กิเลส

คือโรงเรียนเราใช่มั้ยเขาก็จะมีประจำแบบว่ามีคนเสียชีวิตใช่มั้ยแล้วเขาก็จะเก็บเงินเหมือนว่าทำบุญอ่ะค่ะตามสัทธา ไม่ใช่เราไม่อยากทำนะคะเราเข้าใจว่าเป็นการทำบุญแต่อยากรู้ความคิดเห็นของคนอื่นว่าคิดเห็นยังไง

พื้นที่เดียวกัน ซิมหลักได้ 7m มัลติซิมวัดได้ 1m จะสลับซิมก็ซิมคนละขนาด ไม่รู้ว่าเป็นที่ซิม ที่เครือข่าย หรือทึ่ตัวเครื่องกันแน่

เมื่อกิเลส ตัณหา ทำให้จิตใจคนลุ่มร้อน เครียดแค้น ร้อนลุ่มสุมอุรา.. ผู้คนก็ต้องเดินทางไปหาพระที่วัด พระก็จะทำหน้าที่หาทางปลดปล่อยให้จิตใจของผู้คนสงบสุขด้วยความเมตตา.. ประเทศไทยโชคดี ที่มีพระที่ท่านรู้จ

เราเป็นคนหนึ่งที่เริ่มตาสว่างได้จริงๆ เสียทีว่า วัดไม่ควรมีเงินมากมายเพื่อเลี้ยงกิเลสของพระ ถ้าจะทำบุญเอาอาหาร ของกินของใช้ ไปให้คนจนถึงที่จะดีกว่าได้ช่วยคนเดือดร้อนจริงๆ แถมได้บุญโดยไม่ต้องระแวงกลัวว

หลายคนอาจจะงงๆ กับคำถาม ก็คือว่า ถ้าเราไปทำบุญ แล้วเราทำบุญเพื่อหวังจะได้บุญ ( หวัง = กิเลส ) ในเมื่อทำบุญแล้วมีกิเลส เราจะยังได้บุญอยู่รึเปล่า ? Ex. ทำบุญแล้วขอพรให้ถูกหวย >>> เท่ากับว่าคนๆน

หลายคนไม่ชอบเข้าวัดทำบุญ ไม่เคยไปวัดนั่งสมาธิเลย บางคนว่ารอแก่ก่อน หรือ รอ….แล้วแต่เหตุผล มีอะไรที่ดีกว่าการเข้าวัดไหม บางคนเห็นข่าวพระทำผิดเยอะ เลยหมด สัทธา ในพุทธศาสนา

คหบดี ! ก็ สัทธาสัมปทาเป็นอย่างไรเล่า ? อริยสาวกในธรรมวินัย ย่อมเป็นผู้มีศรัทธา เชื่อ พระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่า “เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้

คหบดี ! ก็ สัทธาสัมปทาเป็นอย่างไรเล่า ? อริยสาวกในธรรมวินัย ย่อมเป็นผู้มีศรัทธา เชื่อ พระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่า “เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้

ผมว่าสิ่งเหล่านี้ คนส่วนใหญ่คิดขึ้นมาเองว่าจะได้บุญมาก มีเเต่บาป อกุศลมากกว่า อ่านในพุทธวจนะก่ไม่มี การให้ทานเพื่อละความตะหนี่ไม่ใช้เพื่อเพิ่มกิเลส พระสงฆ์ควรบอกฆราวาสหรือไม่น่ะว่าสิ่งเรานี้ไม่ดี