช่นเดียวกัน ในวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
เศรษฐกิจบังกลาเทศส่อล่มสลาย หลังเกิดวิกฤตการเมืองภายในประเทศ
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211149
บังกลาเทศ เผชิญวิกฤตทางการเมือง หลังกลุ่มพรรคฝ่ายค้านปลุกระดมผู้สนับสนุนออกมาชัตดาวน์เพื่อประท้วงรัฐบาล ส่งผลให้ค่าครองชีพดีดตัว-ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ สร้างความเสี่ยงสูงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ความไม่สงบทางการเมืองในบังกลาเทศ กำลังทำลายเศรษฐกิจที่สั่นคลอนของประเทศ ขณะที่พรรค BNP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน พยายามกดดันให้นายกรัฐมนตรีหญิง
ชีค ฮาสินา ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม
ทั้งนี้พรรคสันนิบาตอวามี (Awami League) เป็นพรรครัฐบาลของ
ชีค ฮาสินา ที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2009 แต่การเลือกตั้งทั่วไปสองครั้งล่าสุดในปี 2014 และ 2018 พรรคสันนิบาตอวามี เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และถูกคว่ำบาตรจากพรรคฝ่ายค้าน เนื่องจากถูกข้อครหาว่า โกงคะแนนเสียงเลือกตั้งมหาศาล
ชีค ฮาสินา วัย 76 ปี ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลหญิงที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก ยังถูกกล่าวหาว่า ปราบปรามฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เห็นด้วยอย่างโหดร้ายในช่วงระยะเวลาเกือบ 15 ปีที่ผ่านมา
จากการเลือกตั้งที่ถูกมองว่าไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ทำให้พรรค BNP และพันธมิตรเรียกร้องให้ฟื้นฟูระบบรัฐบาลรักษาการที่เป็นกลาง เพื่อดูแลการเลือกตั้งระดับชาติ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าการเลือกตั้งเสรีและยุติธรรม จะไม่เกิดขึ้นภายใต้การปกครองของนายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้
ที่ผ่านมา รัฐบาลรักษาการประสบความสำเร็จในการจัดการเลือกตั้งอย่างน้อย 4 ครั้ง โดยในการเลือกตั้ง 4 ครั้งนั้น มี พรรคสันนิบาตอวามี พรรครัฐบาลในปัจจุบัน และพรรค BNP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านผลัดกันขึ้นสู่อำนาจคราวละ 2 ครั้ง
แต่ในปี 2011 รัฐบาลรักษาการที่ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลบริหารการเลือกตั้งที่เป็นกลางถูกยุบ หลังปฏิบัติภารกิจ นับตั้งแต่บังกลาเทศเปลี่ยนผ่านระบอบการปกครอง จากเผด็จการทหารสู่ระบอบประชาธิปไตยในช่วงต้นทศวรรษที่ 90
ผลงานของการมีรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมา ได้สร้างความเชื่อมั่นในระบบนี้ และทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้าน BNP ได้พยายามผลักดันให้กลับมาใช้ระบบนี้อีกครั้ง แต่ก็เกิดการฟ้องร้องกันวุ่นวายจนเป็นคดีความหลายพันคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรค BNP และพันธมิตร ได้ให้คำมั่นสัญญาอีกครั้งว่า จะยกระดับการก่อความโกลาหลก่อนการเลือกตั้งระดับชาติที่จะมีขึ้นในปีหน้า และนับตั้งแต่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านก็ได้ประกาศชัตดาวน์ทั่วประเทศมาแล้วหลายครั้ง
ความวุ่นวาย และทางตันการเมือง ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ชาวบังกลาเทศต้องก้มหน้ารับชะตากรรมอันข่มขื่น อย่าง
ราหุล อามิน (Rahul Amin) ผู้บริหารบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว ต้องจ่ายเงินค่าโดยสารไปทำงานมากกว่าปกติถึง 10 เท่า เนื่องจากรถโดยสารต่าง ๆ ทั้งรถแท็กซี่ รถสามล้อ และรถประจำทางวิ่งน้อยมาก ทำให้รถโดยสารเหล่านี้ต้องขึ้นราคา
นอกจากนี้ ชาวบังกลาเทศยังต้องดิ้นรนกับราคาค่าอาหาร และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว (2022) และความโกลาหลทางการเมืองล่าสุดกำลังสร้างความหายนะให้กับผู้คนในประเทศ
ราหุลย้ำว่า ตัวเขาเข้าใจถึงข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้าน ที่ต้องการอยากมีการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม แต่เศรษฐกิจของประเทศจะล่มสลาย หากการชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป
ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบของเศรษฐกิจในบังกลาเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้บอบช้ำมาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามในยูเครน
บังกลาเทศ เผชิญกับเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ และได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันรายได้จากการส่งออกก็ตกต่ำที่สุดในรอบ 26 เดือน ทำให้รัฐบาลของ
ชีค ฮาสินา ต้องเร่งขอเงินกู้ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.6 แสนล้านบาท) จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ขณะที่
อับดูร์ รูฟ ตาลุกดาร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางบังกลาเทศออกมายอมรับเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด และกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ด้านสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมบังกลาเทศ หรือ FBCCI ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าระดับสูงสุดของประเทศ ระบุว่า การชัดตาวน์จากการประท้วงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ได้สร้างความสูญเสียให้กับเศรษฐกิจของบังกลาเทศไปแล้ว 65,000 ล้านตากาบังกลาเทศ (ราว 2 หมื่นล้านบาท) ส่วนธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ในครั้งนี้อย่างชัดเจน
ฝั่ง
ซาฮิด ฮุสเซน (Zahid Hussain) อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกสาขากรุงธากา ระบุว่า ทางตันการเมืองของบังกลาเทศ ณ ปัจจุบัน ดูคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ซึ่งครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่ผลกระทบจากการเมืองในครั้งนี้ อาจทำให้ชาวบังกลาเทศเจ็บปวดกว่านั้นมาก เพราะไม่ใช่แค่ว่าบังกลาเทศมีระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังเป็นเพราะเครื่องมือการดูแลด้านความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน อย่างเครื่องมือด้านเงินกองทุน และการสร้างกันชนทางเศรษฐกิจมีความเปราะบาง
วิเคราะห์ “เศรษฐา” มาจาก“รัฐบาลข้ามขั้ว” ทำให้มีความกดดันสูงชี้ทีมงานใกล้ชิดต้องทำงานให้เป็น
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4298229
อธึกกิต แสวงสุข หรือ ใบตองแห้ง คอลัมนิสต์การเมือง สนทนาในรายการ The Politics คำพูดเป็นนายตัวเอง ไม่เคยมีนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนไหนมาพูดเรื่องแบบนี้ในพรรคแล้วมีการถ่ายทอดสด ซึ่งสังคมก็รู้ว่ามีการกระทำแบบนั้นจริง ไม่เข้าใจว่านายกฯหลุดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จแล้วทางการเมือง เสียความชอบธรรมทางการเมือง แต่มองว่าไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่ในทางปฏิบัติแต่เครดิตส่วนตัวจะลดลง ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
JJNY : ฮามาสส่งรายชื่อตัวประกันชุดสอง│เศรษฐกิจบังกลาเทศส่อล่มสลาย│วิเคราะห์“เศรษฐา”มาจาก“รัฐบาลข้ามขั้ว”│น้ำท่วมพ่นพิษ!!
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211148
ทางการอิสราเอลเผยว่า กลุ่มฮามาสได้ส่งรายชื่อตัวประกันชาวอิสราเอลชุดที่สอง ที่เตรียมจะปล่อยตัวในวันนี้แล้ว (25 พ.ย. 66) หลังตัวประกันชุดแรก รวมแรงงานไทย 10 คนได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงของสำนักนายกฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล กำลังตรวจสอบรายชื่อที่ได้รับจากกลุ่มฮามาส พร้อมแจ้งครอบครัวตัวประกันให้ทราบ
ทั้งนี้ ทางการอิสราเอลจะยังไม่เผยแพร่รายชื่อตัวประกัน ที่จะได้รับการปล่อยตัวต่อสาธารณชน จนกว่าตัวประกันเหล่านี้จะถึงอิสราเอลอย่างปลอดภัย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว 4 วัน โดยกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวเด็กและผู้หญิงรวม 50 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวประกัน 240 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้ในฉนวนกาซา เป็นเวลานาน 7 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่เปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่อิสราเอลก็ต้องปล่อยตัวประกันชาวปาเลสไตน์ 150 คนเป็นการแลกเปลี่ยน
ในส่วนของการปล่อยตัวประกันชุดแรก มีรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 21.00 น. ของเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 ตามเวลาประเทศไทย กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันทั้งหมด 24 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า ตัวประกันชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัว เป็นชาวอิสราเอล 13 คน ชาวไทย 10 คน และชาวฟิลิปปินส์ 1 คน ซึ่งทั้งหมดได้เดินทางออกจากฉนวนกาซา พร้อมกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับตัวประกัน
ส่วนประเทศไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติม โดยปรับยอดตัวประกันไทยที่ถูกปล่อยตัวจากเดิม 12 คน เป็น 10 คน ซึ่งตอนนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลในอิสราเอล และจะพักตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 48 ชั่วโมง จากนั้นรัฐบาลไทยจะดำเนินการเพื่อรับชาวไทยทั้ง 10 คน กลับประเทศต่อไป
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศยังเปิดเผยด้วยว่า คาดว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวที่เป็นชาวไทยอีก 20 คน จากเดิม 26 คน และย้ำว่ารัฐบาลไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือชาวไทยกลุ่มนี้ต่อไป
ส่วนฝั่งของอิสราเอล ก็ได้ปล่อยตัวผู้หญิงและเด็กชาวปาเลสไตน์ 39 คนที่ถูกคุมขังในเรือนจำอิสราเอลเช่นเดียวกัน ในวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
เศรษฐกิจบังกลาเทศส่อล่มสลาย หลังเกิดวิกฤตการเมืองภายในประเทศ
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211149
บังกลาเทศ เผชิญวิกฤตทางการเมือง หลังกลุ่มพรรคฝ่ายค้านปลุกระดมผู้สนับสนุนออกมาชัตดาวน์เพื่อประท้วงรัฐบาล ส่งผลให้ค่าครองชีพดีดตัว-ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ สร้างความเสี่ยงสูงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ความไม่สงบทางการเมืองในบังกลาเทศ กำลังทำลายเศรษฐกิจที่สั่นคลอนของประเทศ ขณะที่พรรค BNP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน พยายามกดดันให้นายกรัฐมนตรีหญิง ชีค ฮาสินา ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม
ทั้งนี้พรรคสันนิบาตอวามี (Awami League) เป็นพรรครัฐบาลของชีค ฮาสินา ที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2009 แต่การเลือกตั้งทั่วไปสองครั้งล่าสุดในปี 2014 และ 2018 พรรคสันนิบาตอวามี เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และถูกคว่ำบาตรจากพรรคฝ่ายค้าน เนื่องจากถูกข้อครหาว่า โกงคะแนนเสียงเลือกตั้งมหาศาล
ชีค ฮาสินา วัย 76 ปี ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลหญิงที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก ยังถูกกล่าวหาว่า ปราบปรามฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เห็นด้วยอย่างโหดร้ายในช่วงระยะเวลาเกือบ 15 ปีที่ผ่านมา
จากการเลือกตั้งที่ถูกมองว่าไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ทำให้พรรค BNP และพันธมิตรเรียกร้องให้ฟื้นฟูระบบรัฐบาลรักษาการที่เป็นกลาง เพื่อดูแลการเลือกตั้งระดับชาติ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าการเลือกตั้งเสรีและยุติธรรม จะไม่เกิดขึ้นภายใต้การปกครองของนายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้
ที่ผ่านมา รัฐบาลรักษาการประสบความสำเร็จในการจัดการเลือกตั้งอย่างน้อย 4 ครั้ง โดยในการเลือกตั้ง 4 ครั้งนั้น มี พรรคสันนิบาตอวามี พรรครัฐบาลในปัจจุบัน และพรรค BNP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านผลัดกันขึ้นสู่อำนาจคราวละ 2 ครั้ง
แต่ในปี 2011 รัฐบาลรักษาการที่ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลบริหารการเลือกตั้งที่เป็นกลางถูกยุบ หลังปฏิบัติภารกิจ นับตั้งแต่บังกลาเทศเปลี่ยนผ่านระบอบการปกครอง จากเผด็จการทหารสู่ระบอบประชาธิปไตยในช่วงต้นทศวรรษที่ 90
ผลงานของการมีรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมา ได้สร้างความเชื่อมั่นในระบบนี้ และทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้าน BNP ได้พยายามผลักดันให้กลับมาใช้ระบบนี้อีกครั้ง แต่ก็เกิดการฟ้องร้องกันวุ่นวายจนเป็นคดีความหลายพันคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรค BNP และพันธมิตร ได้ให้คำมั่นสัญญาอีกครั้งว่า จะยกระดับการก่อความโกลาหลก่อนการเลือกตั้งระดับชาติที่จะมีขึ้นในปีหน้า และนับตั้งแต่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านก็ได้ประกาศชัตดาวน์ทั่วประเทศมาแล้วหลายครั้ง
ความวุ่นวาย และทางตันการเมือง ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ชาวบังกลาเทศต้องก้มหน้ารับชะตากรรมอันข่มขื่น อย่าง ราหุล อามิน (Rahul Amin) ผู้บริหารบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว ต้องจ่ายเงินค่าโดยสารไปทำงานมากกว่าปกติถึง 10 เท่า เนื่องจากรถโดยสารต่าง ๆ ทั้งรถแท็กซี่ รถสามล้อ และรถประจำทางวิ่งน้อยมาก ทำให้รถโดยสารเหล่านี้ต้องขึ้นราคา
นอกจากนี้ ชาวบังกลาเทศยังต้องดิ้นรนกับราคาค่าอาหาร และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว (2022) และความโกลาหลทางการเมืองล่าสุดกำลังสร้างความหายนะให้กับผู้คนในประเทศ
ราหุลย้ำว่า ตัวเขาเข้าใจถึงข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้าน ที่ต้องการอยากมีการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม แต่เศรษฐกิจของประเทศจะล่มสลาย หากการชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป
ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบของเศรษฐกิจในบังกลาเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้บอบช้ำมาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามในยูเครน
บังกลาเทศ เผชิญกับเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ และได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันรายได้จากการส่งออกก็ตกต่ำที่สุดในรอบ 26 เดือน ทำให้รัฐบาลของชีค ฮาสินา ต้องเร่งขอเงินกู้ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.6 แสนล้านบาท) จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ขณะที่ อับดูร์ รูฟ ตาลุกดาร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางบังกลาเทศออกมายอมรับเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด และกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ด้านสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมบังกลาเทศ หรือ FBCCI ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าระดับสูงสุดของประเทศ ระบุว่า การชัดตาวน์จากการประท้วงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ได้สร้างความสูญเสียให้กับเศรษฐกิจของบังกลาเทศไปแล้ว 65,000 ล้านตากาบังกลาเทศ (ราว 2 หมื่นล้านบาท) ส่วนธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ในครั้งนี้อย่างชัดเจน
ฝั่ง ซาฮิด ฮุสเซน (Zahid Hussain) อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกสาขากรุงธากา ระบุว่า ทางตันการเมืองของบังกลาเทศ ณ ปัจจุบัน ดูคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ซึ่งครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่ผลกระทบจากการเมืองในครั้งนี้ อาจทำให้ชาวบังกลาเทศเจ็บปวดกว่านั้นมาก เพราะไม่ใช่แค่ว่าบังกลาเทศมีระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังเป็นเพราะเครื่องมือการดูแลด้านความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน อย่างเครื่องมือด้านเงินกองทุน และการสร้างกันชนทางเศรษฐกิจมีความเปราะบาง
วิเคราะห์ “เศรษฐา” มาจาก“รัฐบาลข้ามขั้ว” ทำให้มีความกดดันสูงชี้ทีมงานใกล้ชิดต้องทำงานให้เป็น
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4298229
อธึกกิต แสวงสุข หรือ ใบตองแห้ง คอลัมนิสต์การเมือง สนทนาในรายการ The Politics คำพูดเป็นนายตัวเอง ไม่เคยมีนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนไหนมาพูดเรื่องแบบนี้ในพรรคแล้วมีการถ่ายทอดสด ซึ่งสังคมก็รู้ว่ามีการกระทำแบบนั้นจริง ไม่เข้าใจว่านายกฯหลุดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จแล้วทางการเมือง เสียความชอบธรรมทางการเมือง แต่มองว่าไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่ในทางปฏิบัติแต่เครดิตส่วนตัวจะลดลง ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้