คนภายในที่เคยสัมผัสกิจกรรมนี้จะเข้าใจ คนภายนอกก็ลองคิดตามดูก็ได้นะคะ
ในโลกของประถม-มัธยม จะมีการแข่งศิลปหัตถกรรมกันทุกปี มีรายการหนึ่งคือ ภาพยนตร์สั้น ก็จัดแข่งมาหลายปี
เราก็สมัครเป็นกรรมการเกือบทุกปี และทุกปีต้องเจอ...
ทีมที่นักเรียนซักซ้อมนำเสนอมาอย่างดี แต่ไม่มีความรู้เรื่องทำภาพยนตร์สั้นเลย
ทีมที่เข้าแข่ง บ่อยครั้งไม่ได้เป็นแม้แต่นักแสดงในเรื่อง อ้างว่าตัวเองเป็นคนถ่าย เป็นคนตัดต่อ แต่พอยิงคำถามแล้วก็ตอบไม่ได้
คือเราเข้าใจได้ว่าเด็กนักเรียนไม่มีความรู้หรือทักษะทำหนังกันอยู่แล้ว ต้องมีคนสอนแนะนำมาก่อน
แต่ก็ควรเป็นการฝึกสอนเด็กให้ทำหนังมาด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ใช่ครูทำทุกขั้นตอน
และหนักกว่านั้นคือครูก็ทำไม่เป็น
ไปจ้างตากล้องจ้างทีมหนังสั้นมาทำแล้วมาเฉือนหนังสั้นของทีมที่เขาทำเองจริงๆ
สรุปคือเป็นกรรมการมาตลอด รู้สึกติดลบกับรายการภาพยนตร์สั้นมาก หากจะวัดความสามารถนักเรียนหรือครูฝึกซ้อม ต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเลยว่า นักเรียนเกิดการเรียนรู้และฝึกฝนในรายการนี้มาจริงๆ ไม่ใช่ดูแต่ว่าหนังดีมาก แล้วชนะ ถ้าอย่างนั้นเราจ้างคนมาทำแล้วฝึกเด็กนำเสนอดีๆ ก็ชนะแล้ว ถูกไหม
ความยุติธรรมในการแข่งจะอยู่ตรงไหน
แล้วที่จริงไม่ใช่ว่าการทำงานจะพิสูจน์ไม่ได้นะว่าหนังทำเองไหม
แค่เมื่อถึงหน้างานที่ต้องเป็นกรรมการก็อืม ไม่อยากหักหาญน้ำใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องหลับหูหลับตาไปถึงเมื่อไร
อยากให้ OBEC FILM ทบทวนบ้าง
ไม่งั้นให้กำหนดเลยว่าทำหนังสั้นกันสดๆ หน้างาน อย่างนั้นวัดกึ๋นกันจริงๆ
แข่งภาพยนตร์สั้นนักเรียนในงานศิลปหัตถกรรม รู้สึกว่ามันไม่เคยแฟร์เลย
ในโลกของประถม-มัธยม จะมีการแข่งศิลปหัตถกรรมกันทุกปี มีรายการหนึ่งคือ ภาพยนตร์สั้น ก็จัดแข่งมาหลายปี
เราก็สมัครเป็นกรรมการเกือบทุกปี และทุกปีต้องเจอ...
ทีมที่นักเรียนซักซ้อมนำเสนอมาอย่างดี แต่ไม่มีความรู้เรื่องทำภาพยนตร์สั้นเลย
ทีมที่เข้าแข่ง บ่อยครั้งไม่ได้เป็นแม้แต่นักแสดงในเรื่อง อ้างว่าตัวเองเป็นคนถ่าย เป็นคนตัดต่อ แต่พอยิงคำถามแล้วก็ตอบไม่ได้
คือเราเข้าใจได้ว่าเด็กนักเรียนไม่มีความรู้หรือทักษะทำหนังกันอยู่แล้ว ต้องมีคนสอนแนะนำมาก่อน
แต่ก็ควรเป็นการฝึกสอนเด็กให้ทำหนังมาด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ใช่ครูทำทุกขั้นตอน
และหนักกว่านั้นคือครูก็ทำไม่เป็น
ไปจ้างตากล้องจ้างทีมหนังสั้นมาทำแล้วมาเฉือนหนังสั้นของทีมที่เขาทำเองจริงๆ
สรุปคือเป็นกรรมการมาตลอด รู้สึกติดลบกับรายการภาพยนตร์สั้นมาก หากจะวัดความสามารถนักเรียนหรือครูฝึกซ้อม ต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเลยว่า นักเรียนเกิดการเรียนรู้และฝึกฝนในรายการนี้มาจริงๆ ไม่ใช่ดูแต่ว่าหนังดีมาก แล้วชนะ ถ้าอย่างนั้นเราจ้างคนมาทำแล้วฝึกเด็กนำเสนอดีๆ ก็ชนะแล้ว ถูกไหม
ความยุติธรรมในการแข่งจะอยู่ตรงไหน
แล้วที่จริงไม่ใช่ว่าการทำงานจะพิสูจน์ไม่ได้นะว่าหนังทำเองไหม
แค่เมื่อถึงหน้างานที่ต้องเป็นกรรมการก็อืม ไม่อยากหักหาญน้ำใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องหลับหูหลับตาไปถึงเมื่อไร
อยากให้ OBEC FILM ทบทวนบ้าง
ไม่งั้นให้กำหนดเลยว่าทำหนังสั้นกันสดๆ หน้างาน อย่างนั้นวัดกึ๋นกันจริงๆ