JJNY : รูโหว่โอโซนอาจไม่เล็กลง│ก้าวไกลชี้นายกฯผิดม.185│"ช่อ"สวน"หมอเลี้ยบ" ซอฟต์พาวเวอร์│แม่ค้าโอด ผักสดปรับราคาสูง

วิจัยใหม่ชี้ รูโหว่โอโซนอาจไม่เล็กลงอย่างที่คิด แต่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/210883
 
 
วิจัยชิ้นใหม่พบว่า รูโหว่โอโซนอาจไม่ได้กำลังเล็กลงอย่างที่เคยประเมิน แต่อาจมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
 
ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีผลการศึกษาหลายชิ้นที่ระบุว่ารูโหว่ของบรรยากาศโลกชั้นโอโซน (Ozone) กำลังมีขนาดที่เล็กลงเรื่อย ๆ และน่าจะกลับสู่สภาวะปกติในอีก 20 ปีข้างหน้า แต่เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยงานวิจัยชิ้นใหม่ที่พบว่ารูโหว่นี้อาจยังไม่เล็กลงอย่างที่คิด และอาจมีขนาดใหญ่กว่าเดิมด้วย
 
การศึกษาดังกล่าวเป็นผลงานของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอทาโก (University of Otago) นิวซีแลนด์ โดยพบว่า ระดับความหนาแน่นของโอโซนบริเวณรูโหว่เหนือท้องฟ้าทวีปแอนตาร์กติกในช่วงฤดูใบไม้ผลิลดลงไป 26% นับตั้งแต่ปี 2004

ทีมวิจัยระบุว่าผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่ารูโหว่บนชั้นบรรยากาศโอโซนเหนือท้องฟ้าทวีปแอนตาร์กติกไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่เหมือนเดิมเท่านั้น แต่ยังขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าชั้นบรรยากาศโอโซนมีควาหนาแน่นลดลง
 
โดยทีมวิจัยวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้บรรยากาศชั้นโอโซนเหนือทวีปแอนตาร์กติกมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงในกระแสมวลลมขั้วโลกใต้ หย่อมความกดอากาศต่ำที่กินวงกว้าง และอากาศที่หนายเย็นมากในพื้นที่ตอนบนขั้วโลกใต้
 
แม้ทีมวิจัยจะไม่ได้ลงรายเอียดเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่เชื่อว่าการที่ความหนาแน่นของบรรยากาศชั้นโอโซนมีระดับลดลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะมลภาวะที่ทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากไฟป่าและการปะทุของภูเขาไฟ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรสุริยะ ที่เป็นสาเหตุของแปรปรวนบนชั้นบรรยากาศด้านในดวงอาทิตย์ และนำไปสู่เกิดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์มากมายที่ส่งผลต่อสภาพอากาศโลก
 
สำหรับผลการศึกษาที่งานวิจัยชิ้นดังกล่าวนำเสนอเป็นการโต้แย้งกับรายงานก่อนหน้านี้หลายฉบับที่ยืนยันว่ารูโหว่บนบรรยากาศชั้นโอโซนมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆและอาจจะกลับสู่ระดับเดียวกับยุคทศวรรษ 1980 ได้ในปี 2040 ซึ่งถูกมองว่าจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากความร่วมมือของนานาประเทศ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามเงื่อนไขของพิธีสารมอนทรีออลในการห้ามใช้ “คลอโลฟลูอูโรคาร์บอนส์” (chlorofluorocarbons) หรือ CFS ซึ่งเป็นองประกอบสำคัญในสีสเปรย์ ตัวทำละลาย และ สารทำความเย็น
 


ก้าวไกล ชี้นายกฯผิด ม.185 หลังพูดเรื่องตั้ง ผกก. ในที่ประชุมเพื่อไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4294623
 
ก้าวไกล ชี้นายกฯผิด ม.185 หลังพูดเรื่องตั้ง ‘ผกก.ใหม่’ ในที่ประชุมเพื่อไทย
 
จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ในฐานะสมาชิกพรรค โดยช่วงหนึ่งระหว่างกล่าวถึงการกำจัดหนี้นอกและในระบบ ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 28 พ.ย. ระหว่างนายอำเภอ ผู้กำกับการ และผู้การจังหวัด ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวมาจาก นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรค พท.
 
นายกฯระบุว่า ผู้กำกับใหม่ ผมมั่นใจว่ามีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวัง ในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะเยอะเหลือเกิน แต่คงมีไม่น้อยที่สมหวัง เพราะเป็น ผกก.ใหม่ ที่เราต้องพูดคุยเรื่องนี้ให้เข้าใจถ่องแท้ กำจัดปัญหาออกไป ดังนั้น นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่เราถือเป็นเรื่องสำคัญ
  
ประเด็นนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุผ่านเอ็กซ์ว่า 
 
การที่นายกฯพูดว่ามี ส.ส.มาขอตำแหน่งผู้กำกับใหม่ เป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 185 ของ รธน.60 อย่างชัดเจน เพราะ ส.ส.ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง ก้าวก่าย การแต่งตั้ง โยกย้าย โอน หรือเลื่อนตำแหน่งของข้าราชการ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม
 
และยังว่า “นายกฯต้องตอบคำถามสังคมให้ชัดว่า ส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมในวันที่ 21 พ.ย. ที่นายกฯระบุว่ามาขอตำแหน่งผู้กำกับใหม่กับนายกฯนั้นมีใครบ้าง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นความผิดตาม ม.185 ของรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนมาก
 
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตทางเอ็กซ์ว่า 
 
เรื่อง #ตั๋วเพื่อไทย นี่ใหญ่มากนะครับ อำนาจในการแต่งตั้งผู้กำกับเป็นอำนาจของผู้บัญชาการ ตาม ม.66 พ.ร.บ.ตำรวจ และ ม.68 ก็ให้อำนาจผู้การเสนอแนะการแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับในสังกัดตนเองได้ ส่วนอำนาจนายก คือการเสนอชื่อ ผบ.ตร.นู่นครับ การที่คุณเศรษฐาเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย รับฝากชื่อ ผกก. จาก ส.ส.เพื่อไทย คือการทำผิดกฎหมาย เป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น
 
ส.ส.ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าทราบว่าใครบ้างก็ทำผิดกฎหมายด้วยกันทั้งหมดครับ

https://twitter.com/wirojlak/status/1726962129268507128
https://twitter.com/wirojlak/status/1726984836605473182
https://twitter.com/RangsimanRome/status/1727154747713757690
 

  
"ช่อ" สวน "หมอเลี้ยบ" ซอฟต์พาวเวอร์ นิยามลื่นไหลเหมือนความรัก แต่รัฐพูดจะมีปัญหาความเชื่อมั่น
https://siamrath.co.th/n/494593

จากกรณีที่ นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ ประเด็น นิยามของซอฟต์พาวเวอร์คืออะไร ทำไมถึงใช้คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ
 
ล่าสุด "ช่อ" น.ส.พรรณิกา วาณิช แกนนำคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) @Pannika_FWP ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า...
 
ดิฉันขอความกรุณาคุณหมอเลี๊ยบอย่าหยิบเอาคำว่า “นั่งสวยๆ ให้เขามาซื้อของเราเอง” ไปตีความขยายความเองว่าเท่ากับการไม่ทำอะไร เพราะในคลิปของดิฉันพูดอย่างละเอียดว่าดิฉันต้องการให้รัฐบาลทำอะไร
 
1. เลือกกำหนดยุทธศาสตร์ว่าจะหยิบเอาอะไรมาเป็น Soft power กันแน่
 
2. ผลักดันสนับสนุนสิ่งนั้นอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง วางมาตรฐานให้ดี สร้างสตอรี่ให้มีคุณค่า ขายนานาชาติได้ ลดอุปสรรคทางกฎหมาย เพิ่มการเข้าถึงเงินทุน
 
3. เมื่อทำทั้งสองข้อนี้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จะเกิด soft power ให้นานาชาติเห็นคุณค่าของประเทศไทย และถือว่าไทยเป็นผู้นำในด้านนั้นๆ จนต้องการมาศึกษา มาซื้อสินค้าบริการของไทยโดยอัตโนมัติ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นประเทศไทยในด้านนั้นๆอยู่ในจิตสำนึก
สุดท้าย ขอฝากย้ำคำถามไปที่คุณหมอว่า
 
1. THACCA หน่วยงาน soft power ที่เพื่อไทยหาเสียงไว้ กว่าจะตั้งขึ้น สุดท้ายต้องรอกลางปีหน้า พ.ร.บ. ถึงจะเสร็จ เท่ากับใช้เวลา 1 ปี เหตุใดจึงล่าช้าขนาดนั้นทั้งที่นี่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย พ.ร.บ. ตั้ง THACCA น่าจะเขียนไว้แล้วตั้งแต่ตอนทำนโยบายหาเสียง เพราะเพื่อไทยน่าจะมั่นใจว่าจะได้เป็นรัฐบาลแน่อยู่แล้ว และหากเป็นตามที่คุณหมอว่า ว่า THACCA เอาแบบอย่างมาจาก KOCCA หน่วยงาน soft power ของเกาหลี การร่างกฎหมายจัดตั้งยิ่งไม่ควรใช้เวลานาน เพราะมีแนวทางให้ศึกษาอยู่แล้วว่าจะต้องมีอำนาจและภารกิจใดบ้าง
 
2. ฟังวันนี้ คุณหมอตั้งใจจะไม่เลือกจริงๆใช่หรือไม่ ว่าจะเอาอะไรเป็น soft power กันแน่ แต่จะทำทุกอย่าง ดิฉันเป็นห่วงจริงๆว่าเมื่อทุกอย่างสำคัญ จะไม่มีอะไรสำคัญเลย เมื่อทุกอย่างเป็น soft power ก็จะไม่มีอะไรได้เป็น soft power เลย ตอนคุณทักษิณทำ “ครัวไทยไปครัวโลก” ก็ได้เลือกจะทำเรื่องอาหารไทย ตอนนี้เราก็ควรเลือกธีมให้ชัด เพื่อดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็สามารถได้รับการสนับสนุนจากรัฐได้ ภายใต้นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การบอกว่าอะไรๆ ก็เป็น soft power นิยามมันลื่นไหลเหมือนความรัก ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปย่อมพูดได้ แต่ถ้ารัฐบาลหรือคณะกรรมการ soft power เป็นผู้พูด จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นและการทำความเข้าใจนโยบายนี้ ตั้งแต่ข้าราชการผู้ปฏิบัติงาน ไปจนถึงนานาชาติ #กรรมกรข่าวคุยนอกจอ

https://twitter.com/Pannika_FWP/status/1727157567347187898
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่